การปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับ
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา ปี B |
อสค 2:2-5 2 คร 12:7-10 มก 6:1-6 |
บทนำ
ในหนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลก
มีบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงหลายคนถูกปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับ เช่น ลุดวิก วาน บีโธเฟน คีตกวีเอกและอัฉริยะด้านดินตรีชาวเยอรมัน
ถูกมองว่ามีรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างอึดอัด และชอบประพันธ์เพลงของตัวเองมากกว่าเล่นบทประพันธ์ของศิลปินคลาสสิกในสมัยของเขา
ครูไม่เห็นด้วยกับเทคนิคของเขาเรียกเขาว่าสิ้นหวังในฐานะนักแต่งเพลง
อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์ พูดไม่ได้จนกระทั่งเขาอายุสี่ขวบ และอ่านไม่ออกจนกระทั่งอายุเก้าขวบ
ครูที่โรงเรียนบอกว่าเขา “มีจิตใจเชื่องช้า ไม่เข้าสังคม
และล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของเขา และเขาจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ” โธมัส เอดิสัน คุณครูแนะนำพ่อแม่ให้เก็บเขาไว้ที่บ้านและบอกว่า
“เขาโง่เกินกว่าจะเรียนรู้สิ่งใด” ชาร์ลส์
ดาร์วิน ได้บันทึกว่า “ครูทุกคนและพ่อของผมมองว่า ผมเป็นเด็กธรรมดามาก
ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานทางสติปัญญาทั่วไป”
เรื่องราวบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของโลกหลายคน เป็นตัวอย่างของการปฏิเสธและการไม่ได้รับการยอมรับจากคนใกล้ชิด
เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้าที่ถูกชาวนาซาเร็ธปฏิเสธและไม่ยอมรับ
เมื่อพระองค์เสด็จกลับนาซาเร็ธบ้านเกิดของพระองค์ พวกเขาพูดกันว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน... คนนี้เป็นช่างไม้
ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ...
พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” (มก 6: 2-3) พวกเขาได้ปฏิเสธและไม่ยอมรับพระองค์
1.
การปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับ
พระวรสารวันนี้เล่าเรื่องราวของพระเยซูเจ้ากับสถานการณ์ตึงเครียด
ในศาลาธรรมเมืองนาซาเร็ธสถานที่ที่พระองค์เคยเจริญวัย
ชาวนาซาเร็ธไม่ต้อนรับพระองค์และปฏิเสธที่จะฟังพระองค์เทศน์สอน เพราะอคติและจิตใจคับแคบของพวกเขาที่คิดว่า
พระองค์เป็นแค่ลูกของช่างไม้ชื่อโยเซฟ และแม่ชื่อมารีย์หญิงชาวบ้านที่ไม่มีอะไร
แล้วพระองค์ได้ปรีชาญาณนี้มาจากไหน พวกเขาอยากให้พระองค์แสดง (อัศจรรย์)
ให้พวกเขาได้เห็นว่า พระองค์เป็นพระผู้ไถ่แท้จริง
พระเยซูเจ้ารู้ถึงความต้องการของชาวนาซาเร็ธจึงตรัสว่า
“ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยาม นอกจากในถิ่นกำเนิด
ท่ามกลางวงศ์ญาติและในบ้านของตน”
(มก 6:4) นี่เป็นความจริงที่ทิ่มแทงใจดำของพวกเขา เราอาจตกในบาปเดียวกันกับชาวนาซาเร็ธคือ
“อคติและความใจแคบ” จิตใจริษยาและคับแคบทำให้มองไม่เห็นด้านดีของผู้อื่น หรือสิ่งอื่น
พระเยซูเจ้าทรงตอบปัญหานี้ด้วยพระองค์เองเมื่อตรัสว่า
“ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์
และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนาย” (มธ 10:24) นั่นหมายความว่า
เมื่อประชาชนปฏิเสธพระองค์ เราไม่ควรแปลกใจหากถูกปฏิเสธบ้าง
โดยเฉพาะเมื่อเรายืนหยัดในหลักศีลธรรมและความถูกต้องชอบธรรม อาทิ
การต่อต้านการทำแท้ง การไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง และความอยุติธรรมในสังคม
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ได้ให้บทเรียนสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องกล้าเผชิญหน้ากับการไม่ยอมรับและมองโลกในแง่ดี
การไม่ได้รับการยอมรับของพระเยซูเจ้าเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เราแต่ละคนมีประสบการณ์การถูกปฏิเสธ
การทรยศหักหลัง การอย่าร้าง การไม่เชื่อฟัง การถูกทอดทิ้ง ฯลฯ ให้เรามองดูในอีกด้านหนึ่ง
เราอาจไม่ได้เป็นตัวแทนที่ดีของพระเจ้า หรือมองไม่เห็นพระเจ้าในตัวบุคคลอื่น เพราะอคติและความใจแคบที่มองเพียงชาติกำเนิด
หรือฐานะทางสังคม
ประการที่สอง
เราต้องเผชิญหน้ากับการไม่ยอมรับด้วยท่าทีที่ถูกต้อง ด้วยการยอมรับตัวเราเองและผู้อื่น
มิใช่ด้วยความโกรธฉุนเฉียวอย่างที่เราเคยทำ
เราต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรามิใช่คนดีพร้อมและไม่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจได้
แต่เราต้องมีความอดทนในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ในทุกวิกฤตมีโอกาสที่เราสามารถเรียนรู้
และเปลี่ยนให้เป็นสิ่งดีงามสำหรับชีวิตเราได้
ประการที่สาม
เราต้องตระหนักถึงความดีของพระเจ้าท่ามกลางเรา พระเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นพยานแห่งความดีกับบุคคลที่เรารักและใกล้ชิดเรา
อาทิ สมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้านและผู้ร่วมงาน
เราต้องกล้ายืนหยัดถึงความจริงและความถูกต้องของพระเยซูเจ้า
ไม่เงียบเฉยต่อความอยุติธรรมและความไม่ถูกต้องของสังคม
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยใจกว้าง
ด้วยท่าทีของความเป็นพี่น้องให้สมกับการเป็นบุตรของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน มองเห็นความดีของกันและกันโดยปราศจากอคติ
โดยเฉพาะในสังคมที่มีการแบ่งแยกแตกต่าง ความรักของพระเจ้าไม่เคยแบ่งแยก หรือเลือกที่รักมักที่ชัง
ไม่มียิว หรือกรีก ไม่มีทาส หรือไท แต่ทุกคนเป็นพี่น้องกัน
คริสตชนต้องตระหนักในความจริงที่ว่า “ไม่มีใครดีพร้อม และไม่มีใครเลวแบบหาดีไม่ได้ ดังคติที่ว่า
“ในชั่วมีดี ในดีมีชั่ว” หรือ “ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน” ทุกคนคือฉายาของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องมองเห็นคุณค่าและความดีของกันและกัน เราไม่ควรตัดสินใครด้วยอคติ
หรือมองผู้อื่นเพียงแค่ชาติกำเนิด หรือฐานะทางสังคม แต่มองผู้อื่นในด้านบวกและรู้จักเลือกเอาส่วนดีที่เขามีอยู่
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
6 กรกฎาคม 2024
ภาพ : การเยี่ยมอภิบาลชุมชนกุดจอกใหญ่, อากาศอำนวย, สกลนคร; 2024-07-03
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น