วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

พระคริสต์ประทับท่ามกลางเรา


 พระคริสต์ประทับท่ามกลางเรา

อาทิตย์ สัปดาห์ที่

เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

ปี B

อสย 61:1-2; 10-11

1 ธส 5:16-24

ยน 1:6-8, 19-28

บทนำ

อารามแห่งหนึ่งประสบภาวะวิกฤตหนัก สมาชิกลาออก ไม่มีคนมาทำบุญ ขอคำภาวนา หรือคำแนะนำเหมือนในอดีต สมาชิกที่เหลืออยู่ล้วนสูงอายุและมีความสัมพันธ์เย็นชาต่อกัน เมื่อทราบข่าวว่า มีฤาษีผู้ศักดิ์สิทธิ์มาอาศัยในป่าไม่ไกลจากอาราม อธิการได้รีบรุดไปขอคำแนะนำ เพื่อฟื้นฟูอารามให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้บอกอธิการว่า “สมาชิกคนหนึ่งในอารามคือพระเยซูเจ้า แต่พระองค์ดำเนินชีวิตในแบบที่ไม่มีใครรู้จัก”

หลังจากได้ทราบความจริง อธิการได้รีบกลับอารามเรียกประชุมหมู่คณะและกล่าวกับทุกคนถึงจ้สิ่งที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์บอกให้ทราบ สมาชิกแต่ละคนต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ และพิจารณาดูว่า ใครในพวกเขาเป็นพระเยซูเจ้า ต่างพูดกันว่าคนนี้ไม่น่าใช่ คนโน้นยิ่งไปกันใหญ่ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา อธิการได้เตือนพวกเขาว่า พระเยซูเจ้าอาจซ่อนพระองค์ หรือดำเนินชีวิตในรูปของคนไม่เอาไหน ทำให้ทุกคนแน่ใจว่าต้องเป็นคนใดคนหนึ่งที่มิใช่ตนเอง

นับแต่นั้นเป็นต้นมา สมาชิกในคณะต่างปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพและความสุภาพ เพราะผู้ที่ตนเองกำลังคุยด้วยอาจเป็นพระเยซูเจ้า พวกเขาแสดงออกต่อกันด้วยความรักมากกว่าเดิม ดำเนินชีวิตแบบพี่น้องด้วยความจริงใจและอธิษฐานภาวนาด้วยความร้อนรน ไม่นานสัตบุรุษสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ได้พากันกลับมาใช้บริการ มีผู้สนใจเข้าอาราม และกระแสเรียกเพิ่มมากขึ้น เพราะแต่ละคนตระหนักว่า พระเยซูเจ้าประทับอยู่ในหมู่พวกเขา

1.        พระคริสต์ประทับท่ามกลางเรา

เมื่อพวกโรมันยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ชาวยิวต่างรอคอยผู้นำทางการเมืองและศาสนาที่เข้มแข็ง เพื่อไถ่กู้และปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ การมาของผู้นำที่เป็นทั้งผู้ไถ่กู้และผู้ปลดปล่อย ได้รับการกล่าวถึงล่วงหน้าจากบรรดาประกาศก เมื่อยอห์น บัปติสต์เริ่มงานในถิ่นทุรกันดาร ได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนอย่างรวดเร็ว และทำให้มีผู้ส่งคนไปถามยอห์นว่า “ท่านเป็นใครเล่า” (ยน 1:19)

ยอห์นได้บอกประชาชนว่า ท่านไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นพยานถึงแสงสว่างแท้จริง ยอห์นยืนยันว่าท่านไม่ใช่พระคริสตเจ้า ไม่ใช่เอลียาห์ และไม่ใช่ประกาศก แต่เป็นเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร (ยน 1:20-23) ชี้บอกคนมาหาให้เตรียมต้อนรับองค์พระเจ้า ประกอบพิธีล้างด้วยน้ำเพื่อเตือนให้ระลึกถึงการกลับใจและการให้อภัยบาปของพระเจ้า ในเวลาเดียวกันยอห์นได้เป็นพยานด้วยความสุภาพถ่อมตน สำนึกว่า ตนเองไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของพระองค์

