วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563

การแสดงองค์ของพระเยซูเจ้า


การแสดงองค์ของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์
สมโภชพระคริสตเจ้า
แสดงองค์ ปี A B C
อสย 60:1-6
อฟ 3:2-3, 5-6
มธ 2:1-12
บทนำ
เมื่อนักบิน ดิก รูทัน (Dick Rutan) พร้อมกับนักบินผู้ช่วย จีนา ยีเกอร์ (Jeana Yeager) ชาวอเมริกัน สร้างประวัติศาสตร์การบินในปี 1986 ด้วยการบินรอบโลกโดยไม่หยุดเติมน้ำมันเลย ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหพันธ์การบินนานาชาติ ซึ่งผู้คนทั่วโลกพากันติดตามด้วยความตื่นเต้นในความสำเร็จของพวกเขา ที่สร้างความประทับใจและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก เช่นเดียวกับการเดินทางรอบโลกของมาโค โปโล การค้นพบทวีปอเมริกาของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส หรือการเดินทางไปดวงจันทร์ของนักบินอวกาศ
การผจญภัยมักสร้างความสนใจและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เราเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวของโหราจารย์ในพระวรสารวันนี้ แม้ว่านักคิดบางท่านมองว่า การติดตามดาวของพวกเขาเป็นความโง่เขลา ยอมทิ้งบ้านเกิดเสี่ยงภัยอันตรายไปยังดินแดนที่มีคนโหดเหี้ยมอย่างเฮโรด กระนั้นก็ดี ด้วยสายตาแห่งความเชื่อ บรรดาโหราจารย์ได้ค้นพบความลับยิ่งใหญ่คือ ความรักหาที่สุดมิได้ขององค์พระเจ้าต่อเรามนุษย์ เพราะเด็กที่พวกเขาได้พบไม่เหมือนเด็กทั่วไป แต่เป็นบุตรของพระเจ้า
วันฉลอง “พระคริสตเจ้าแสดงองค์” (Epiphany) เป็นวันฉลองการไขแสดงของพระเจ้าแก่บรรดาคนต่างชาติ โดยมีนักปราชญ์จากทิศตะวันออก หรือโหราจารย์เป็นตัวแทน แรกทีเดียววันฉลองนี้ตรงกับวันที่ 6 มกราคม ซึ่งมีมาก่อนวันพระคริสตสมภพ และเป็นวันฉลองใหญ่มากสำหรับพระศาสนจักรตะวันออก เพื่อแสดงให้เห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ ผู้ทรงทำให้คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ในบทอ่านแรกปรากฏเป็นจริง “ทุกคนจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์... นานาชาติจะเดินมาหาความสว่างของเจ้า” (อสย 60:3)    
1.       การแสดงองค์ของพระเยซูเจ้า
คำว่า การแสดงองค์ (επιφάνεια)” ในภาษากรีกหมายถึงการปรากฏ หรือการเผยแสดง  ใช้อธิบายการปรากฏพระองค์ของพระเยซูเจ้าต่อคนต่างศาสนา แต่ในความหมายดั้งเดิมหมายถึง การที่กษัตริย์ออกไปเยี่ยมประชาชนในต่างจังหวัด ซึ่งเกี่ยวโยงกับการที่พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เอง หรือการที่พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงพระองค์ในฐานะบุตรพระเจ้า โดยมีดาวที่นำทางบรรดาโหราจารย์ซึ่งเป็นตัวแทนของคนหลากหลายเชื้อชาติ ให้มาพบและรู้จักพระองค์
นักบุญเปาโลได้ขยายความให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นว่า พระเจ้าได้เปิดเผยพระองค์ให้เราได้ทราบผ่านทางพระเยซูเจ้าว่า พระองค์ทรงรักมนุษย์ทุกคน ทรงเรียกพวกเขาให้มาสัมผัสแสงสว่างแห่งความรอดไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ทำให้ “คนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในกองมรดกเดียวกัน ร่วมเป็นกายเดียวกัน ร่วมรับพันธสัญญาเดียวกันในพระคริสตเยซูอาศัยข่าวดี” (อฟ 3:6)
