เครื่องหมายแห่งรัก
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
ปี A
|
กจ 8:5-8,
14-17
1 ปต 3:15-18
ยน 14:15-21
|
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งจิมมี
คาร์เตอร์กำลังรณรงค์เลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่งคาร์เตอร์ได้เข้าไปนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์แบ๊ปติสต์ในเมืองเพลนส์
รัฐจอร์เจีย เมื่อการนมัสการพระเจ้าสิ้นสุดลงคาร์เตอร์ได้ออกจากโบสถ์ มีกลุ่มผู้สื่อข่าวมากมายหลายสำนักกำลังรอสัมภาษณ์
ต่างคนต่างเตรียมคำถามเด็ดเพื่อถามผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ทันใดนั้น มีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งตระโกนถามคาร์เตอร์ว่า
“คุณคาร์เตอร์ หากท่านได้เป็นประธานาธิบดี
แล้วอยู่ในสถานการณ์ที่กฎหมายของรัฐเป็นที่เข้าใจชัดว่า ขัดแย้งกับพระประสงค์ของพระเจ้า
ท่านจะเลือกกฎหมายของรัฐ หรือบทบัญญัติของพระเจ้า” คาร์เตอร์หยุดครู่หนึ่ง
เหมือนพระจิตเจ้าดลใจและตอบว่า “ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า”
พระวรสารวันนี้
เป็นส่วนหนึ่งของพระดำรัสหลังการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในวาระสุดท้ายแห่งชีวิตที่พระเยซูเจ้าทรงอยู่กับบรรดาอัครสาวก พระองค์จะไม่อยู่กับพวกเขาอีกต่อไป
แต่ได้เตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับวันที่พระองค์ต้องจากไป ทรงท้าทายพวกเขาให้ปฏิบัติตามพระบัญญัติ
และพระองค์จะอยู่กับพวกเขาตลอดไปในองค์พระจิตเจ้า
1.
เครื่องหมายแห่งรัก
พระเยซูเจ้าทรงเริ่มต้นพระวรสารวันนี้ ด้วยการท้าทายบรรดาอัครสาวกและผู้ติดตามพระองค์
“ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา” พวกศิษย์ต่างแน่ใจว่า พวกเขารักพระองค์ แต่สิ่งที่พระองค์หมายถึงคือการยอมรับคำสั่งของพระองค์ต่อจากนั้น
“ท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา” (ยน 14: 15) เครื่องหมายบ่งบอกว่า เรารักพระเยซูเจ้าคือการดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระเจ้า
พระองค์กำลังจะจากพวกเขาไป แต่ได้ทรงสัญญาจะประทานผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่ง
พระเยซูเจ้าคือผู้ช่วยเหลือองค์แรกที่ทรงสอน นำทาง และปกป้องพวกเรา พระองค์ได้แสดงให้เราเข้าใจว่า พระเจ้าทรงรักเรามากเพียงใด
“พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์” (ยน
3:16) และทรงขอให้เรารักซึ่งกันและกัน
สิ่งนี้คือความจริงที่อยู่เบื้องหลังพระบัญญัติของพระองค์ “นี่คือบทบัญญัติของเรา
ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน 15:12)
พระจิตเจ้าคือผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสัญญาจะประทานให้
เพื่อเป็นหลักประกันว่า พระบัญญัติแห่งความรักจะได้รับการปฏิบัติจากบรรดาศิษย์ของพระองค์
เราต้องตอบสนองด้วยการรักซึ่งกันและกันเหมือนพระองค์ทรงรักเรา นำทาง ให้คำปรึกษา
ปกป้องคุ้มครอง และทำให้เราเข้มแข็งด้วยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าซึ่งอยู่กับเราตลอดไป
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
ความนอบน้อมเชื่อฟัง
พระเยซูเจ้าได้แสดงความรักของพระเจ้าให้เราได้เห็นประจักษ์ พระองค์ทรงนอบน้อมเชื่อฟังจนถึงที่สุดด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) ความรักแท้ที่เรามีต่อพระเจ้า ต้องแสดงออกให้เห็นในความนอบน้อมเชื่อฟังเช่นเดียวกัน
ด้วยการมองเห็นพระญาณเอื้ออาทรและความรักของพระองค์ในเหตุการณ์ต่างๆ
ไม่ตีโพยตีพาย หรือด่าว่าพระเจ้า
ประการที่สอง ความรักต่อกัน เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่า “ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน”
(ยน 15: 12) พระองค์ต้องการให้เรามองเห็นพระองค์ในผู้อื่น
และรักพวกเขาเหมือนพระองค์ทรงรักเรา ความรักที่เรามีต่อเพื่อนมนุษย์เป็นการพิสูจน์ว่า เรารักพระองค์และเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
อีกทั้งยังเผยให้คนอื่นได้เห็นถึงความรักของพระเจ้า
ประการที่สาม การให้อภัยกัน พระเยซูเจ้าทรงสอนเรา “จงรักศัตรู
จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน” (มธ 5:44) ทรงมอบแบบอย่างนี้แก่เราในการให้อภัยผู้ประหารพระองค์
เราถูกเรียกร้องให้ทำเช่นเดียวกัน เมื่อใครคนหนึ่งไม่ยอมให้อภัย เท่ากับว่า เขากำลังทำร้ายตัวเองมากกว่าทำร้ายคู่อริของเขา
ดาบที่เราใช้ทำร้ายศัตรูได้แทงทะลุร่างของเราก่อน ดังสุภาษิตจีนที่ว่า “ใครคิดแก้แค้น
เขากำลังขุดหลุมฝังศพคู่อริของเขาและตัวเขาเอง”
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นความรักของพระบิดาเจ้าในภาคปฏิบัติ
ด้วยความนอบน้อมเชื่อฟังจนถึงที่สุดคือการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน อีกทั้ง ทรงวอนขอพระบิดาเจ้าได้ยกโทษให้ทุกคน
พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราดำเนินชีวิตในความรักนี้เช่นเดียวกัน
ด้วยการปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ ซึ่งสรุปได้ใน ความรักต่อกัน การให้อภัยความผิดของกันและกัน
และการปฏิบัติต่อกันด้วยความยุติธรรม
ใครที่รักพระเยซูเจ้าจะเป็นที่รักของพระบิดาเจ้าด้วย
พระเยซูเจ้าจะทรงรักเขาและประทับอยู่กับเขาในองค์พระจิตเจ้า ใครที่ดำรงชีวิตในความรัก
การให้อภัย และความยุติธรรมในชีวิตประจำวัน
ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขารักพระเยซูเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องดำรงชีวิตในความรัก
การให้อภัย และความยุติธรรม โดยเริ่มจากครอบครัวของตน
ก่อนขยายออกไปสู่ผู้อื่นในสังคมและหมู่คณะ เป็นต้น
คนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
ขวัญ
ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 116-119.
ภาพ : ปันน้ำใจสำหรับผู้ยากไร้, ชุมชนวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้าโนนค้อ, สกลนคร; 2020-05-03
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น