ยอห์นได้ประกาศข่าวสำคัญแก่ชาวยิว ซึ่งกำลังรอคอยผู้ไถ่กู้ด้วยความกระวนกระวายว่า “แต่มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่พวกท่าน เป็นผู้ที่ท่านไม่รู้จัก” (ยน 1:26) เหตุผลที่ทำให้ผู้คนในสมัยพระเยซูเจ้าไม่รู้จักพระองค์ เพราะพวกเขาต่างคิดว่า พระคริสต์เสด็จจากสวรรค์ด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้า และสถาปนาอาณาจักรของพระองค์ด้วยการทำลายศัตรูของชนชาติอิสราเอลให้พินาศ เมื่อพระองค์เสด็จมาบังเกิดอย่างยากจนพวกเขาจึงไม่รู้จักพระองค์

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้และการเป็นพยานของยอห์น บัปติสต์ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการเตรียมฉลองการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

ประการแรก เราต้องเป็นพยานแห่งแสงสว่าง เมื่อถูกถามว่า ท่านเป็นใคร ยอห์นสำนึกว่า ท่านเป็นพยานแห่งแสงสว่าง ผู้เตรียมทางสำหรับองค์พระเจ้า แล้วเราละเป็นใคร เราต้องเป็นพยานแห่งแสงสว่างของพระเจ้าที่เราเชื่อและติดตามเช่นเดียวกัน เราต้องรักกระแสเรียกการเป็นผู้นำสารของพระเยซูเจ้าไปสู่ผู้อื่นในโลก นี่คือ พันธกิจของพระศาสนจักรและหน้าที่ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยาน ด้วยการเป็นตัวอย่างดีแก่กัน

ประการที่สอง เราต้องชี้ไปที่พระเยซูเจ้า ยอห์นไม่พูดถึงตัวท่านเองเลย แต่ชี้ไปที่พระเยซูเจ้า ตระหนักในความต่ำต้อยของตน “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้วยลง” (ยน 3:30) ท่านได้ทำหน้าที่โดยไม่หวังประโยชน์อะไร นอกจากพระเยซูเจ้า เราต้องไม่ชี้ไปที่ตัวเอง หรือสำคัญผิดว่า เราคือความถูกต้องและสำคัญที่สุด แต่ต้องชี้ไปที่พระเยซูเจ้า พระองค์ต้องทรงยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องมือที่ดีของพระองค์

ประการที่สาม เราต้องแสวงหาพระเยซูเจ้า ยอห์นยืนยันว่า พระคริสต์เสด็จมาแล้ว ประทับอยู่ท่ามกลางเราและเป็นผู้ที่เราไม่รู้จัก พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ซ่อนเร้น บ่อยครั้งการประทับอยู่ของพระองค์ อยู่เหนือการรับรู้และความเข้าใจของเรา เราต้องจำพระองค์ให้ได้ เป็นต้นในคนต่ำต้อยด้อยค่าและต้องการความช่วยเหลือ นั่นคือ พระคริสต์ที่ประทับท่ามกลางเรา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าวันนี้บอกเราชัดเจนว่า พระเยซูเจ้าได้เสด็จมาในโลกแล้ว ทรงต้องการให้เราเป็นประจักษ์พยานถึงการประทับอยู่ของพระองค์กับทุกคนในโลก ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำของเรา เพื่อว่าคนอื่นทั้งหลายจะได้ทราบถึงข่าวน่ายินดีแห่งการเสด็จมาของพระองค์ โดยเริ่มจากบุคคลที่อยู่รอบข้างเราก่อน เช่น ที่บ้านหรือที่ทำงาน ก่อนขยายไปสู่ผู้อื่นที่เราพบ

พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างแท้จริงแห่งชีวิตคริสตชน เราต้องมองเห็นพระองค์ในเพื่อนพี่น้องที่ต่ำต้อยและต้องการความช่วยเหลือ ทรงเป็นผู้ทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่าและความหมาย ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างถึงพระองค์ในชีวิตประจำวัน บนพื้นฐานแห่งความรักต่อกัน การรับใช้ซึ่งกันและกัน และการให้อภัยกันด้วยใจกว้าง

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

https://dondaniele.blogspot.com/

ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 55-58.
ภาพ : ถ้ำพระกุมาร, วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร; 2020-12-12

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น