วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

รูปงูพันหลักและไม้กางเขน

วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
กดว 21:4-9
ยน 8:21-30

 รูปงูพันหลักและไม้กางเขน

เราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ปัจจุบันได้มีการเพิ่มคำว่า “ความอดทน พิสูจน์ผู้ชอบธรรม” เข้ามาด้วยเพื่อให้ครบสมบูรณ์ เพราะใครก็ตามที่ขาดความอดทนจะเป็นคนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้ ลักษณะของคนที่ขาดความอดทนที่เห็นเด่นชัดคือ “การบ่น” คนเหล่านี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนย่อมก่อความน่ารำคาญและความวุ่นวายให้กับสังคมหรือหมู่คณะที่ตนเองสังกัดอยู่

ในบทอ่านแรกจากหนังสือกันดารวิถีได้สะท้อนให้เห็นเหตุการณ์เช่นว่านี้ หลังจากที่พระเจ้าได้ทรงช่วยชาวยิวให้พ้นจากการเป็นทาสในดินแดนอียิปต์มุ่งสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา ความอยากลำบากในการเดินทางในถิ่นทุรกันดารทำให้หลายคนหมดความอดทน บ่นว่าพระเจ้าและโมเสส “ทำไมท่านจึงได้พาเราออกจากประเทศอียิปต์ให้มาตายในถิ่นทุรกันดารนี้เล่า เพราะว่าที่นี่ไม่มีอาหารและน้ำ เราเบื่ออาหารอันจืดชืดนี้จนเหลือทนแล้ว” (กดว 21:5)

ผลของการบ่นว่านี้ทำให้พวกเขาได้รับการลงโทษ พระเจ้าได้บันดาลให้มีงูพิษกัดพวกเขาตายไปหลายคน และป่วยหนักเป็นจำนวนมาก พวกเขาถึงได้สำนึกผิดและขอให้โมเสสอ้อนวอนพระเจ้าได้ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากงูร้าย โมเสสได้ทำรูปงูด้วยทองสัมฤทธิ์แขวนติดไว้ที่เสาหลักตามบัญชาของพระเจ้า ใครที่มองดูรูปงูพันหลักนี้ก็จะหายและรอดชีวิต “รูปงูพันหลัก” จึงกลายมาเป็นเครื่องหมายของหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลมาจนถึงปัจจุบัน

รูปงูพันหลักที่ถูกยกขึ้นในถิ่นทุรกันดาร ยังเป็นเครื่องหมายถึงการที่พระเยซูเจ้าจะถูกยกขึ้นบนกางเขนตามที่พระวรสารวันนี้พูดถึง ซึ่งเหตุการณ์ในวันนี้ เป็นสถานการณ์แห่งความขัดแย้งระหว่างพระเยซูเจ้ากับพวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีที่อยากรู้ว่าพระองค์เป็นใคร พระเยซูเจ้าได้แสดงให้พวกเขาทราบว่า ความเป็นพระเจ้าของพระองค์จะปรากฏแจ้งเวลาที่พระองค์ถูกตรึงบนกางเขน “เมื่อใดที่ท่านยกบุตรแห่งมนุษย์ขึ้น เมื่อนั้นท่านจะทราบว่า เราเป็น” (ยน 8:28)

ข่าวดีแห่งการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพที่เราเรียกว่า “ธรรมล้ำลึกปัสกา” ได้เปิดเผยให้เราทราบว่าพระเยซูเจ้าเป็นใคร พระองค์คือพระเจ้าที่ประทับท่ามกลางเรา ทรงเป็นหนึ่งเดียวและทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าไม่ใช่ทำอะไรตามใจตนเอง ความนอบน้อมเชื่อฟังจนถึงที่สุดของพระองค์ต่อพระบิดาเจ้าบนไม้กางเขน ได้สะท้อนให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์

การเปรียบเทียบระหว่างรูปงูที่ถูกยกขึ้นกับพระเยซูเจ้าบนกางเขนในบทอ่านของวันนี้ คือความสอดคล้องกันของพิธีกรรมวันนี้ ชาวยิวมองดูรูปงูที่ติดไว้บนเสาแล้วรอดชีวิตฉันใด การมองดูพระเยซูเจ้าบนกางเขน ก็จะหายจากบาปและได้รับชีวิตนิรันดร นั่นคือ ด้วยการดำเนินชีวิตในความเชื่อในพระเยซูเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแบบอย่างแห่งความรักบนไม้กางเขน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13)

พระเยซูเจ้า “ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง แต่พูดอย่างที่พระบิดาทรงสั่งสอน” ให้เราทำและพูดตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าเช่นเดียวกับพระองค์ แสวงหาและปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าไม่ใช่น้ำใจของเรา ไม่บ่นว่าพระเจ้าในเวลาของความยากลำบาก เพราะที่สุดแล้วเราก็จะสามารถผ่านทางแห่งกางเขนสู่ความรอดพ้น คือการกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
23 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น