วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ของขวัญสุดประเสริฐและยิ่งใหญ่

 กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ 
ของขวัญสุดประเสริฐและยิ่งใหญ่
รากเหง้า
การเกิดมาของใครคนหนึ่งถือเป็นพระพรของพระเจ้า และความชื่นชมยินดีของครอบครัว เช่นเดียวกับการเกิดมาของกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ซึ่งเกิดในตระกูลโพธิ์ดำ เป็นบุตรีคนโตของปอมเปอุส สงค์ กับ เอลีซาเบ็ธ ทองดี โพธิ์ดำ เกิดเมื่อ มกราคม 1938 (2481) ตามเอกสารของหน่วยงานราชการซึ่งออกให้ในการสำรวจสำมโนประชากรปี 1957 (2500) สาเหตุที่เป็นวันที่ 1 มกราคม เพราะส่วนใหญ่จำวันเกิดของตนเองไม่ได้ เพื่อให้จำง่ายเจ้าหน้าที่ได้เลือกวันที่ 1 มกราคม
เมื่อไปค้นดูทะเบียนศีลล้างบาปวัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ ซึ่งเก่าและกรอบมาก พบชื่อกาโรลา ฮ้อม (Calora Hom) ในลำดับที่ 22 แต่ปีที่ล้างบาปขาดหายไป เมื่อย้อนไปดูลำดับก่อนหน้าและหลัง ทำให้ทราบปีล้างบาปชัดเจนคือปี 1939 (2482) จากหลักฐานนี้ทำให้ทราบว่ากาโรลา ฮ้อม ล้างบาปวันที่ 8 มกราคม 1939 (2482) และเกิดวันที่ 5 เดือนเดียวกัน ดังนั้น วันเกิดที่ถูกต้องของกาโรลา ฮ้อม คือ 5 มกราคม 1939 (2482) ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกในสำมะโนครัวคาทอลิก (Status Animalum)
กาโรลา ฮ้อม เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว มีน้องทั้งหมด 4 คน ดังรายนามต่อไปนี้
1)         กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์            ผู้วายชนม์
2)         ซีโมน ขอม โพธิ์ดำ ยังมีชีวิตอยู่
3)         มารีอา ดอม อุปพงศ์              เสียชีวิตแล้ว
4)         ดอมินีโก พร้อม โพธิ์ดำ        เสียชีวิตแล้ว
5)        เปโตร เพิ่ม โพธิ์ดำ  เสียชีวิตแล้ว
บน: ทะเบียนศีลล้างบาป; ล่างทะเบียนสำมะโนครัวคาทอลิก วัด น.มารีอามักดาเลนา นาโพธิ์
การเรียนรู้
กาโรลา ฮ้อม เกิดในชุมชนผู้ไท เลขที่ 36 หมู่ที่ ตำบลนาโพธิ์ กิ่งอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ (ในบริเวณวัด) จนจบชั้นสูงสุดของโรงเรียน จากนั้นได้เรียนรู้งานและวิถีชีวิตผู้ไทจากเอลีซาเบ็ธ ทองดี ผู้เป็นแม่และจากชุมชนผู้ไทนาโพธิ์ ทำให้เติบโตขึ้นในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมผู้ไท เป็นสาวผู้ไทขนานแท้และดั้งเดิมที่ยังคงรักษาวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมผู้ไท อาทิ การทอเสื่อ ปั่นด้าย ทอผ้า โดยเฉพาะผ้ามัดมี่และผ้าตีนจกเอกลักษณ์ของชาวผู้ไท
กาโรลา ฮ้อม ประกอบอาชีพทำนาและทำสวนช่วยครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง สามารถไถนาและคราดนาได้ไม่แพ้ผู้ชาย ตอนกลางคืนปั่นด้าย ทอผ้า ทอเสื่อ หรือทำเครื่องจักสานเพื่อใช้ในครัวเรือน อาทิ สวิง (ด้งเขิง) กระหยัง กระบุง ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อโตขึ้นและมีครอบครัว ทำให้มีผ้าฝ้ายทอมือสำหรับตัดชุดทำงานให้ทุกคนในครอบครัว มีผ้าขาวม้าสำหรับทุกคนโดยไม่ต้องซื้อและมีเหลือเป็นของฝากญาติพี่น้อง
