วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2566

ศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ

 

ศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ

(พ่อเฒ่าคำจันทร์ พ่อเฒ่าทวง พ่อเฒ่าจู้)

1.   ที่มาของชื่อ

 “ศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ” ได้แรงบันดานใจและมีที่มาจากชื่อของผู้เฒ่าสามคน ได้แก่ ยอแซฟ คำจันทร์ ฮุงหวล, ติบูติอุส ทวง มณีนพ และ เอากุสติโน จู้ นิลเขต ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและก่อตั้งบ้านโนนค้อเมื่อ 80 ปีก่อน (1942) อีกทั้ง “สามก้อนเส้า” ยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวโนนค้อโดยตรง หรือคนอีสานในอดีตที่ต้องนึ่งข้าวเหนียววันละ 2 ครั้ง เวลาเช้ามืดและเวลาเย็นเพื่อเลี้ยงชีวิต ทุกครั้งที่นึ่งข้าวต้องใช้ก้อนเส้าสามก้อน หรือหินสามลูกขนาดเท่ากันเพื่อตั้งหม้อนึ่ง และวางหวดข้าวบนหม้อนึ่งทำให้ข้าวสุก

ดังคำพูดของคนอีสานที่ว่า “สามก้อนเส้า นึ่งข้าวจั่งสุก” หากไม่มี “สามก้อนเส้า” จะนึ่งข้าวไม่ได้ เมื่อข้าวไม่สุกทำให้ไม่มีข้าวกิน ขาดเรี่ยวแรง ชีวิตดำเนินต่อไปไม่ได้ คนอีสานทุกคนที่มีอายุเกินห้าสิบปีต้องผ่านประสบการณ์การนึ่งข้าว เนื่องจากเป็นวิถีชีวิตของเด็กอีกสานทุกคนในอดีตในการช่วยงานพ่อแม่ เริ่มจากการนึ่งข้าวซึ่งเป็นงานที่ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต

อุปมาเหมือนผู้เฒ่าทั้งสาม : ยอแซฟ คำจันทร์ ฮุงหวล, ติบูติอุส ทวง มณีนพ และ เอากุสติโน จู้ นิลเขต ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและก่อตั้งหมู่บ้าน พวกท่านได้วางรากฐานทุกอย่างสำหรับบุตรหลานชาวโนนค้อในปัจจุบันด้วยความยากลำบาก เป็นสามก้อนเส้าสำคัญที่ทำให้ข้าวสุก เป็นรากเหง้าที่ทำให้ต้นไม้เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ทำให้หมู่บ้านโนนค้อเป็นปึกแผ่นมั่นคงอย่างในปัจจุบัน ด้วยการแผ้วถางผืนป่าหนาทึบ มีต้นค้อใหญ่ตั้งอยู่บนเนินตรงกลางผืนป่านี้ และได้กลายเป็นชื่อของหมู่บ้านในปัจจุบัน

การให้ชื่อศาลาว่า “ศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ” ถือเป็นการมองย้อนกลับไปยังอดีต คืนสู่รากเหง้าและที่มาของตน ซึ่งล้วนแต่มีรากเหง้าและที่มาจากสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ ช่วยให้อนุชนรุ่นหลังได้คิดถึงบรรพบุรุษอย่าง พ่อเฒ่าคำจันทร์ พ่อเฒ่าทวง และพ่อเฒ่าจู้ เพื่อรำลึกพระคุณ กตัญญู และภาคภูมิใจ ดังคำกล่าวที่ว่า “คนไม่มีอดีตเป็นคนไม่มีอนาคต คนไม่รู้ที่มาก็จะไม่รู้ที่ไปของตนเอง คนไม่มีรากเหง้าจะถูกเขาครอบงำ และกำหนดอนคตให้หมดเลย”

2.   การก่อสร้าง

26 กันยายน 2022 เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง ด้วยการตีผังและเทตอหม้อฐานรากขนาด 1.2 ตรม. หนา 30 ซ.ม. สำหรับใช้ตั้งเสา เมื่อเทตอหม้อฐานเสร็จต้องหมั่นรดน้ำให้แข็งแรงและทิ้งไว้ให้สองสัปดาห์ จากนั้นได้เริ่มตั้งเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวน 10 ต้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2022 โดยใช้รถเครนยกเสาตั้งบนฐานตอหม้อ เริ่มจากการตั้งเสาต้นที่อยู่ด้านในสุดก่อน ทำการยึดค้ำยันและยึดเสากับฐานเสาจนครบทั้ง 10 ต้น พร้อมกับวางคานไม้สักทองยึดระหว่างเสาเข้าด้วยกัน จำนวน 4 คานด้วยกัน

