วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สิ่งที่เป็นมลทินและผู้นำทางตาบอด

สิ่งที่เป็นมลทินและผู้นำทางตาบอด

อังคาร

สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา

ยรม 30:1-2, 12-15, 18-22

มธ 15:1-2, 10-14

ศาสนายิวมี บทบัญญัติจารึกไว้ (Written Law) ได้แก่ หนังสือห้าเล่มแรก (Torah) ที่เรียกว่า บทบัญญัติของโมเสส กับ บทบัญญัติเล่าสืบต่อกันมา (Oral Law) ได้แก่ สิ่งที่พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อขยายความบทบัญญัติของโมเสส โดยมีความมุ่งหมายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของศาสนายิวและธรรมบัญญัติของพระเจ้า ในสมัยของพระเยซูเจ้าบทบัญญัตินี้เป็นที่รับรู้และเรียกว่า ขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ

พระวรสารตอนแรก พระยซูเจ้าทรงประณามชาวฟาริสีเพราะธรรมเนียมที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ถือตาม เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน แต่สิ่งที่ออกมาจากปากทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ตอนที่สอง พระเยซูเจ้าทรงอุปมาชาวฟาริสีเหมือนผู้นำทางตาบอด “ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองคนก็จะตกลงไปในคู” (มธ 15:14) คนตาบอดที่สุดคือคนตาดี แต่มองไม่เห็นความเดือดร้อนของผู้อื่น

พระเยซูเจ้าทรงสอนชาวยิวว่าสิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ไม่ใช่สิ่งที่มาจากภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจต่างหาก สิ่งต่าง ๆ ในตัวมันเองไม่ใช่สิ่งที่เป็นมลทินหรือไม่เป็นมลทิน เพราะทุกอย่างที่พระเจ้าทรงสร้างมาล้วนแต่ดีทั้งนั้น แต่เป็นมนุษย์ทำให้เป็นมลทิน การกระทำของแต่ละคนบ่งบอกเจตนาและความต้องการของเขา บทบัญญัติต่าง ๆ ต้องนำมนุษย์ไปหาพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง นี่คือแก่นแท้และหัวใจของบทบัญญัติ

พระเยซูเจ้าทรงพยายามให้ชาวยิวได้เข้าใจสิ่งที่บริสุทธิ์และสิ่งที่ป็นมลทิน ซึ่งชาวยิวถือว่ามาจากสิ่งภายนอก อาทิ การแตะต้องศพ การประพฤติผิดทางเพศ และการกินอาหารโดยไม่ล้างมือ ดังนั้น เพื่อไม่เป็นมลทินชาวยิวต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การเป็นมลทินอย่างเคร่งครัด  พระเยซูเจ้าทรงปฏิรูปกฎเกณฑ์นี้ให้สมบูรณ์ ทรงแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่กินเข้าไปไม่ทำให้มนุษย์มีมลทิน “แต่สิ่งที่ออกมาจากปากนั่นแหละทำให้มนุษย์มีมลทิน” (มธ 15:11)

ชาวยิวมีกฎเกณฑ์มากมายเกี่ยวกับการชำระให้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการขยายความบทบัญญัติของพระเจ้าให้กว้างออกไป พระเยซูเจ้าทรงทำให้กฎเกณฑ์นี้สมบูรณ์ขึ้น การสัมผัสสิ่งต่าง ๆ หรือการกินอาหารไม่ได้ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ในความเป็นจริง บาปซึ่งเป็นความชั่วและทำให้มนุษย์เป็นมลทินมาจากเจตจำนงซึ่งอยู่ภายในใจมิใช่สิ่งภายนอก ดังนั้น สิ่งบริสุทธิ์หรือเป็นมลทินอยู่ในขอบเขตแห่งใจมนุษย์

“หากคนหนึ่งมีความเกลียดชังในใจ แม้ได้รับพรพระสันตะปาปานับพันครั้งไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้ ตรงข้ามคนหนึ่งเต็มเปี่ยมด้วยความรักในพระเยซูเจ้า คำสาปแช่งนับล้านครั้งทำอันตรายเขาไม่ได้” (Jame Mckarns) ศิษย์พระคริสต์ต้องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสมสำหรับเป็นที่ประทับของพระเจ้า ดำเนินชีวิตเป็นตัวอย่างดีสำหรับผู้อื่น ประการสำคัญ ต้องไม่เป็นผู้นำทางตาบอดที่นำคนอื่นให้ตกในบาป

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร

3 สิงหาคม 2020

ท่ี่มา: https://dailymasses.blogspot.com/2016/09/can-blind-man-lead-blind-man-homily-for.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น