วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บทละครที่ยังเขียนไม่จบ

วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A
อสย 35:1-6ข, 10
ยก 5:7-10
มธ 11:2-11

บทนำ

มีนักเขียนชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อ นาธาเนียล ฮอร์ธอร์น (Nathaniel Hawthorne) ในวันที่เขาตายได้พบบทละครบทหนึ่งที่ยังเขียนไม่จบวางบนโต๊ะทำงาน บทละครนี้พูดถึงตัวเอกของเรื่องที่ยังไม่ปรากฏตัวบนเวที ผู้คนต่างพูดถึง ฝันหา และรอคอยการปรากฏตัวของเขา เพราะนักแสดงคนอื่นๆ ได้บรรยายให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของเขา โดยบอกผู้ชมว่าตัวเอกของเรื่องจะเป็นเช่นไร จะทำอะไรบ้าง แต่ตัวเอกก็ยังไม่มาสักที

พระคัมภีร์พันธสัญญาเก่า ไม่ต่างจากบทละครของฮอร์ธอร์น ที่จบลงโดยที่ตัวเอกของเรื่องยังไม่ปรากฏตัว ประกาศกมากมายได้พูดถึงการปรากฏมาของพระแมสิยาห์ ทำให้ประชาชนฝันหาและเฝ้าคอยการเสด็จมาของพระองค์อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะประกาศกอิสยาห์ที่เราได้ยินในบทอ่านแรก ได้จุดประกายความหวังสำหรับผู้ที่กำลังท้อแท้ใจว่า “มานะเถิด อย่ากลัว นี่แน่ะพระเจ้าของท่านทั้งหลายจะเสด็จมาแก้แค้นแทน จะเสด็จมาช่วยท่านให้รอด” (อสย 35:4)

ดังนั้น ในวันที่ยอห์น บัปติสต์ปรากฏตัว สอนประชาชนให้เตรียมทางสำหรับพระเจ้า และประกอบพิธีล้างที่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน ประชาชนรู้สึกประหลาดใจและพูดกันว่า “บุคคลนี้เป็นใคร” ใช่พระแมสิยาห์ที่เรารอคอย หรือว่าเป็นผู้นำข่าวดีที่พระเจ้าทรงใช้มาเพื่อเตรียมทาง ยอหน์เป็นประกาศกองค์สุดท้ายในพันธสัญญาเก่า ที่ได้เป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องจนกระทั่งถูกจับกุม ในช่วงเวลานี้เองที่พระเยซูเจ้าได้เริ่มภารกิจในการประกาศข่าวดีของพระเจ้า ยอห์นซึ่งอยู่ในคุกได้ยินถึงกิจการที่พระองค์ทรงกระทำ เกิดความไม่แน่ใจจึงส่งศิษย์มาถามว่า “ท่านคือผู้ที่จะมาหรือเราจะต้องรอคอยใครอีก”

1. คำตอบของพระเยซูเจ้า

พระเยซูเจ้าไม่ได้ตอบคำถามศิษย์ของยอห์นโดยตรง แต่ทรงตรัสว่า “จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น” คำเทศน์สอนและการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงกระทำเป็นเครื่องหมายถึงอาณาจักรของพระเจ้าตามที่ประกาศกในพันธสัญญาเก่ากล่าวถึง พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงหนทางใหม่แห่งอาณาจักรพระเจ้า บนพื้นฐานของการสำนึกผิดและการกลับใจ

สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำนั้นชัดเจนในตัวเอง พระองค์ทรงประทานการมองเห็นแก่คนบอด ทำให้คนง่อยเดินได้ คนหูหนวกได้ยิน คนใบ้พูดได้ คนโรคเรื้อนหายจากโรค และคนตายฟื้นคืนชีพ สิ่งเหล่านี้คือการทำให้คำทำนายของบรรดาประกาศกสำเร็จไป และเป็นเครื่องหมายที่ชัดแจ้งว่า พระแมสิยาห์ได้เสด็จมาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว

การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในวันนี้คือ การกลับใจของเราเพื่อเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า สิ่งที่พระองค์ได้กระทำกับคนยากจน คนตาบอด คนง่อย และคนหูหนวก คนใบ้ คนโรคเรื้อน พระองค์ทรงกระทำกับเราเช่นเดียวกัน แต่ในรูปแบบและวิธีการที่ต่างกัน ประการสำคัญ พระองค์จะสามารถกระทำการอัศจรรย์เหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อ เราได้เปิดตัวเองให้พระองค์ทรงทำงานและร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์