ในจำนวนไม้เสา 10 ต้น แยกเป็นไม้สักทอง 4 ต้น ไม้เต็ง 5 ต้น และไม้อินทนิลบก 1 ต้น ไม้สักทอง 3 ต้นด้านหน้าเป็นไม้ที่ตัดจากบ้านเณรฟาติมาท่าแร่ สกลนคร ไม้เต็ง 2 ต้น ได้รับบริจาคจากครอบครัวผู้ใหญ่ประนอมจิต สมแสน และคุณพ่อมีคาแอล ธัญญา ศรีอ่อน ที่เหลือได้จากพี่น้องดอนม่วย ได้แก่ นางเครือวัลย์ นารินทร์รักษ์, นางสาวสมาน-นางสาวสำราญ สีพันธ์ และนายบูรณ์ บุญโต ความยาวของเสาใหญ่ 8 ต้นสูง 4 เมตร ส่วนเสากลางด้านหน้าและด้านหลังสูง 6.50 เมตร สำหรับยึดไม้สะพานหนู

3.   
โครงหลังคา

งานที่หนักและใช้เวลานานคือการวางไม้สะพานความยาว 14 เมตร ด้านข้างทั้งสองข้าง และด้านบนสุดเพื่อใช้วางจั่ว ซึ่งต้องใช้ไม้สักทองสองต้นต่อเข้าด้วยกันและยึดด้วยน๊อตยาว จากนั้นได้วางจั่วยึดเสาและวางบนไม้สะพานทั้งหมด 7 จั่ว ซึ่งเป็นไม้สักทองทั้งลำจำนวน 14 ต้น ยึดด้วยน๊อตยาวเพื่อให้แข็งแรง  เมื่อทำจั่วเสร็จได้เริ่มวางโครงคร่าว เป็นไม้กุงที่ได้รับการบริจาคจากเปโตร อัครวิชญ์ มงคลล้อม จำนวน 4 ต้น แปรรูปเป็นไม้โครงคร่าวหน้ากว้าง 12 ซม. หนา 4 ซม. วางแบบตั้งบนจั่วไม้สักที่เซาะร่องให้พอดีและยึดเข้าด้วยกันให้มั่นคงแข็งแรง

เมื่องานวางโครงคร่างแล้วเสร็จ 24 ธันวาคม 2022 ได้เริ่มงานมุงหลังคาด้วยแผ่นบลูสโคบแซกส์สีน้ำเงินเพื่อให้ต่างจากตัววัด ใช้เวลามุงสองวัน จากนั้นได้เทพื้นขนาดกว้าง 10.50 เมตร ยาว 15 เมตร โดยใช้คอนกรีตผสมเสร็จ stc.240 หินภูเขา ¾ จำนวน 13 คิว ก่อนหน้านั้นได้วางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 ซม. บริเวณด้านหน้าศาลาเชื่อมต่อกับบ้านพักไว้รองรับน้ำฝนจากหลังคาวัดและสนาม พร้อมทำบ่อพักและวางท่อระบายน้ำลงสู่ที่นาด้านหลัง ใช้ท่อทั้งหมด 36 ท่อนและบ่อพัก 5 บ่อ

4.   พิธีเปิดและเสกศาลา

งานโครงสร้างส่วนสำคัญเสร็จเมื่อ 29 ธันวาคม 2022 พี่น้องโนนค้อได้เริ่มทำความสะอาดและประดับตกแต่งศาลาใหม่ทันที เพื่อใช้จัดงานสมโภชพระคริสตสมภพและงานส่งท้ายปีเก่าเมื่อเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2022 วันรุ่งขึ้นอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2023 เป็นวันขึ้นปีใหม่และสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า หลังพิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 11.59 น. ได้มีพิธีเปิดศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้ออย่างเป็นทางการ โดยหลาน ๆ ของผู้เฒ่าทั้งสามได้แก่ อังเยลา มะลิจันทร์ ฮุงหวล (หลานสาวของยอแซฟ คำจันทร์-ยูเลียนา ฟอง ฮุงหวล), มารธา วิรัตน์ มณีนพ (หลานสาวของติบูติอุส ทวง-ลูชีอา แพง มณีนพ) และ โรมานุส ประพันธ์ นิลเขต (หลานชายของเอากุสติโน จู้-อันนา น้อย นิลเขต) เป็นผู้ตัดริบบิ้นเปิดศาลา มีผู้อาวุโสเป็นสักขีพยานและพี่น้องโนนค้อร่วมในพิธี

จากนั้น คุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส ได้เป็นประธานเสกศาลาสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ เพื่อขอพรจากพระเจ้าสำหรับศาลาใหม่และทุกคนที่ใช้ศาลานี้ให้ได้รับพระพร โดยย้ำเตือนให้พี่น้องโนนค้อได้ตระหนักถึงความเป็นมาของศาลาแห่งนี้ รากเหง้าของตนซึ่งเป็นล้วนพี่น้องกัน โดยมีสามก้อนเส้าแห่งโนนค้อยึดโยงทุกครอบครัวเข้าด้วยกัน ศาลาแห่งนี้จึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก ความสามัคคี และความเป็นหนึ่งเดียวกันของพี่น้องโนนค้ออย่างแท้จริง จากนั้นได้รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน และจับสลากของขวัญโอกาสคริสต์มาสและปีใหม่สำหรับทุกครอบครัว


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น