พระเยซูเจ้าทรงเป็นความรอดพ้นของมนุษย์ทุกคน ทุกเชื้อชาติ มิใช่แต่เฉพาะสำหรับชาวยิวเท่านั้น “เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำนวนมากจะมาจากทิศตะวันออกและตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ ในพระอาณาจักรสวรรค์” (มธ 8:11) อีกทั้งได้ส่งบรรดาศิษย์ของพระองค์ให้ไปสั่งสอนนานาชาติทั่วโลก (ดู มธ 28:19) ดังนั้น ปัจจุบันไม่มีประชากรที่ทรงเลือกสรร ไม่มีชาวต่างชาติและไม่มีคนที่อยู่ข้างนอก แต่ทุกคนได้รับการเรียกให้มารู้จักพระองค์ เป็นบุตรที่ทรงรักและเป็นพี่น้องกัน ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และชั้นวรรณะ
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาพระเจ้าและการสมโภชวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องนมัสการพระเยซูเจ้าด้วยความเชื่อ บรรดาโหราจารย์ได้ติดตามดาวไปยังดินแดนที่ไม่รู้จักและอันตรายโดยปราศจากความกลัว พวกเขาได้คุกเข่าลงนมัสการพระองค์ พร้อมกับถวายทองคำ กำยาน และมดยอบ และกลับไปในเส้นทางใหม่ด้วยความยินดี เราต้องนมัสการพระเยซูเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณด้วย ทองคำแห่งความรัก มดยอบแห่งความสุภาพถ่อมตน และกำยานแห่งความเลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งเลือกเดินในหนทางชีวิตดีงาม ปราศจากความเห็นแก่ตัวและนิสัยไม่ดีต่าง ๆ
ประการที่สอง เราต้องมอบตนเองเป็นของขวัญแด่พระเยซูเจ้า บรรดาโหราจารย์ได้มอบของขวัญที่มีค่าของตนแด่พระเยซูเจ้า ให้เราได้มอบตัวเราเองแด่พระเยซูเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจ ในการอธิษฐานภาวนา การมาวัดวันอาทิตย์และการอ่านพระคัมภีร์ และด้วยการดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนมนุษย์ ในการรักซึ่งกันและกัน การให้อภัยกันด้วยใจกว้าง และการช่วยเหลือแบ่งปันกันด้วยความยินดี นี่คือของขวัญมีค่ายิ่งที่เราสามารถมอบให้แด่พระเยซูเจ้าได้
ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตเป็นดาวนำผู้อื่นมาหาพระเยซูเจ้า ดาวได้นำโหราจารย์มานมัสการพระกุมารเจ้า เราสามารถเป็นดาวนำผู้อื่นมาพบพระเยซูเจ้าได้ ผ่านทางการบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ การเป็นตัวอย่างดีให้คนอื่นได้เห็น ชีวิตของเราแต่ละคนสามารถเป็นดาวส่องสว่างให้คนอื่นได้เห็นความรัก การให้อภัย และการช่วยให้รอดของพระเจ้า และช่วยให้พวกเขาดำเนินในหนทางถูกต้องได้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก วันนี้เราสมโภชการแสดงองค์ของพระเจ้าในธรรมชาติมนุษย์ที่มองเห็นได้ เพื่อความรอดของมนุษย์ทั้งมวล พระเจ้าทรงใช้ดาวดวงหนึ่งปรากฏบนท้องฟ้า เพื่อนำทางบรรดาโหราจารย์ไปยังสถานที่ซึ่งพวกเขาสามารถพบพระเจ้าในรูปของกุมารน้อยคนหนึ่ง พระเจ้าได้ทรงดลใจพวกเขาให้เดินทางจากแดนไกล เพื่อแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ในโลกนี้ได้รับการเรียกให้มาพบพระพักตร์พระองค์ เพื่อรู้จักและนมัสการพระองค์
            เราแต่ละคนสามารถนำคนอื่นให้มาพบพระเยซูเจ้าได้ อาศัยความรู้ความสามารถต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานให้ เราได้รับการเรียกให้มาเป็นแสงสว่างส่องโลก ในการประกาศข่าวดีแห่งความหวัง ความยินดี และสันติสุขกับผู้อื่น ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน ซึ่งแสดงออกให้เห็นในภาคปฏิบัติ ในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปันสิ่งที่เรามีแก่คนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 141-144.
ที่มาภาพ : https://www.stjohnsaustinlcms.org/sermons/01-06-matthew-21-12-the-wisemen/
ดูเพิ่มเติม http://dondaniele.blogspot.com/2011/01/blog-post.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น