ผู้หว่านกับดินสี่ประเภท
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา ปี A |
อสย 55:9-10 รม 8:18-23 มธ 13:1-23 |
บทนำ
มีต้นไผ่ชนิดหนึ่งในประเทศจีนชื่อ
“เมาซู” (Mao Zhu) ถือเป็นไผ่ยักษ์ลำต้นใหญ่และสูงถึง
90 ฟุต ในช่วง 5 ปีแรกไผ่ชนิดนี้ไม่มีการเจริญเติบโตใด
ๆ ผู้ปลูกต้องหมั่นรดน้ำและเฝ้ารอด้วยความอดทน หลังจาก 5 ปีผ่านไปจะเริ่มแตกหน่อและเจริญเติบโตอย่างรวมเร็ว
สูงเท่ากับตึก 7 ชั้นภายใน 45 วัน ตลอดเวลา
5 ปีที่ดูเหมือนไม่มีการเจริญเติบโต เป็นห้วงเวลาของการหยั่งรากและแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
สั่งสมธาตุอาหารสำหรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
อุปมาเรื่อง “ผู้หว่าน”
ในพระวรสารนักบุญมัทธิวถือเป็นอุปมาแรกที่งดงามของพระเยซูเจ้า
ทรงสั่งสอนประชาชนจากเรื่องราวในชีวิตจริงที่พวกเขาคุ้นเคย เรื่องราวของไผ่เมาซูเชิญชวนบรรดาศิษย์และผู้แพร่ธรรม
ให้มีความอดทนเมื่อพบความล้มเหลวในการประกาศพระวาจา ไม่ละความพยายามในการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง
และเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าและพระวรสาร เพื่อรอคอยการเจริญเติบโตและเกิดผลอย่างสมบูรณ์
อุปมาเรื่องผู้หว่านได้กล่าวถึงลักษณะดิน
4 ประเภท : 1) ดินตามทางเดิน ผู้คนย่ำไปมาจนแข็งยากที่เมล็ดพืชจะงอกขึ้นได้, 2)
ดินบนหิน มีดินน้อยไม่มีความชื้นและอาหารเพียงพอ, 3)
ดินในกอหนาม มีกอหนาม หรือวัชพืชขึ้นปกคลุม
และ 4) ดินดี มีคุณภาพทำให้เมล็ดพืชเจริญเติบโต
ดิน 4 ประเภทนี้พบอยู่ทั่วไปในดินแดนปาเลสไตน์ ผู้ฟังนึกภาพออกและเข้าใจทันทีเมื่อได้ยินพระเยซูเจ้าตรัส
ดินทั้งสี่ชนิดคือจิตใจของมนุษย์ที่แตกต่างกัน
1.
ผู้หว่านกับดินสี่ประเภท
พระเยซูเจ้ามิได้อธิบายอุปมาที่พระองค์เล่าทุกเรื่อง
แต่อุปมาเรื่อง “ผู้หว่าน” มีคำอธิบายในตอนท้าย (มธ 13:18-23) ซึ่งนักพระคัมภีร์ถือว่า เป็นส่วนที่นำมารวมเข้าในภายหลัง เมล็ดพืชคือพระวาจา
หรือพระประสงค์ของพระเจ้า และดินคือใจของมนุษย์ คำอธิบายได้เน้นถึงชนิดของใจหลายแบบที่ปฏิเสธพระวาจาของพระเจ้า
ในความเป็นจริง เราแต่ละคนคือตัวแทนของดินสี่ประเภทที่แตกต่างกัน
1) ดินตามทางเดิน หมายถึง “ใจแข็งกระด้าง” แสดงถึงหัวใจปิดสนิท
ความจริงไม่สามารถทะลุเข้าไปถึงจิตใจคนประเภทนี้ได้เลย บาปทำให้ใจเราแข็งกระด้างและจิตใจแข็งกระด้างย่อมทำบาปมากขึ้น
จนกลายเป็นความชินชา เกียจคร้าน หวาดกลัว และหยิ่งยโส สำคัญผิดคิดว่า ตนเองรู้หมดทุกอย่าง
ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้อะไรอีกต่อไป
2) ดินบนหิน หมายถึง “ใจที่มีความเชื่อตื้นเขิน” เหมือนดินคลุมพื้นหิน
เมื่อเมล็ดพืชตกลงไปไม่สามารถหยั่งรากลึกได้เพราะมีเนื้อดินน้อย
มันงอกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่มีรากจึงเหี่ยวเฉาไปเมื่อแดดจัด
คนจำนวนมากเป็นเช่นนี้ เป็นคริสตชนแต่ในทะเบียนบ้าน มาวัดเพื่อให้เหมือนคนอื่น
เมื่อเผชิญปัญหา หรือความยากลำบากได้ละทิ้งไป
3) ดินในกอหนาม หมายถึง “ใจหมกมุ่นกับหลายสิ่ง”
ไม่มีเวลามาวัด สวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์ หรืออยู่เงียบ ๆ กับพระเจ้า การปล่อยตัวตามความสะดวกสบายและความโน้มเอียงไม่ดี
ทำให้จิตใจถูกครอบงำด้วยความเกลียดชัง อิจฉาริษยา และความโลภ สิ่งที่พวกนี้สนใจมีเพียงอย่างเดียวคือ
เงิน (เช่น ยูดาสติดตามพระเยซูเจ้า แต่ไม่สามารถเอาชนะความโลภในใจได้)
4) ดินดี หมายถึง “ใจเปิดกว้าง” คนพร้อมรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำมาปฏิบัติด้วยความร้อนรน
ผู้นำพระวาจามาปฏิบัติในชีวิตจริง พระวาจาย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราคาดไม่ถึง
เหมือนการเติบโตอย่างรวดเร็วของไผ่เมาซู
2.
