จงเป็นแสงสว่าง
วันจันทร์
สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา
|
อสร 1:1-6
ลก 8:16-19
|
คำอุปมาเรื่องตะเกียงในพระวรสารนักบุญลูกาวันนี้
อ้างถึงตะเกียงที่จุดบริเวณประตูทางเข้าบ้านในยุคเฮลเลนิสติก (Hellenistic 323 BC -31
BC) เพื่อส่องสว่างแก่คนที่เข้าไปข้างในบ้าน
ต่อมาได้มีการประยุกต์เรื่องตะเกียงส่องสว่างแก่คนต่างศาสนาที่เข้ามาในพระอาณาจักร
ชาวยิวต้องไม่เก็บรักษาตะเกียงของตนไว้ หรือปิดบังแสงสว่างแห่งความเชื่อไว้สำหรับตนเองเท่านั้น
แต่ต้องตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อให้คนอื่นได้เห็นและรับรู้
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักรได้รับการส่งมอบแก่บรรดาศิษย์ เพื่อเปิดเผยแก่มนุษย์ในโลก บรรดาอัครสาวกได้ดำเนินชีวิตเป็นตะเกียง
ข่าวดีแห่งพระวรสารต้องได้รับการเผยแพร่ดังแสงสว่าง ซึ่งส่องสว่างไปทุกซอกทุกมุมโดยไม่ปิดบัง
แสงสว่างนี้ได้รับผ่านมาจากพระเยซูเจ้าดุจเดียวกับแสงอาทิตย์ได้รับพลังจากดวงอาทิตย์
ดังนั้น ข่าวดีของพระองค์ต้องเป็นดังคำอุปมาที่เรียกร้องความพยายามเพื่อความเข้าใจ
และทำให้เกิดความกระจ่างโดยไม่ปิดบังซ่อนเร้น
พระเยซูเจ้าตรัสกับเราชัดเจนว่า “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอาถังครอบไว้หรือวางไว้ใต้เตียง
แต่เขาย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อคนที่เข้ามาจะเห็นแสงสว่างได้” (ลก 8:16) ในอดีตตะเกียงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และจำเป็นมากเพื่อส่องสว่าง
เราต้องทำตัวเป็นประโยชน์ต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ด้วยการเป็นตะเกียงที่ส่องสว่างสำหรับตัวเองเป็นลำดับแรก
ก่อนช่วยผู้อื่นให้ได้รู้จัก รักและรับใช้พระองค์ในโลก
ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นแสงสว่างแห่งความเชื่อ
เป็นดังตะเกียงที่ส่องสว่างแก่ทุกคน ชีวิตคริสตชนของเราต้องส่องสว่างให้ทุกคนได้เห็นถึงความรัก
ความเมตตากรุณา และการให้อภัยของพระเจ้า ผ่านทางคำพูดและกิจการดีต่างๆ ที่เรากระทำในชีวิตประจำวัน เราแต่ละคนเข้าใจดีว่ากิจการดังกว่าคำพูด
คำตักเตือนหรือเทศน์สอนจะไม่มีประโยชน์ใดๆ
หากเรามิได้ดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานให้คนอื่นได้เห็น
“ข้าแต่พระเจ้า
ขอโปรดให้ชีวิตของข้าพระองค์เป็นพยานถึงข่าวดีของพระองค์ ช่วยข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตตามพระวรสารเพื่อให้ทุกคนได้เห็น”
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล
ป่าพนาวัลย์
24 กันยายน 2017
ที่มาของรูป: http://bsnscb.com/lantern-wallpapers/27400995.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น