วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

วาจาและกิจการ

วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
ยรม 20:10-13
ยน 10:31-42
 วาจาและกิจการ

ตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอดเราได้เห็นถึงอำนาจของพระวาจาพระเจ้าที่สร้างทุกสิ่ง พระวาจาของพระองค์ที่ตรัสกับอับราฮัมทำให้เกิดพันธสัญญากับประชากรใหม่ที่ทรงเลือกสรร เมื่อตกเป็นทาสในดินแดนอียิปต์ พระวาจาของพระองค์ได้ช่วยให้พวกเขาพ้นจากการเป็นทาสผ่านทางโมเสส เมื่อพวกเขาตกในบาปพระวาจาของพระองค์ได้นำข่าวดีเรื่องการเสด็จมาของพระผู้ไถ่เพื่อช่วยพวกเขา

เมื่อพระผู้ไถ่ปรากฏมา พระวาจาของพระองค์แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด พระองค์รักษาคนป่วย ขับไล่ปีศาจ ทวีขนมปัง เปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น และเรียกคนตายให้ฟื้นคืนชีพ เป็นพระวาจาที่ทรงอำนาจที่สัญญาถึงการกลับคืนชีพของพระองค์ และการกลับคืนชีพของเรามนุษย์ในวาระสุดท้าย พระวาจาของพระองค์ที่ตรัสเหนือปังและเหล้าองุ่น ได้ทำให้พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางเราทุกยุคทุกสมัย

ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าตรัสว่าหากชาวยิวปฏิเสธที่จะเชื่อในพระวาจาของพระองค์ อย่างน้อยพวกเขาควรยอมรับกิจการดีต่างๆ ที่พระองค์ทรงกระทำ พระองค์ได้ประยุกต์สุภาษิตโบราณที่ว่า “กิจการดังกว่าคำพูด” เพื่อสอนพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าไม่มีผลในการเปลี่ยนแปลงจิตใจพวกเขา สถานการณ์การเผชิญหน้ากันระหว่างพระองค์กับผู้นำศาสนายิว ได้มาถึงบทสรุปที่พวกเขาอยากจะฆ่าพระองค์

จากการที่พระเยซูเจ้าตรัสว่าพระองค์ทรงกระทำกิจการดีทั้งหลายในนามของพระบิดาเจ้า ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความจริงที่ว่าพระองค์เป็น “บุตรของพระเจ้า” ที่พระบิดาทรงส่งมาเพื่อไถ่โลกให้รอด ทำให้ชาวยิวเห็นเป็นที่สะดุดและจะทุ่มหินพระองค์ให้ตาย เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าเป็นการกล่าวผรุสวาทอย่างร้ายแรง เพราะในความคิดของพวกเขาพระองค์เป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้งตนเป็นพระเจ้า ตามกฎหมายของชาวยิว ใครที่ตั้งตนเป็นพระเจ้าต้องถูกทุ่มหินให้ตาย (ลนต 24:46)

พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่า พระวาจาของพระองค์ได้ก่อให้เกิดกิจการดีมากมาย เช่น การรักษาคนป่วย การเลี้ยงอาหารคนหลายพันคน การปลอบประโลมใจผู้เศร้าโศก พระองค์จึงเรียกร้องให้ดูกิจการงานที่พระองค์ทรงกระทำเป็นรูปธรรม ซึ่งกิจการดีเหล่านี้มีแหล่งที่มาจากพระบิดาที่ทรงส่งพระองค์มาและสั่งให้ทำดังนั้น ชาวยิวเห็นกิจการดีที่พระองค์ทรงกระทำอยู่ทุกวัน แต่พวกเขามองไม่เห็นความดีใดๆ และดึงดันที่จะฆ่าพระองค์

พระวาจาในวันนี้ เตือนเราให้มีสายตาที่ยาวไกลและเห็นคุณค่าในกิจการดีทุกอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำต่อเรามนุษย์ เชื่อในการประทับอยู่อย่างแท้จริงของพระองค์ในศีลศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านทางศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทที่เรากำลังจะรับ ให้เราเข้าใกล้พระองค์ด้วยความเชื่อและความหวัง เพื่อว่าพระองค์จะได้ต้อนรับเราและประทานอาภรณ์ใหม่แห่งการเป็นบุตรพระเจ้าแก่เรา

จงอย่าท้อแท้เมื่อเราตั้งใจทำกิจการดีแล้วหลายคนไม่เข้าใจเจตนาดีของเรา หรือมองไม่เห็นคุณค่าของกิจการที่เราทำ พระเยซูเจ้าได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน ชาวยิวต้องการจะทุ่มหินพระองค์ในนามของพระเจ้า เราได้ประณามคนอื่นในนามพระเจ้าหรือโกรธเกลียดคนที่ชี้ความผิดให้แก่เราหรือเปล่า เราได้ยืนยันความเชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นบุตรพระเจ้าทุกสัปดาห์ ปัญหาก็คือว่าเราได้ทำให้ความเชื่อนี้ปรากฏเป็นจริงในกิจการ มากน้อยเพียงใดในชีวิตของเรา ให้เราได้ภาวนาเพื่อเราจะได้เปิดใจเชื่อเครื่องหมาย ที่พระเจ้าได้เผยให้เราได้เห็นถึงความรักของพระองค์ในแต่ละวัน.

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
26 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น