วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นาบัวปิดค่ายคำสอน

 นาบัวปิดค่ายคำสอน เด็กๆ ตั้งใจจะเป็นเด็กดี


นาบัวค่ายคำสอนสัญจรที่วัดนาบัวประสบผลสำเร็จเกินคาด พระสังฆราชแวะมาให้กำลังใจ บรรดาเด็ก 104 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งใจจะเป็นเด็กดี และปิดลงด้วยความประทับใจ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2010

ค่ายคำสอนสัญจรที่วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว ต.หนองแวงใต้ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ที่ดำเนินการโดยศูนย์คริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างและการปลูกฝังความเชื่อทางศาสนา ให้กับเด็กคำสอนวัดพระคริสตประจักษ์นาบัวและวัดพระนามเยซูโพนสวาง ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2010 ได้เดินทางมาถึงวันสุดท้าย และปิดลงด้วยความประทับใจ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2010 โดยคุณพ่อวีระชัย อุตะมะชะ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ

ค่ายคำสอนสัญจรครั้งนี้ ถือเป็นโครงการใหม่ของ ศูนย์คริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนคาทอลิกได้เรียนรู้คำสอนและคุณธรรมมากขึ้น รวมถึงได้เรียนรู้ ทบทวน และเตรียมตัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างดี เป็นต้นศีลมหาสนิทและศีลกำลัง อีกทั้ง ได้ฝึกการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน รู้จักซึ่งกันและกันมากขึ้น เพื่อจะได้ร่วมมือและทำงานร่วมกันในอนาคต

เจ้าหน้าที่และทีมงานที่มาจัดค่ายคำสอนสัญจรครั้งนี้ประกอบด้วย: ซิสเตอร์ปาริชาติ ราชจำปี, นางสาวแพรวสุดา ยงบรรทม, นางสาวสุนันท์ เทพกรรณ์, นายอิทธิฤทธิ์ ว่องไว, นางสาวนุชนาฏ ทองอันตัง, นางสาววาสนา ทองอันตัง, นางสาวสุภาพร คำปิตะ และนายสุนทร อุปรี รวม 8 คน ส่วนเด็กนักเรียนคำสอนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีทั้งหมด 104 คน แยกเป็นวัดพระคริสตประจักษ์นาบัว 90 คน และวัดพระนามเยซูโพนสวาง 14 คน

กิจกรรมค่ายคำสอนสัญญจรในแต่ละวัน เริ่มด้วยพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณในเวลา 06.00 น. ต่อด้วยการอบรมของคุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส คำชี้แจงของซิสเตอร์ปาริชาติ ราชจำปี และผู้รับผิดชอบ ก่อนที่จะปล่อยบรรดาเด็กๆ ให้กลับบ้านรับประทานอาหารเช้า เพื่อกลับมาร่วมกิจกรรมอีกครั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรมนันทนาการ การสอนคำสอนแยกตามระดับชั้น การเยี่ยมบ้าน การบำเพ็ญประโยชน์ และกีฬาสัมพันธ์โดยแยกเป็นสีต่างๆ 6 สี เก็บคะแนนตั้งแต่วันแรกและมอบรางวัลในวันสุดท้าย

ค่ายคำสอนสัญจรครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย เด็กนักเรียนคำสอนทั้งจากวัดพระคริสตประจักษ์นาบัวและวัดพระนามเยซูโพนสวาง ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องคำสอนและคุณธรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน รู้จักซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันมากขึ้น ทำให้หลายคนไม่อยากกลับบ้านและรีบมาวัดเพื่อจะได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันอย่างสนุกสนาน

ในส่วนของผู้ปกครองได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการส่งบุตรหลานมาเข้ารับการอบรมและร่วมกิจกรรมในแต่ละวัน รวมถึงการมารอรับในตอนกลางคืนที่มีกิจกรรม อีกทั้งมาร่วมเตรียมอาหารกลางวันร่วมกับทางวัด ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะมีกิจกรรมอย่างนี้สักสองอาทิตย์หรือหนึ่งเดือน บ้างว่าจะได้หมดห่วงไม่ต้องคอยตามหาบุตรหลานเหมือนเช่นทุกวัน (เพราะรู้แน่ว่าทำกิจกรรมที่วัด) บ้างว่าจะได้เกี่ยวข้าวด้วยความสบายใจเพราะมีคนดูแลบุตรหลานให้

อนึ่ง ระหว่างค่ายคำสอนสัญจร พระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ ได้แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจทีมงานและบรรดาเด็กๆ ขณะที่กำลังบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาดวัด และเก็บขยะรอบบริเวณวัด ทำให้ไม่มีใครทราบว่าพระคุณเจ้ามา นอกจากได้ยินเด็กบางคนมาบอกว่า “คุณพ่อมา” พอถามว่า “ใคร” คำตอบที่ได้คือ “ไม่รู้ครับ แต่ตัวอ้วนเหมือนพ่อช้าง” ไม่รู้ว่าอย่างนี้ พระคุณเจ้าควรจะดีใจที่ตัวใหญ่เหมือนพ่อช้าง หรือพ่อช้างควรจะดีใจที่ตัวเล็กลงเท่าพระคุณเจ้า แต่ที่รู้แน่ๆ คือบรรดาทีมงานและเด็กๆ ดีใจครับ

DON DANIELE รายงาน
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
30 ตุลาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น