วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567

พันธสัญญาของการแต่งงาน

 

พันธสัญญาของการแต่งงาน

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา

ปี B

ปฐก 2:18-25

ฮบ 2:9-11

มก 10:2-16

บทนำ

ปัญหาเรื่องการหย่าร้างกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ในปัจจุบัน ทุกประเทศมีอัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงขึ้น ในประเทศสหรัฐอเมริกาอัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงเป็น 43%, รัสเซีย 65%, สวีเดน 63%, อังกฤษและออสเตรเลีย 49% ส่วนอัตราการหย่าร้างในประเทศของเรา จากสถิติของสถาบันวิจัยประชากร กระทรวงมหาดไทยปี 2559 เพิ่มเป็น 39%  นับเป็นสถิติที่น่าตกใจและเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากทีเดียว

กษัตริย์เฮโรดแต่งงานกับนางเฮโรเดียสภรรยาของน้องชาย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของโมเสส  ยอห์นผู้รับพิธีล้างได้แสดงความกล้าหาญในการประณามกษัตริย์ในที่สาธารณะที่เสียสติเพราะเรื่องนั้น  ชาวฟาริสีได้วางกับดักหมายจับผิดโดยถามพระเยซูเจ้าว่า เห็นด้วยกับการหย่าร้างหรือไม่ พระเยซูทรงใช้โอกาสนี้ประกาศอย่างชัดเจนว่า พันธสัญญาของการแต่งงานมาจากพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ และเป็นสิ่งที่คงอยู่ถาวรและลบล้างไม่ได้

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้พูดถึงพันธสัญญาแห่งรักระหว่างชายและหญิง เป็นพันธะที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้มั่นคงถาวร และท้าทายคู่สมรสให้แสดงออกถึงความภักดีต่อพระเจ้า ด้วยการรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตสมรสเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ผู้ทรงประสงค์ให้ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตศักดิ์สิทธิ์และมั่นคงยาวนานโดยไม่ถูกแบ่งแยก สามีและภรรยาต่างเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่เท่าเสมอกัน การล่มสลายของครอบครัว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม

1.        พันธสัญญาของการแต่งงาน

พระวรสารวันนี้ชาวฟาริสีได้ถามพระเยซูเจ้าเพื่อจับผิดว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” (มก 10:2) โดยหวังให้พระองค์วิพากษ์วิจารณ์ธรรมเนียมปฏิบัติของโมเสส และทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน แต่ทรงใช้โอกาสนี้ประกาศว่า พันธสัญญาของการแต่งงานมาจากพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ถาวรและลบล้างไม่ได้ “สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” (มก 10:9) ทรงย้อนกลับไปยังพระประสงค์แรกของพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง พวกเขาไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน

สัมพันธภาพของการแต่งงานจึงเป็นพระพรของพระเจ้า ที่รวมชายหนึ่งหญิงหนึ่งให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยการสมรส และมนุษย์ไม่สามารถแยกสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมเข้าด้วยกันได้ (มธ 19:6) ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปของมนุษย์ที่เลิกร้างกันง่าย พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่า ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และการแต่งงานเป็นสัมพันธภาพที่มั่นคงถาวร การที่โมเสสอนุญาตให้หย่าร้างได้เพราะใจที่แข็งกระด้างของพวกเขา

พระศาสนจักรสอนเสมอมาว่า การแต่งงานระหว่างคริสตชนเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่แบ่งแยกและหย่าร้างไม่ได้ มีแต่ความตายเท่านั้นที่ทำให้พันธะของการแต่งงานจบสิ้นลง “การหย่าร้างเป็นความผิดหนักต่อกฎธรรมชาติ  เป็นการละเมิดพันธสัญญาที่คู่สามีภรรยาได้มอบความสมัครใจให้แก่กัน ที่จะเจริญชีวิตเพื่อกันและกันจนวันตาย... การหย่าร้างยังเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมเพราะนำความยุ่งเหยิงมาสู่ครอบครัวและสังคม” (CCC #2384)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก  คู่สมรสต้องซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของการแต่งงาน ครอบครัวเป็นหน่วยแรกของสังคมที่สำคัญ สามีภรรยาต้องออกจากตัวเอง มีความจริงใจ ไว้ใจกัน และใส่ใจในความต้องการของกันและกัน ด้วยการมอบตนเอง แบ่งปันชีวิต และให้อภัยกันด้วยใจกว้าง มีความรักที่เสียสละปราศจากความเห็นแก่ตัว รู้จักอดทนและมองข้ามความบกพร่องของกันและกัน ผ่อนหนักผ่อนเบาและเอาใจเขามาใส่ใจเรา

ประการที่สอง เราต้องให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ครอบครัวคริสตชนไม่ได้มีเพียงบิดามารดาและบุตร แต่ต้องมีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง เช่นเดียวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ ดังนั้น ครอบครัวในฐานะเป็นพระศาสนจักรระดับบ้านต้องได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพระวาจา การอธิษฐานภาวนา และการไปร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ บิดามารดาต้องเป็นครูคนแรกที่สอนบุตรให้รู้จักพระเจ้า

ประการที่สาม เราต้องเห็นใจผู้หย่าร้างและครอบครัวที่มีปัญหา พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งครอบครัวที่หย่าร้างและล้มเหลว คริสตชุมชนต้องยอมรับพวกเขา ให้ความเคารพ เห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจ แสดงออกถึงความเป็นพี่น้องในความรัก การสนับสนุนและช่วยเหลือตามกำลังความสามารถของแต่ละคน ทั้งนี้เพราะการหย่าร้าง หรือแต่งงานใหม่เป็นความเจ็บปวดมากพออยู่แล้ว เราต้องไม่ไปซ้ำเติม หรือตัดพวกเขาออกจากหมู่คณะ หรือชุมชนวัด

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงประสงค์ให้ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตศักดิ์สิทธิ์และมั่นคงยาวนานโดยไม่ถูกแบ่งแยก ทั้งนี้เพื่อความดีของคู่บ่าวคู่สาว ซึ่งต่างเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่เท่าเสมอกัน การใช้ชีวิตร่วมกันช่วยส่งเสริมและเติมเต็มชีวิตของกันและกันให้สมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อการให้กำเนิดบุตร การล่มสลายของครอบครัวเพราะการหย่าร้าง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม อีกทั้ง การหย่าร้าง เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า 

“ครอบครัวดีเริ่มที่บ้าน” พระเยซูเจ้าต้องเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ให้พระองค์ได้เข้ามามีบทบาท นำทาง และทำให้ครอบครัวของเราศักดิ์สิทธิ์  ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สามีภรรยาต้องทำงานหนักและร่วมมือกันในการสร้างครอบครัวที่ดี บนพื้นฐานแห่งความรักที่ไม่แบ่งแยก การให้อภัยเสมอ และการยอมรับความผิดของกันและกัน ประการสำคัญ “ครอบครัวที่อธิษฐานภาวนาร่วมกัน จะอยู่ด้วยกัน”

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

5 ตุลาคม 2024

ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, สักการสถานฯ สองคอน, มุกดาหาร; 2024-10-04

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น