กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์
ของขวัญสุดประเสริฐและยิ่งใหญ่
รากเหง้า
การเกิดมาของใครคนหนึ่งถือเป็นพระพรของพระเจ้า และความชื่นชมยินดีของครอบครัว เช่นเดียวกับการเกิดมาของกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ซึ่งเกิดในตระกูลโพธิ์ดำ เป็นบุตรีคนโตของปอมเปอุส สงค์ กับ เอลีซาเบ็ธ ทองดี โพธิ์ดำ เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1938 (2481) ตามเอกสารของหน่วยงานราชการซึ่งออกให้ในการสำรวจสำมโนประชากรปี 1957 (2500) สาเหตุที่เป็นวันที่ 1 มกราคม เพราะส่วนใหญ่จำวันเกิดของตนเองไม่ได้ เพื่อให้จำง่ายเจ้าหน้าที่ได้เลือกวันที่ 1 มกราคม
เมื่อไปค้นดูทะเบียนศีลล้างบาปวัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ ซึ่งเก่าและกรอบมาก พบชื่อกาโรลา ฮ้อม (Calora Hom) ในลำดับที่ 22 แต่ปีที่ล้างบาปขาดหายไป เมื่อย้อนไปดูลำดับก่อนหน้าและหลัง ทำให้ทราบปีล้างบาปชัดเจนคือปี 1939 (2482) จากหลักฐานนี้ทำให้ทราบว่ากาโรลา ฮ้อม ล้างบาปวันที่ 8 มกราคม 1939 (2482) และเกิดวันที่ 5 เดือนเดียวกัน ดังนั้น วันเกิดที่ถูกต้องของกาโรลา ฮ้อม คือ 5 มกราคม 1939 (2482) ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกในสำมะโนครัวคาทอลิก (Status Animalum)
กาโรลา ฮ้อม เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว มีน้องทั้งหมด 4 คน ดังรายนามต่อไปนี้
1) กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ผู้วายชนม์
2) ซีโมน ขอม โพธิ์ดำ ยังมีชีวิตอยู่
3) มารีอา ดอม อุปพงศ์ เสียชีวิตแล้ว
4) ดอมินีโก พร้อม โพธิ์ดำ เสียชีวิตแล้ว
5) เปโตร เพิ่ม โพธิ์ดำ เสียชีวิตแล้ว
บน: ทะเบียนศีลล้างบาป; ล่าง: ทะเบียนสำมะโนครัวคาทอลิก วัด น.มารีอามักดาเลนา นาโพธิ์
การเรียนรู้
กาโรลา ฮ้อม เกิดในชุมชนผู้ไท เลขที่ 36 หมู่ที่ 1 ตำบลนาโพธิ์ กิ่งอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ (ในบริเวณวัด) จนจบชั้นสูงสุดของโรงเรียน จากนั้นได้เรียนรู้งานและวิถีชีวิตผู้ไทจากเอลีซาเบ็ธ ทองดี ผู้เป็นแม่และจากชุมชนผู้ไทนาโพธิ์ ทำให้เติบโตขึ้นในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมผู้ไท เป็นสาวผู้ไทขนานแท้และดั้งเดิมที่ยังคงรักษาวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมผู้ไท อาทิ การทอเสื่อ ปั่นด้าย ทอผ้า โดยเฉพาะผ้ามัดมี่และผ้าตีนจกเอกลักษณ์ของชาวผู้ไท
กาโรลา ฮ้อม ประกอบอาชีพทำนาและทำสวนช่วยครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง สามารถไถนาและคราดนาได้ไม่แพ้ผู้ชาย ตอนกลางคืนปั่นด้าย ทอผ้า ทอเสื่อ หรือทำเครื่องจักสานเพื่อใช้ในครัวเรือน อาทิ สวิง (ด้งเขิง) กระหยัง กระบุง ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อโตขึ้นและมีครอบครัว ทำให้มีผ้าฝ้ายทอมือสำหรับตัดชุดทำงานให้ทุกคนในครอบครัว มีผ้าขาวม้าสำหรับทุกคนโดยไม่ต้องซื้อและมีเหลือเป็นของฝากญาติพี่น้อง
บน: งานทอเสื่อกับหลาน ๆ ยามว่าง 11 กุมภาพันธ์ 2005;
ล่าง: งานปั่นด้ายในงาน 125 แห่งความเชื่อและแพร่ธรรมที่ท่าแร่ 10 ธันวาคม 2009