บทเรียนสำหรับเรา
อุปมาเรื่องผู้หว่านได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องไม่ท้อถอยในการทำความดี ผู้หว่านไม่ปฏิเสธการหว่านเมล็ดพืชแม้รู้ว่า
บางเมล็ดต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีโอกาสเติบโต หรือเกิดผลใด ๆ
แต่เขามั่นใจว่า มีบางเมล็ดตกในเนื้อดินดีและเกิดผล ดังนั้น เราไม่ควรท้อถอยในการเป็นคริสตชน
และในการประกอบคุณงามความดี เราต้องพร้อมยอมเสี่ยง ไม่รอให้ทุกอย่างพร้อมเสียก่อน
เราถึงกลับใจมาหาพระเจ้า
ประการที่สอง เราต้องเปิดใจรับฟังพระวาจา สิ่งที่เราต้องถามตนเองอยู่เสมอคือ
เราได้เปิดใจรับฟังพระวาจาของพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน เรากำลังสลวนอยู่กับสิ่งใดในชีวิต
เงินทอง หรือความมั่นคงในชีวิต พระวาจาของพระเจ้าต้องหยั่งรากลึกในจิตใจเรา เปลี่ยนแปลงตัวเราให้เติบโตยิ่งขึ้น
และเกิดผลในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
ประการที่สาม เราเป็นดินดี เราต้องตอบสนองพระวาจาและพระประสงค์ของพระเจ้า
ไม่ปล่อยให้การประจญ หรือค่านิยมของโลกครอบงำการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาในตัวเรา
ตอบสนองต่อเสียงเรียกของพระเจ้าในการนำพระวาจาของพระองค์ไปยังบุคคลต่าง ๆ ที่เราพบในชีวิตประจำวัน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
ดินดีคือใจที่เปิดกว้างรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติในชีวิต
เป็นการเปิดใจรับความจริงของพระองค์
และยอมให้ความจริงนั้นหยั่งรากลึกในชีวิตและเกิดผลในจิตใจ
หันหลังให้บาปและความโน้มเอียงไม่ดีต่าง ๆ ที่ครอบงำจิตใจ เพื่อกลับใจมาหาพระองค์และให้พระองค์พรวนดินรดน้ำดินที่แข็งให้ร่วนซุย
ขุดหินขึ้นมา และดึงหนามทิ้งไป เพื่อให้ใจเรากลายเป็นดินดีและเกิดผลร้อยเท่า
การเป็นคริสตชนไม่เพียงการมาวัดฟังพระวาจาของพระเจ้าสัปดาห์ละครั้ง
แต่ต้องตอบสนองพระวาจาด้วยหัวใจทั้งครบ ให้เมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาหยั่งรากลึกและเกิดผลในตัวเรา
ศิษย์พระคริสต์ต้องเปิดใจกว้าง เป็นดินดีที่ทำให้พระวาจาเติบโตและเกิดผลสมบูรณ์
รำพึงถึงพลังและความหมายของพระวาจา เจริญชีวิตตามพระวาจาและประกาศแก่ทุกคนผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
15 กรกฎาคม 2023
เครดิตภาพ : Adisorn Khiaopo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น