วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

จงเป็นมือที่พร้อมช่วยเหลือ


จงเป็นมือที่พร้อมช่วยเหลือ
สัปดาห์ที่ 5
เทศกาลธรรมดา
ปี B
โยบ 7:1-4, 6-7
1 คร 9:16-19, 22-23
มก l: 29-39
บทนำ
หากบรรพบุรุษของเรากลับมามีชีวิตอีกครั้ง คงแปลกใจมากกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องบินราคาถูกลงไม่ห่างจากราคารถโดยสาร ถนนหนทางสะดวกสบายรถยนตร์วิ่งไปมาแม้ตามท้องนา เครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่อย่างสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่หลายอย่างในชีวิต ทุกอย่างสะดวกรวดเร็วเพียงแค่นิ้วสัมผัส
บรรพบุรุษของเราคงแปลกใจที่เห็นโรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาลทุกหนทุกแห่ง มีเครื่องไม้เครื่องมือและยาที่ทันสมัย สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทันท่วงที ทำให้ผู้คนในยุคปัจจุบันมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาและเจริญก้าวหน้าไปไกล แต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือ ผู้คนยังคงเจ็บป่วยและเสียชีวิตเช่นเดียวกับในยุคสมัยของพวกเขา
ปัญหาเรื่องความทุกข์ในโลกอยู่ในความคิดคำนึงของมนุษย์ทุกยุคสมัย หนังสือโยบเป็นความพยายามตอบปัญหานี้ แทนที่โยบจะถามว่า “ทำไม... จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้” โยบได้วางใจในพระเจ้าและมอบทุกอย่างให้เป็นไปตามพระประสงค์ และพระองค์ทรงตอบแทนทุกอย่างที่โยบสูญเสียไปให้กลับคืนมามากกว่าเดิม หนังสือโยบได้สอนคนที่กำลังทนทุกข์ให้ทำเช่นเดียวกันคือ จงวางใจในพระเจ้าและความดีบริบูรณ์ของพระองค์
1.        จงเป็นมือที่พร้อมช่วยเหลือ
เราพบความหมายของความทุกข์ผ่านทางความเชื่อในพระเยซูเจ้า ที่ทรงเสด็จไปประกาศข่าวดีทุกหนทุกแห่ง ทรงรักษาคนเจ็บป่วยและคนถูกปีศาจสิงจำนวนมาก ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นพระเจ้าและมนุษย์ที่ประทับท่ามกลางเรา ทรงใส่ใจต่อปัญหา ความเจ็บป่วย และความทุกข์ร้อนที่ผู้คนกำลังเผชิญอยู่ ทรงช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ร้อนของพวกเขา ทรงพร้อมยื่นมือช่วยเหลือเราเสมอ ขอเพียงเรามีความเชื่อวางใจพระองค์
ในการขับไล่ปีศาจออกไป ปีศาจต้องการบอกผู้คนให้ทราบถึงการเป็นพระผู้ไถ่ของพระเยซูเจ้า เนื่องจากมันรู้จักพระองค์เป็นอย่างดี แต่พระองค์ไม่อนุญาตให้มันพูด “ทรงขับไล่ปีศาจออกไป แต่ไม่ทรงอนุญาตให้มันพูด เพราะมันรู้จักพระองค์” (มก 1:34) ทั้งนี้เพราะไม่ทรงประสงค์ให้ประชาชนรับรู้ แต่ทรงต้องการให้พวกเขาแสวงหาและรู้จักพระองค์ด้วยตนเอง ทรงกระทำอัศจรรย์และกิจการดีที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ แต่ไม่ได้หวังให้ใครชม
แม้พระเยซูเจ้าทรงมีภารกิจมากมายในแต่ละวันในการช่วยเหลือผู้คน จนไม่มีเวลารับประทานอาหาร แต่ก่อนเริ่มพันธกิจของวัน ทรงสเด็จไปที่สงัดตามลำพังเพื่ออธิษฐานภาวนา ทรงติดต่อสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าทำให้ทราบถึงพระประสงค์ของพระองค์ และเสริมกำลังให้เข้มแข็งสำหรับภารกิจที่ทรงมอบหมาย ทรงทราบดีว่าคนเจ็บป่วยที่มาหาพระองค์คงไม่สามารถรักษา และคนถูกปีศาจสิงคงขับไล่ออกไปไม่ได้ หากพระองค์มิได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้า
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องมองทุกอย่างด้วยสายตาแห่งความเชื่อ ความเจ็บป่วย ความทุกข์ยากลำบาก และความตายมิใช่การลงโทษของพระเจ้า แต่พระองค์ทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น เพื่อให้ความดีและความรักของพระองค์ปรากฏ ดังกรณีชายตาบอดมีผู้ถามว่า “ใครทำบาป ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด” พระองค์ตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา” (ยน 9:2-3)
ประการที่สอง ต้องเป็นมือที่พร้อมช่วยเหลือ เราต้องพร้อมยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบทุกข์ร้อน แม้ว่าความผิดนั้นอาจเกิดจากการกระทำของเขาเอง หัวใจของเราต้องเต้นในจังหวะเดียวกันกับดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าที่เต้นเพื่อผู้อื่น ทำให้เรารู้ว่ามีสิ่งไหนควรทำสำหรับช่วยผู้ที่กำลังประสบทุกข์ร้อนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ประการที่สาม เราต้องอธิษฐานภาวนาเสมอ พระเยซูเจ้าแม้ทรงมีภารกิจมากมายในแต่ละวัน แต่ทรงหาเวลาอยู่เงียบๆ โดยลำพังกับพระบิดาเจ้า เพื่อเสริมกำลังสำหรับพันธกิจที่ทรงมอบหมาย เราต้องทำเช่นเดียวกัน ปราศจากพระองค์เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย “หากท่านต้องการให้ตะเกียงลุกอยู่เสมอ ท่านต้องหมั่นเติมน้ำมันในตะเกียง” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงกระทำสิ่งที่น่าประหลาดใจทุกวันดังที่ทรงกระทำในสมัยของพระองค์ ทรงเอาพระทัยใส่ในความเป็นไปของเราแต่ละคน ทรงเป็นมือที่ยื่นออกไปเพื่อสัมผัสและรักษาความทุกข์ยากเดือดร้อนที่เรากำลังเผชิญอยู่ อีกทั้ง ทรงมอบแบบฉบับที่ดีงามแก่เราในการอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ เพื่อรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและเอาชนะความชั่ว เราต้องเลียนแบบและเชื่อในพระองค์
ศิษย์พระคริสต์ต้องกระทำดีโดยไม่หวังคำชม การช่วยเหลือคนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ต้องกระทำเพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า ไม่หวังให้ใครเห็นหรือชมเชยความดีที่เรากระทำ ดำเนินชีวิตเป็นมือที่พร้อมช่วยเหลือทุกคน นำเขามาหาพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์ เราต้องพยายามเอาชนะเกียรติสำหรับตนเองด้วยการอธิษฐานภาวนา และเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าเช่นเดียวกับพระองค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
03 กุมภาพันธ์ 2018
ที่มาภาพ: https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=4441559548770474725#editor/target=post;postID=6160202658863411343

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น