อาทิตย์ ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ปี B |
บสร 3:3-7,
14-17ก คส 3:12-21 ลก 2:22-40 |
บทนำ
บ้านเป็นเสียงหัวเราะของทารก เป็นบทเพลงที่ไพเราะของมารดา
เป็นความเข้มแข็งของบิดา เป็นความอบอุ่นแห่งความรักในหัวใจ
เป็นประกายแห่งความสุขในดวงตา เป็นความใจดี
ความภักดี และมิตรภาพ
บ้านเป็นโรงเรียนและวัดหลังแรกของคนหนุ่ม
เป็นที่ที่พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งถูกต้อง สิ่งดีงาม และความเมตตา
บ้านเป็นที่ที่พวกเขาพบความช่วยเหลือเมื่อบาดเจ็บและป่วยไข้
เป็นที่ที่ได้แบ่งปันความยินดีและทำให้ความทุกข์หมดสิ้นไป
เป็นที่ที่บิดามารดาให้ความเคารพและรัก เป็นที่ที่บุตรเป็นที่ต้องการและมีค่ายิ่ง
เป็นที่ที่เงินไม่มีความสำคัญเท่ากับความรักเมตตา... นี่คือที่ที่เรียกว่าบ้าน
ที่พระเจ้าทรงอวยพระพร (Anon)
พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมาในครอบครัว ทรงเคารพเชื่อฟังบิดามารดาของพระองค์
และได้รับการอบรมเลี้ยงดูในบรรยากาศแห่งพระหรรษทาน
ในครอบครัวที่มีพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟที่รักกันมาก เห็นอกเห็นใจและเคารพซึ่งกันและกัน
ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขและเป็นแบบอย่างแห่งการแบ่งปันความยินดี ความรับผิดชอบ
และความทุกข์ในชีวิตครอบครัว
พระศาสนจักรยกย่องครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เป็นครอบครัวต้นแบบของครอบครัวทั้งหลาย
1.
ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ต้นแบบของครอบครัว
พระวรสารไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับครอบครัวของพระเยซูเจ้า
พระนางมารีย์ และนักบุญยอแซฟมากนัก แต่เราเข้าใจว่า ยอแซฟเป็นคนยำเกรงพระเจ้า
และปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข เป็นบุคคลซึ่งมีหัวใจเปิดสู่พระเจ้า
เชื่อฟัง ทำตาม และพร้อมเผชิญความยากลำบากทุกอย่างเพื่อพระองค์
ยอมทิ้งบ้านอันอบอุ่นที่นาซาเร็ธเดินทางไกลไปอียิปต์เพื่อความปลอดภัยของพระกุมารเยซู
มีสามครั้งในพระวรสารที่ยอแซฟตื่นขึ้นมากลางดึก
เพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ในการปกป้องพระกุมารเยซูและพระนางมารีย์ให้ปลอดภัย ยอแซฟได้ชื่อว่าเป็น “ผู้ชอบธรรม”
มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว ได้ใช้ความสามารถทุกอย่างเพื่อครอบครัว
ขณะที่พระนางมารีย์คู่ชีวิตรับผิดชอบดูแลครอบครัว และมีส่วนในความยากลำบากต่าง ๆ
ในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเงียบ ๆ
มีเพียงพระวรสารนักบุญลูกาที่เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าในวัยเยาว์ ทรงเป็นเหมือนเด็กชาวยิวทั่วไปซึ่งทำหน้าที่ปกติในครอบครัว
ทรงเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
เคารพเชื่อฟังบิดามารดา มีสิ่งหนึ่งที่ลูกาให้ข้อสังเกตและเน้นเป็นพิเศษ “ทรงปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์
และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์” (ลก 2:40) ทรงเป็นเด็กน่ายกย่องและเป็นศูนย์กลางแห่งความรักของครอบครัว
2.
บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้
ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของครอบครัว
ชีวิตครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ต้องเผชิญมรสุมหนักแสนสาหัส
แต่ครอบครัวนี้มีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง
ทำให้สามารถดำรงความเป็นครอบครัวและฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ มาได้
ความสำเร็จของครอบครัวไม่เพียงขึ้นอยู่กับความรักของสมาชิกต่อกันเท่านั้น
แต่ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้าด้วย ต้องให้พระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางผ่านทางการอธิษฐานภาวนาร่วมกันในครอบครัว
ประการที่สอง เราต้องทำให้ครอบครัวเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน เราอยู่ในพระศาสนจักร
ครอบครัวใหญ่ของผู้มีความเชื่อในพระเยซูเจ้าและข่าวดีของพระองค์
พระศาสนจักรเป็นพระกายทิพย์ที่มองเห็นได้ของพระเยซูเจ้า
แต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของพระกายทิพย์นี้
เราต้องสานต่อพันธกิจของพระองค์ในครอบครัวซึ่งเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน
ยึดพระองค์เป็นศูนย์กลาง และติดตามพระองค์ทั้งในคำพูดและกิจการ บนพื้นฐานแห่งความรักไม่มีเงื่อนไข
ประการที่สาม เราต้องเคารพเชื่อฟังและเลี้ยงดูบิดามารดา พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปยังนาซาเร็ธพร้อมครอบครัว
ทรงเคารพเชื่อฟังและทรงทำงานช่างไม้ช่วยนักบุญยอแซฟเลี้ยงครอบครัว
บุตรต้องเคารพเชื่อฟังและให้เกียรติบิดามารดา หนังสือบุตรสิราบอกเราว่า “บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน...
บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า” (บสร 3:6, 16) บุตรมีหน้าที่ต่อบิดามารดา
ดูแล และเลี้ยงดูท่านยามชรา ไม่ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เป็นโอกาสให้เราได้ไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของเรา
การอยู่ร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวเป็นเหมือนครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มากน้อยเพียงใด
เราต้องมีความรักต่อกันตามแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
สามีภรรยาต้องรักและซื่อสัตย์ต่อกันต่อกันจนวันตาย
ตามคำสัญญาที่เราได้ให้ไว้ “ของขวัญยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งบิดามารดาสามารถให้แก่ลูกได้คือความรักที่พวกเขามีต่อกัน”
(Anon)
สามีภรรยาต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรับผิดชอบต่อครอบครัว
และทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตรซึ่งเป็นพระพรของพระเจ้าอย่างดี บุตรเช่นเดียวกันต้องเคารพเชื่อฟังบิดามารดา
ไม่ทำให้ท่านเสียใจและกตัญญูดูแลท่านยามแก่เฒ่า ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลาง
ในการอธิษฐานภาวนาร่วมกันในครอบครัว เพื่อทำให้พระพรอันอุดม ความรัก
และสันติสุขของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในครอบครัวของตน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 119-122.
ภาพ : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์, วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร; 2020-12-25
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น