บนงานทอเสื่อกับหลาน ๆ ยามว่าง 11 กุมภาพันธ์ 2005; 
ล่างงานปั่นด้ายในงาน 125 แห่งความเชื่อและแพร่ธรรมที่ท่าแร่ 10 ธันวาคม 2009
ครอบครัวอบอุ่น
เมื่อกาโรลา ฮ้อม โตเป็นสาว  ญาติผู้ใหญ่ได้เป็นธุระจัดหาคู่ครองให้คือ ซีโมน ถนอม ถิ่นวัลย์ บุตรคนที่สองของเบเนดิกโต บุญมี กับ โรซา ผังทอง  ถินวัลย์ จากวัดแม่พระถือศีลชำระ จันทร์เพ็ญ ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร และเข้าพิธีศีลสมรสเมื่อ 1 เมษายน 1959 (2502) ที่วัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ โดยมีคุณพ่อมีคาแอล เสนีย์  สกนธวัฒน์ เป็นผู้ประกอบพิธี
กาโรลา ฮ้อม กับ ซีโมน ถนอม ได้ร่วมกันสร้างครอบครัวด้วยความรัก ความวิริยะอุสาหะ ซื่อสัตย์สุจริต และทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงบุตรธิดาให้ได้รับการศึกษาและเติบโตในกระแสเรียก โดยมีบุตรธิดาด้วยกัน คน ดังรายนามต่อไปนี้
1)        มีคาแอล เชษฐพงษ์ ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับเลาราวีกุญญา มยุรี ถิ่นวัลย์ มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน
2)        เปาโล เจริญชัย ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับมารีอา อำคา ถิ่นวัลย์ มีบุตรธิดาด้วยกัน 3 คน เมื่อภรรยาถึงแก่กรรมได้แต่งงานใหม่กับมารีอา โฉมยงค์ ถิ่นวัลย์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน
3)        อันนา ศรีประไพ  ถิ่นวัลย์  ครูคำสอน เสียชีวิตเมื่อ 22 ตุลาคม 1999
4)        คุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ พระสงฆ์อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
5)        เด็กหญิงชื่นผทัย ถิ่นวัลย์ เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก
6)        ฟรังซิส ประเสริฐ ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับมารีอา ผ่องศรี ถิ่นวัลย์ มีบุตรด้วยกัน  3  คน
7)        ซิสเตอร์มารีย์ นวลมณี ถิ่นวัลย์ ภคินีคณะรักกางเขนแห่งท่าแร่
8)        ซิสเตอร์มารีอา มักดาเลนา ส่องแสง ถิ่นวัลย์ ภคินีคณะอุร์สุลินแห่งสหภาพโรมัน
บนวันแต่งงานที่นาโพธิ์กับซีโมน ถนอม ถิ่นวัลย์ เมษายน 1959, 
ล่างวันปลงศพบุตรสาวคนโต อันนา ศรีประไพ ถิ่นวัลย์ วัย 36 ปี 25 ตุลาคม 1999
วัยชราผาสุก
กาโรลา ฮ้อม ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของชีวิตด้วยความเชื่อและวางใจในพระเจ้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ซึ่งนำความโศกเศร้ามาสู่ชีวิตที่สุดคือ การจากไปอย่างกะทันหันของซีโมน ถนอม คู่ชีวิตเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 (2549) ทำให้ต้องอยู่โดยลำพังกับบุตรหลาน แม้ร่ายกายร่วงโรยตามสังขาร แต่จิตใจยังเข้มแข็งและศรัทธาร้อนรน เข้าร่วมประชุมคณะพลมารีย์และกลุ่มคริสตชนพื้นฐานเป็นประจำ ทุกเช้าปั่นจักรยานไปวัดร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ก่อนกลับมาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างมีความสุข อาทิ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ร้อยสายประคำ และสานสวิง ตามประสาคนชอบทำงานและอยู่นิ่งเฉยไม่เป็น
