อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา ปี B |
ฉธบ 18:15-20 1
คร 7:32-35 มก 1:21-28 |
บทนำ
ก่อนพระเยซูเสด็จมา
โลกถูกปกครองโดยทฤษฎี “อำนาจคือความถูกต้อง” (might makes right) แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนเรื่องความรัก
ความเมตตากรุณา และการให้อภัย ได้เปิดมุมมองใหม่ของมนุษย์ ในการปฏิบัติต่อกันบนพื้นฐานของความรักและความเป็นพี่น้อง
คำสั่งสอนของพระองค์สะท้อนภาพการมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น โดยเฉพาะคนยากจน ผู้หญิง และคนเล็กน้อยในสังคม
เพื่อช่วยพวกเขาให้มีคุณภาพชีวิตสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์บุตรพระเจ้า
พระวรสารวันนี้
นักบุญมาระโกได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเริ่มต้นพันธกิจของพระเยซูเจ้าในวันสับบาโต
ทรงเริ่มพันธกิจของพระองค์พร้อมกับชาวเมืองกาเปอร์นาอุมในศาลาธรรม
ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวยิวไปชุมนุมกันเพื่ออธิษฐานภาวนา อ่านพระคัมภีร์ และฟังการการอธิบายพระคัมภีร์
ชาวยิวเดินทางไปพระวิหาร เพื่อถวายเครื่องสักการบูชาและอธิษฐานภาวนาเฉพาะในเทศกาลเท่านั้น
แต่พวกเขาไปที่ศาลาธรรมทุกวันสับบาโต
1. คำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ
นักบุญมาระโกได้นำเสนอพระเยซูเจ้าในฐานะ
ผู้สั่งสอน อาจารย์ ผู้ทำอัศจรรย์ และนักภาวนา พระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำในชีวิตเปิดเผยของพระองค์
ยังความประหลาดใจแก่ประชาชนทั่วไป ทรงอธิบายพระคัมภีร์ ขับไล่ปีศาจ และทรงรักษาคนเจ็บป่วยทุกชนิดที่มาหาพระองค์
ทรงเป็นอาจารย์สอนพระวาจาของพระเจ้าผ่านทางพระบุคคลและชีวิตของพระองค์ ชีวิตทั้งหมดของพระองค์คือคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ
พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ
ไม่เหมือนการสอนของบรรดาธรรมาจารย์ที่พวกเขาคุ้นเคย ทรงสอนประชาชนถึงความรักของพระเจ้าจากหัวใจ
ซึ่งพระองค์ทรงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงสั่งสอนเหมือนโมเสสที่บอกประชาชนโดยตรงถึงสิ่งที่พระเจ้าตรัส
การดุปีศาจและสั่งให้มันออกไปจากผู้ที่มันสิงอยู่
เผยให้เห็นอำนาจเหนือธรรมชาติของพระองค์
นี่เป็นอัศจรรย์ครั้งแรกที่พระองค์ทรงกระทำ
สิ่งที่ทำให้คำสั่งสอนของพระเยซูเจ้ามีอำนาจ
เพราะ 1) ทรงสอนจากหัวใจไม่ใช่จากสติปัญญา มาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระบิดาเจ้า, 2) ทรงให้ความสำคัญที่จิตตารมย์ไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย ได้แก่ “ความรักและความเมตตากรุณา” ซึ่งเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า และ
3) มีจุดมุ่งหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงจิตใจผู้ฟังและความยากลำบากที่กำลังเผชิญ ช่วยเติมเต็มชีวิตจากความหวาดกลัว ความเกลียดชัง และความว่างเปล่าให้มีคุณค่าและความหมาย
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องให้พระเยซูเจ้าปลดปล่อยเราจากจิตชั่วร้าย เราต้องมาหาพระเยซูเจ้าด้วยความเชื่อผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและการรับศีลศักดิสิทธิ์
เพื่อพระองค์จะได้ปลดปล่อยเราจากจิตชั่วแห่งความเห็นแก่ตัว ความอิจฉาริษยา ความโกรธเคือง
และความเกลียดชัง ที่ขัดขวางไม่ให้เรารักและแบ่งปันพระพรของพระเจ้ากับผู้อื่น เพื่อพระองค์จะได้ทรงรักษาเราทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ประการที่สอง เราต้องใช้อำนาจสั่งสอนที่พระเจ้าทรงมอบให้
เราต้องช่วยให้บุตรหลาน
หรือผู้อยู่ในความดูแลมองเห็นความรักของพระเยซูเจ้าและเชื่อในพระองค์ ช่วยให้พวกเขาได้ตระหนักว่า
พระเยซูเจ้าทรงรักพวกเขา อีกทั้งเติบโตในบรรยากาศแบบคริสตชน ผ่านทางการอบรมสั่งสอน
และแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา
ประการที่สาม เราต้องสนับสนุนการใช้อำนาจอย่างถูกต้องเหมาะสม พระเยซูเสด็จเข้าไปในศาลาธรรมเมืองคาเปอรนาอุม และเริ่มสั่งสอนแบบใหม่ที่ต่างออกไปจากที่พวกเขาคุ้นเคย
พระองค์ทรงเป็น “รับบี” ซึ่งแปลว่า “อาจารย์” ขอให้เราทุกคนเป็นครูที่ดี
และใช้อำนาจของเราในการหล่อหลอมชีวิตบุตรหลานในหนทางที่ถูกต้องชอบธรรม บิดามารดาต้องเป็นครูคนแรกที่สอนบุตรหลานให้รู้จักพระเจ้า
บทสรุป
พี่น้องที่รัก เราได้เห็นถึงคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจของพระเยซูเจ้า ทรงเชื้อเชิญเราให้มามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ เพื่อมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์เราต้องใกล้ชิดและเลียนแบบพระเยซูเจ้าให้มากที่สุด ทรงแสดงให้เราค้นพบคุณค่าเชิงบวกของบทบัญญัติคือ ความรักและความเมตตากรุณาของพระเจ้า ซึ่งยิ่งใหญ่และอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใด ๆ ขณะที่บรรดาธรรมมาจารย์และชาวฟาริสี พยายามรักษาธรรมบัญญัติตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัด
พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ ทรงรักษาประชาชนทั้งฝ่ายกายและจิตใจ
และทรงเรียกเราแต่ละคนให้เป็นประชากรของพระเจ้าและมีส่วนในอำนาจการสั่งสอนของพระองค์
ศิษย์พระคริสต์ต้องเจริญชีวิตตามกระแสเรียกของตนด้วยความเชื่อ ความหวัง และความวางใจพระเจ้า ให้พระองค์ปลดปล่อยเราจากจิตชั่วและความไม่ดีต่าง
ๆ เพื่อประกาศข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัยของพระองค์แก่ทุกคน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
ID
LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
27 มกราคม 2024
ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, วัดพระนามเยซู โพนสวาง, วานรนิวาส, สกลนคร; 2024-01-02
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น