พระเยซูเจ้าได้ให้ตัวอย่างของยอห์น บัปติสต์แก่เรา เพื่อให้กำลังใจและกระตุ้นเตือนความหวังไว้ใจในเรา ยอห์นได้เป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้าในการเตรียมทางของพระองค์ และได้เป็นพยานถึงความจริงด้วยชีวิต ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงยกย่องยอห์นว่า “เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” พระเยซูเจ้าจะทรงมอบความยิ่งใหญ่แบบเดียวกันกับเรา หากเราได้ยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อและเป็นพยานถึงความจริงด้วยความกล้าหาญ

2. บทละครที่ยังเขียนไม่จบ

พระเยซูเจ้าคือพระแมสิยาห์ที่บรรดาประกาศกกล่าวถึง ที่ได้เสด็จมาเพื่อสถาปนาอาณาจักรพระเจ้าในโลก และทรงมอบภารกิจนี้แก่เราในการทำให้อาณาจักรของพระเจ้าสมบูรณ์ พระองค์ทรงมอบหมายเราแต่ละคนในการสร้างอาณาจักรของพระเจ้าในโลก และสานต่อภารกิจของพระองค์ที่ยังไม่จบให้ดำเนินต่อไป เมื่อพระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งในวาระสุดท้าย พระองค์จะทรงพิพากษาเราถึงงานที่เราได้กระทำนี้

ชาวโรมันโบราณมีเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ “จานุส” (Janus: คำว่า “January” มาจากชื่อเทพเจ้าองค์นี้) ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีสองหน้า สามารถมองเห็นทั้งข้างหน้าและข้างหลังได้ เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ามีลักษณะแบบเดียวกันคือ การมองย้อนกลับไปถึงการเสด็จมาครั้งแรกของพระเยซูเจ้าในประวัติศาสตร์ และการมองไปข้างหน้าถึงการเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์ในวาระสุดท้าย

เราแต่ละคนยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสองเหตุการณ์นี้ งานของเราไม่ใช่การนั่งบนภูเขามองดูเฉยๆ แต่เราจะต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และทำให้ภารกิจที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้แก่เราในการเสด็จมาครั้งแรกให้สมบูรณ์ นั่นหมายความว่า เราจะต้องสร้างอาณาจักรของพระเจ้าในโลกของเรา โลกที่เต็มไปด้วยความรักมากกว่าความเกลียดชัง โลกแห่งการให้อภัยมากกว่าการแก้แค้นผู้พยาบาท โลกแห่งความจริงมากกว่าการโกหกหลอกลวง โลกแห่งความเมตตากรุณามากกว่าการแบ่งแยกแตกต่าง

บทสรุป

พี่น้องที่รัก นี่คือบทละครที่เราจะต้องเขียนต่อให้จบ ในการสร้างโลกในแบบเดียวกันกับที่พระเยซูเจ้าจะทรงกระทำหากพระองค์เป็นเรา นั่นหมายความว่า เราจะต้องคิดและมองสิ่งต่างๆ ด้วยสาตาของพระองค์ โดยมีความรักและความเมตตาเป็นเครื่องนำทาง จะต้องปล่อยให้หัวใจของเราเต้นในจังหวะเดียวกันกับพระองค์ เพื่อเราจะรู้ได้ว่ามีสิ่งไหนที่เราควรทำ เพื่อทำให้โลกที่พระองค์ทรงมอบให้อยู่ในมือเรานี่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

เราจะต้องเลียนแบบอย่างยอห์น บัปติสต์ ในการเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า และเป็นพยานถึงการเสด็จมาของพระองค์ด้วยความจริงและความถูกต้องชอบธรรม เราจะต้องรื้อฟื้นชีวิตแห่งการภาวนาและการคืนดีกับพระเจ้า เพื่อเตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า เราจะต้องเป็นผู้สร้างและนำข่าวดีแห่งความรักและความหวังให้บังเกิดขึ้นในครอบครัว หมู่คณะ และสังคมของเรา เช่นนี้เอง เราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพระอาณาจักรสวรรค์ยิ่งกว่ายอห์นเสียอีก
ถ้าพระกุมารที่กัลชี เมืองปีซา อิตาลี (2008)
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
10 ธันวาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น