วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

การกลับคืนชีพและชีวิตหลังความตาย


การกลับคืนชีพและชีวิตหลังความตาย
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา
ปี C
2 มคบ 7:1-2, 9:14
2 ธส 2:16; 3:5
ลก 20:27-28
บทนำ
จอร์ซ บุช ขณะดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ได้เป็นตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมพิธีฝังศพอดีตผู้นำโซเวียต เลโอนิค เบรสเนฟ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นเวลา 18 ปี รองประธานาธิบดีบุชรู้สึกตะลึงกับการต่อต้านเงียบของ นางนาตาเลีย ภริยาม่ายของเบรสเนฟ ซึ่งยืนสงบนิ่งข้างโลงศพสามีและก่อนทหารปิดฝาโลง เธอได้ทำเครื่องหมายแห่งความกล้าหาญและความหวังยิ่งใหญ่ ซึ่งแสดงถึงการต่อต้านและไม่เชื่อฟังรัฐบาลคอมมิวนิสต์
เธอได้ทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าอกของสามี อดีตผู้นำยิ่งใหญ่ซึ่งไม่เชื่อพระเจ้าและถือว่า ศาสนาเป็นยาเสพติด เธอได้แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่สามีต่อต้านและโฆษณาชวนเชื่อมาตลอดเป็นความผิดหลง เธอเชื่อในชีวิตหลังความตายและหวังว่า สามีจะได้รับการช่วยให้รอด ด้วยพระเมตตาและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า ดังที่พระองค์ทรงแสดงให้เห็นในบทอ่านวันนี้ และทรงเชื้อเชิญเราให้ตระหนักถึงความหมายของการกลับคืนชีพและชีวิตหลังความตาย
คำถามที่มนุษย์ทุกยุคสมัยแสวงหาคำตอบตลอดมาคือ ชีวิตมาจากไหน เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร และ ตายแล้วจะไปไหน  สำหรับคริสตชนชัดเจนว่า ชีวิตมาจากพระเจ้า ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตและเป้าหมายสุดท้าย เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในความรักต่อกันตามแบบอย่างของพระองค์ ชีวิตในโลกนี้เป็นเหมือนกับการเดินทางเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสุดท้ายคือการอยู่กับพระเจ้า  ความตายมิใช่การสิ้นสุดของทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ความตายคือกุญแจที่เปิดไปสู่ชีวิตนิรันดร
1.        การกลับคืนชีพและชีวิตหลังความตาย
เราเพิ่งสมโภชนักบุญทั้งหลายและภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายว่า เรา “ผู้เป็น” กำลังเดินทางอยู่ในโลกนี้ ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกับ “ผู้ตาย” ที่ล่วงหน้าเราไปแล้ว ในสายสัมพันธ์แห่งความเชื่อและความรัก ผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและพิธีบูชาขอบพระคุณที่เราระลึกถึงกัน ความตายเป็นเหมือนประตูที่เปิดไปสู่ชีวิตหนึ่งที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวนี้เริ่มแล้วตั้งแต่ในโลกนี้
พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นว่า ในอาณาจักรของพระเจ้านั้นมนุษย์ได้เข้าร่วมแบบครอบครัวใหม่ที่ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน พระองค์ทรงยืนยันความจริงนี้จากเหตุการณ์เมื่อมีคนมาบอกว่า มารดาและพี่น้องของพระองค์มารอพบ และพระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา” (ลก 3:35) คำถามที่พวกสะดูสีตั้งปัญหาถามพระเยซูเจ้าจึงเป็นเรื่องไร้สาระและไม่มีความหมายแต่ประการใด
เรามีบุญได้อยู่กับพระเจ้าหรือไม่ขึ้นอยู่ที่การดำเนินชีวิตในโลกนี้ คำกล่าวที่ว่า  ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง เป็นความจริงทีเดียว โดยเฉพาะในความรักต่อกันตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า พระองค์จะไม่ถามว่า เราได้ทำอะไรมาบ้าง แต่จะถามว่า เราได้รักเพื่อนพี่น้องของเรามากน้อยแค่ไหน นี่คือบุญกุศลที่เราต้องสร้างขณะยังมีชีวิตอยู่ซึ่งจะติดตัวเราไป และมีเพียงสิ่งนี้ที่เป็นหลักประกันการเข้าสู่พระอาณาจักรสวรรค์ บ้านแท้และเป้าหมายสุดท้ายของเรา ประการสำคัญ ในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ขอกันไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอง
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเชื่อในการกลับคืนชีพและชีวิตหลังความตาย ชีวิตคริสตชนมีพื้นฐานอยู่ที่ความหวังว่า วันหนึ่งเราจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ผู้เป็นบ่อเกิดและเป้าหมายของเรา ความหวังของเราตั้งอยู่บนความเชื่อและความวางใจในความรักของพระเจ้า ผู้คู่ควรได้รับชีวิตนิรันดรจะพบกับความสุขและความชื่นชมยินดี และพระเจ้าทรงเป็นรางวัลนิรันดรสำหรับพวกเขา
ประการที่สอง เราต้องดำเนินชีวิตอย่างผู้กลับคืนชีพ นั่นหมายความว่า เราต้องไม่ถูกฝังในหลุมศพแห่งบาปและนิสัยไม่ดีต่าง ๆ แต่ดำเนินชีวิตในความยินดี ความหวัง และสันติสุขของพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ ทรงชนะบาปและความตาย ด้วยการรู้จักควบคุมความคิด ความปรารถนา คำพูดและความประพฤติของเราให้ถูกต้องชอบธรรมและสะอาดบริสุทธิ์ ไม่ปล่อยตัวตามกิเลสตัณหาและความโน้มเอียงไม่ดีต่าง ๆ
ประการที่สาม เราต้องถวายสักการบูชามีชีวิตแด่พระเจ้า ทุกวันอาทิตย์เรามารวมตัวกันเพื่ออธิษฐานภาวนาสำหรับความต้องการของหมู่คณะ แบ่งปันพระวาจาและร่วมพิธีบิปังอย่างมีชีวิตชีวา ด้วยการมีส่วนร่วมในพิธีกรรมและกิจการคาทอลิกต่าง ๆ เพื่อช่วยเราให้มีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ อีกทั้ง ทำให้สักการบูชาที่เรามาร่วมทุกสัปดาห์กลายเป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิตของเรา ในความรัก การให้อภัย และการแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่ามิใช่อายุยืนยาว แต่อยู่ที่การกระทำ เราควรตระหนักถึงชีวิตและใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการประกอบคุณงามความดี สร้างบุญสร้างกุศล เป็นต้น ในความรักต่อกัน “อยู่ให้เขารักและจากไปให้เขาคิดถึง” หากเราได้ดำเนินชีวิตในความรักนี้ ได้ทำหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายอย่างสุดความสามารถ ดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างในความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม  ย่อมแน่ใจได้ว่าเราจะได้รับรางวัลตามที่ทรงสัญญา
พระเยซูเจ้าทรงชนะบาปและความตาย ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพเป็นความหวังว่า ใครที่ตายพร้อมกับพระองค์ ย่อมมีส่วนในการกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ และร่วมส่วนในเกียรติรุ่งโรจน์กับพระองค์ในสวรรค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักในพระพรและความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ดำเนินชีวิตในความรักต่อกันโดยไม่แบ่งแยก ให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง และแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้ยากจนและต้องการความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
8 พฤศจิกายน 2019
ภาพ : การภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ, สุสานวัดดอนม่วย-โนนค้อ, สกลนคร; 2019-11-01

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น