ล่าง: งานปั่นด้ายในงาน 125 แห่งความเชื่อและแพร่ธรรมที่ท่าแร่ 10 ธันวาคม 2009
ครอบครัวอบอุ่น
เมื่อกาโรลา ฮ้อม โตเป็นสาว ญาติผู้ใหญ่ได้เป็นธุระจัดหาคู่ครองให้คือ ซีโมน ถนอม ถิ่นวัลย์ บุตรคนที่สองของเบเนดิกโต บุญมี กับ โรซา ผังทอง ถินวัลย์ จากวัดแม่พระถือศีลชำระ จันทร์เพ็ญ ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร และเข้าพิธีศีลสมรสเมื่อ 1 เมษายน 1959 (2502) ที่วัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์ โดยมีคุณพ่อมีคาแอล เสนีย์ สกนธวัฒน์ เป็นผู้ประกอบพิธี
กาโรลา ฮ้อม กับ ซีโมน ถนอม ได้ร่วมกันสร้างครอบครัวด้วยความรัก ความวิริยะอุสาหะ ซื่อสัตย์สุจริต และทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงบุตรธิดาให้ได้รับการศึกษาและเติบโตในกระแสเรียก โดยมีบุตรธิดาด้วยกัน 8 คน ดังรายนามต่อไปนี้
1) มีคาแอล เชษฐพงษ์ ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับเลาราวีกุญญา มยุรี ถิ่นวัลย์ มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน
2) เปาโล เจริญชัย ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับมารีอา อำคา ถิ่นวัลย์ มีบุตรธิดาด้วยกัน 3 คน เมื่อภรรยาถึงแก่กรรมได้แต่งงานใหม่กับมารีอา โฉมยงค์ ถิ่นวัลย์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน
3) อันนา ศรีประไพ ถิ่นวัลย์ ครูคำสอน เสียชีวิตเมื่อ 22 ตุลาคม 1999
4) คุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ พระสงฆ์อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
5) เด็กหญิงชื่นผทัย ถิ่นวัลย์ เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก
6) ฟรังซิส ประเสริฐ ถิ่นวัลย์ แต่งงานกับมารีอา ผ่องศรี ถิ่นวัลย์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน
7) ซิสเตอร์มารีย์ นวลมณี ถิ่นวัลย์ ภคินีคณะรักกางเขนแห่งท่าแร่
8) ซิสเตอร์มารีอา มักดาเลนา ส่องแสง ถิ่นวัลย์ ภคินีคณะอุร์สุลินแห่งสหภาพโรมัน
บน: วันแต่งงานที่นาโพธิ์กับซีโมน ถนอม ถิ่นวัลย์ 1 เมษายน 1959,
ล่าง: วันปลงศพบุตรสาวคนโต อันนา ศรีประไพ ถิ่นวัลย์ วัย 36 ปี 25 ตุลาคม 1999
ล่าง: วันปลงศพบุตรสาวคนโต อันนา ศรีประไพ ถิ่นวัลย์ วัย 36 ปี 25 ตุลาคม 1999
วัยชราผาสุก
กาโรลา ฮ้อม ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของชีวิตด้วยความเชื่อและวางใจในพระเจ้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ซึ่งนำความโศกเศร้ามาสู่ชีวิตที่สุดคือ การจากไปอย่างกะทันหันของซีโมน ถนอม คู่ชีวิตเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 (2549) ทำให้ต้องอยู่โดยลำพังกับบุตรหลาน แม้ร่ายกายร่วงโรยตามสังขาร แต่จิตใจยังเข้มแข็งและศรัทธาร้อนรน เข้าร่วมประชุมคณะพลมารีย์และกลุ่มคริสตชนพื้นฐานเป็นประจำ ทุกเช้าปั่นจักรยานไปวัดร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ก่อนกลับมาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างมีความสุข อาทิ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ร้อยสายประคำ และสานสวิง ตามประสาคนชอบทำงานและอยู่นิ่งเฉยไม่เป็น
