วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

ข้าพเจ้าไม่สมควร

ข้าพเจ้าไม่สมควร
วันจันทร์
สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา
1ทธ 2:1-8
ลก 7:1-10
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้รับใช้ของนายร้อย และทรงยกย่องความเชื่อที่ลึกซึ้งของเขา นับเป็นเรื่องแปลกมากที่นายร้อยชาวโรมันคนหนึ่งซึ่งชาวยิวมองว่าเป็นผู้บุกรุก ผู้กดขี่ และคนต่างศาสนาที่ไม่เข้าใจธรรมประเพณีและวิธีปฏิบัติทางศาสนา แต่ได้กลายเป็นที่รักของชาวยิว ถึงขนาดผู้อาวุโสชาวยิวยอมปฏิบัติตามคำขอของเขา และอ้อนวอนรบเร้าพระเยซูเจ้าให้ช่วยผู้รับใช้ที่ป่วยหนักของเขา
การที่นายร้อยรักผู้รับใช้ที่ป่วยหนัก แสดงถึงการไม่ถือว่าตัวเองเป็นนายอยู่เหนือคนอื่น แต่มองเห็นคุณค่าของคนที่เท่าเสมอกัน เหตุผลที่ผู้อาวุโสบอกพระเยซูเจ้า “นายร้อยผู้นี้สมควรที่ท่านจะช่วยเหลือ เพราะเขารักชนชาติของเรา และได้สร้างศาลาธรรมให้เรา” (ลก 7:4-5) บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นคนดี มีหัวใจที่เปิดกว้างไปสู่ผู้อื่น ได้กระทำสิ่งดีงามเพื่อชาวยิว แม้กระทั่งการสร้างศาลาธรรม  เราได้กระทำสิ่งดีงามและมองเห็นคนเท่าเสมอกันไหม
คำพูดที่นายร้อยส่งเพื่อนบางคนไปทูนพระเยซูเจ้า เปิดเผยให้เราได้ทราบถึงอุปนิสัยและชีวิตฝ่ายจิตของเขาเป็นอย่างดี “พระองค์เจ้าข้า อย่าลำบากไปเลย ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจเอื้อมที่จะออกมาพบกับพระองค์ แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียว ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค” (ลก 7:6-7) เขาสำนึกในความไม่เหมาะสมของตน
นักบุญลูกาเน้นเรื่องนี้เพื่อสะท้อนกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดสมัยนั้น ที่ห้ามมิให้เข้าไปในบ้านของคนต่างศาสนาเพื่อจะได้ไม่เป็นมลทิน นักบุญเปโตรเคยถูกตำหนิเรื่องนี้ คนต่างศาสนารู้ดีเรื่องกำแพงประเพณีที่กั้นระหว่างชาวยิวกับคนต่างศาสนา ลูกาต้องการบอกว่า นายร้อยไม่ไปทูนขอพระเยซูเจ้าด้วยตนเองเพราะเหตุนี้ เพื่อพระองค์จะได้ไม่เป็นมลทิน อันแสดงให้เห็นจิตใจที่ละเอียดอ่อนและสุภาพถ่อมตนของเขา
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องความเชื่อที่ลึกซึ้งของนายร้อย “เราบอกท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราแอลเลย” (ลก 7:9) และพระศาสนจักรได้นำคำพูดของนายร้อยมาใช้ในพิธีกรรม เพื่อให้เราได้ตระหนักในความไม่เหมาะสมของตนก่อนรับพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้า โปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์”
ความเชื่อแท้ได้นำทุกคนให้มารวมกันโดยไม่แบ่งแยก ไม่ถือเขาถือเรา แต่จำนนต่อความรักของพระเจ้า วางใจพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม เปิดตาและหูของตนต่อความรักของพระองค์ และยอมรับปรีชาญาณ พระญาณสอดส่อง และพระประสงค์ของพระองค์ในทุกสิ่ง เราได้ตระหนักไหมว่าเราไม่สมควรและเป็นคนบาป หากอยู่ในสถานะบาปเราจะไม่ไปรับพระองค์ในศีลมหาสนิท จนกว่าจะได้คืนดีกับพระองค์และเพื่อนพี่น้องทางศีลอภัยบาป
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
17 กันยายน 2017
ภาพประกอบ: คุณพ่อคายน์ แสนพลอ่อน, นักเรียนเตรียมรับศีลมหาสนิทครั้งแรก, โรงเรียนเซนต์ยอแซฟท่าแร่ สกลนคร; c 1975

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น