ความสุขอีกอย่างหนึ่งของกาโรลา ฮ้อม คือการเก็บมะขามหวานพันธุ์สีทองขาย หรือเพื่อเป็นของฝากญาติพี่น้องที่แวะเวียนมาเยี่ยม เมื่ออายุมากขึ้นปีนต้นมะขามเหมือนเมื่อก่อนไม่ไหว ได้ไหว้วานบุตรหลานให้ช่วยเก็บ จากนั้นนำมาตัดแต่งและบรรจุถุงขาย รสชาติหวานอร่อย ราคาย่อมเยา กิโลกรัมละ 50 บาท กี่ปีก็ขายราคาเดิมไม่เคยเปลี่ยน ทำให้เป็นที่ต้องการและขายหมดเกลี้ยงทุกวัน
บนครบรอบ 75 ปีแห่งชีวิต มกราคม 2013; ล่างงานจักสานเพื่อเป็นของฝาก
บั้นปลายชีวิต
ความภูมิใจของกาโรลา ฮ้อม ในช่วงบั้นปลายชีวิตคือ การได้เห็นบุตรหลานเติบโตและก้าวหน้าในชีวิต อีกทั้ง ไม่ลืมอธิษฐานภาวนาเพื่อทุกคน ฝากทุกอย่างไว้ในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าและเฝ้ามองทุกคนด้วยความห่วงใย คอยเป็นธุระจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ เวลามาเยี่ยม แม้การอยู่กันพร้อมหน้าทำได้ยากขึ้น แต่บุตรหลานไม่เคยลืม “ของขวัญสุดประเสริฐ” ที่พระเจ้าทรงประทานให้ ได้พร้อมใจกันจัดงานครบรอบ 75 ปี และ 80 ปีตามลำดับ และสำนึกในคำสอนที่บอกทุกคนเสมอว่า ให้ดูแลตัวเอง ไม่ต้องห่วงแม่ ขอให้ทำหน้าที่ของตนให้ดี
กาโรลา ฮ้อม มีโรคความดันและเบาหวาน อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลกุสุมาลย์ กระทั่งจันทร์ที่ 26 เมษายน 2019 (2562) มีอาการไข้ได้เข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลกุสุมาลย์ แพทย์ตรวจพบก้อนเนื้อขนาดเท่านิ้วมือเหนือท้องน้อย และได้ส่งตัวเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร พบว่าเป็นมะเร็งในถุงน้ำดีระยะสุดท้ายและเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่ปอด แพทย์แนะนำว่าการรักษายากมากเนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุและอยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตราย คงทำได้เพียงรักษาตามอาการ ดังนั้นเมื่อศุกร์ที่ พฤษภาคม 2019 (2562) บุตรหลานได้ตัดสินใจนำกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด
 บน: งานฉลอง 80 ปีมีแต่รัก ที่วัดป่าพนาวัลย์ 7 มกราคม 2018; 
ล่าง: งานฉลอง 25 ปีชีวิตสงฆ์บุตรชาย ที่อาสนวิหารท่าแร่ 30 มีนาคม 2019

ที่สุด พระเจ้าได้รับกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ของขวัญสุดประเสริฐและยิ่งใหญ่ไปรับรางวัลและการพักผ่อนนิรันดรกับพระองค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019 (2562) เวลา 23.08 น. ท่ามกลางบุตรหลานที่เฝ้าอธิษฐานภาวนาส่งดวงวิญญาณ สิริอายุ 80 ปี เดือน วัน 

แม้กาลเวลาได้พรากของขวัญสุดประเสริฐนี้ไปจากโลกแล้ว แต่กาลเวลาไม่อาจพรากความรักและความดีงามไปจากใจของบุตรหลานทุกคน ขอให้ดวงวิญญาณกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ได้รับการพักผ่อนนิรันดรกับพระเจ้า เทอญ
 บน: บุตรหลานกราบขอขมาแม่พระประจำบ้าน 9 กรกฎาคม 2019
ล่าง: บุตรหลานภาวนาส่งดวงวิญญาณกลับไปหาพระเจ้า เสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น