ความสุขอีกอย่างหนึ่งของกาโรลา ฮ้อม คือการเก็บมะขามหวานพันธุ์สีทองขาย หรือเพื่อเป็นของฝากญาติพี่น้องที่แวะเวียนมาเยี่ยม เมื่ออายุมากขึ้นปีนต้นมะขามเหมือนเมื่อก่อนไม่ไหว ได้ไหว้วานบุตรหลานให้ช่วยเก็บ จากนั้นนำมาตัดแต่งและบรรจุถุงขาย รสชาติหวานอร่อย ราคาย่อมเยา กิโลกรัมละ 50 บาท กี่ปีก็ขายราคาเดิมไม่เคยเปลี่ยน ทำให้เป็นที่ต้องการและขายหมดเกลี้ยงทุกวัน
บน: ครบรอบ 75 ปีแห่งชีวิต 5 มกราคม 2013; ล่าง: งานจักสานเพื่อเป็นของฝาก
บั้นปลายชีวิต
ความภูมิใจของกาโรลา ฮ้อม ในช่วงบั้นปลายชีวิตคือ การได้เห็นบุตรหลานเติบโตและก้าวหน้าในชีวิต อีกทั้ง ไม่ลืมอธิษฐานภาวนาเพื่อทุกคน ฝากทุกอย่างไว้ในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าและเฝ้ามองทุกคนด้วยความห่วงใย คอยเป็นธุระจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ เวลามาเยี่ยม แม้การอยู่กันพร้อมหน้าทำได้ยากขึ้น แต่บุตรหลานไม่เคยลืม “ของขวัญสุดประเสริฐ” ที่พระเจ้าทรงประทานให้ ได้พร้อมใจกันจัดงานครบรอบ 75 ปี และ 80 ปีตามลำดับ และสำนึกในคำสอนที่บอกทุกคนเสมอว่า “ให้ดูแลตัวเอง ไม่ต้องห่วงแม่ ขอให้ทำหน้าที่ของตนให้ดี”
กาโรลา ฮ้อม มีโรคความดันและเบาหวาน อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลกุสุมาลย์ กระทั่งจันทร์ที่ 26 เมษายน 2019 (2562) มีอาการไข้ได้เข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลกุสุมาลย์ แพทย์ตรวจพบก้อนเนื้อขนาดเท่านิ้วมือเหนือท้องน้อย และได้ส่งตัวเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร พบว่าเป็นมะเร็งในถุงน้ำดีระยะสุดท้ายและเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่ปอด แพทย์แนะนำว่าการรักษายากมากเนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุและอยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตราย คงทำได้เพียงรักษาตามอาการ ดังนั้นเมื่อศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2019 (2562) บุตรหลานได้ตัดสินใจนำกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด
บน: งานฉลอง 80 ปีมีแต่รัก ที่วัดป่าพนาวัลย์ 7 มกราคม 2018;
ล่าง: งานฉลอง 25 ปีชีวิตสงฆ์บุตรชาย ที่อาสนวิหารท่าแร่ 30 มีนาคม 2019
ที่สุด พระเจ้าได้รับกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ของขวัญสุดประเสริฐและยิ่งใหญ่ไปรับรางวัลและการพักผ่อนนิรันดรกับพระองค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019 (2562) เวลา 23.08 น. ท่ามกลางบุตรหลานที่เฝ้าอธิษฐานภาวนาส่งดวงวิญญาณ สิริอายุ 80 ปี 7 เดือน 8 วัน
แม้กาลเวลาได้พรากของขวัญสุดประเสริฐนี้ไปจากโลกแล้ว แต่กาลเวลาไม่อาจพรากความรักและความดีงามไปจากใจของบุตรหลานทุกคน ขอให้ดวงวิญญาณกาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ได้รับการพักผ่อนนิรันดรกับพระเจ้า เทอญ
บน: บุตรหลานกราบขอขมาแม่พระประจำบ้าน 9 กรกฎาคม 2019
ล่าง: บุตรหลานภาวนาส่งดวงวิญญาณกลับไปหาพระเจ้า เสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น