การกลับคืนชีพและชีวิต
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
ปี A
|
อสค
37:12-14
รม 8:8-11
ยน 11:3-7,
17, 20-27, 33ข-45
|
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่าอดีตประธานาธิบดีจอร์ช บุช
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ได้เป็นตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกา
เข้าร่วมพิธีฝังศพของประธานาธิบดีเลโอนิค เบรซเนฟ อดีตผู้นำของสหภาพโซเวียต
บุชรู้สึกทึ่งละคนแปลกใจกับการประท้วงเงียบของอดีตสุภาพสตรีหมายเลยหนึ่ง
ต่อรัฐบาลคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต
เธอยืนสงบนิ่งข้างโลงศพของสามีจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ทหารองครักษ์ปิดฝาโลง
ภริยาม่ายของอดีตประธานาธิบดีเบรซเนฟ
ได้แสดงความกล้าหาญและความหวังอันยิ่งใหญ่
ด้วยการทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าอกของสามี อดีตผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์
ที่ไม่เชื่อพระเจ้าและมองศาสนาเป็นยาเสพติด
เธอได้แสดงภาษาสัญลักษณ์บอกทุกคนว่า สิ่งที่สามีเชื่อและกระทำมาตลอดชีวิตไม่ถูกต้อง
เธอหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า ยังมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นชีวิตที่ดีที่สุดในองค์พระเยซูเจ้าผู้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
พระองค์สามารถให้ความเมตตาและช่วยสามีของเธอในวันพิพากษาได้
พระวรสารวันนี้บอกเราว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นการกลับคืนชีพและชีวิต
ใครเชื่อพระองค์ไม่มีวันตาย แต่มีชีวิตนิรันดร การปลุกลาซารัสให้ฟื้นคืนชีพเป็นสัญลักษณ์ว่า พระองค์ทรงเป็นการกลับคืนชีพและชีวิต
เพื่อนำเราให้เชื่อการกลับคืนชีพและมีชีวิตใหม่ในพระเยซูเจ้าผ่านทางพระจิตเจ้า
ศีลล้างบาปได้นำเราสู่ชีวิตในองค์พระจิต
ทำให้เราเข้มแข็งและร่วมส่วนในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
1.
การกลับคืนชีพและชีวิต
เรื่องการปลุกลาซารัสให้กลับคืนชีพ แสดงให้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าผ่านทางพระบุตรของพระองค์
ผู้ทรงเป็นการกลับคืนชีพและชีวิต อีกทั้ง ได้แสดงให้เห็นความรักที่พระเยซูเจ้าทรงมีต่อลาซารัสและมาร์ธากับมารีย์น้องสาว
พระเยซูเจ้าได้ใช้โอกาสนี้ทำให้ความเชื่อของบรรดาศิษย์เข้มแข็ง
เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมเผชิญเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ในอนาคตอันใกล้
สำหรับยอห์นแล้วนี่คือเครื่องหมายสำคัญที่สุดที่พิสูจน์ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเมสสิยาห์
พระผู้ไถ่ และบุตรพระเจ้า ผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงหมู่บ้านเบธานี ลาซารัสตายได้ 4 วันแล้ว มาร์ธาได้ออกไปต้อนรับ
ในการสนทนากับมาร์ธานี้เอง พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยความจริงให้เราทราบว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต”
(ยน 11:25) ซึ่งเป็นหัวใจของพระวรสารวันนี้
แต่มาร์ธาเข้าใจอีกแบบหนึ่งและพระองค์ได้ขยายความว่า “ใครเชื่อในเรา
แม้ตายไปแล้วก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิตและเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย”
(ยน 11:25-26) พระเยซูเจ้าไม่เพียงยืนยันถึงชีวิตหลังความตาย
แต่ยังตรัสถึงชีวิตที่พระองค์จะทรงประทานให้ผู้เลียนแบบและเดินในหนทางของพระองค์
ที่เบธานีพระเยซูเจ้าทรงทำให้ลาซารัสกลับมีชีวิตอีกครั้ง
เป็นภาพล่วงหน้าถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์
ผู้ให้ชีวิตแท้จริงแก่โลกที่กำลังมาถึงในวันปัสกา
การกลับคืนชีพของลาซารัสเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตใหม่สำหรับเราทุกคน
เมื่อเรายอมมอบตนต่อพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่ ผ่านทางศีลล้างบาปเราได้ตายต่อบาปและได้รับชีวิตใหม่แห่งพระหรรษทานจากพระจิตเจ้า
และร่วมส่วนในการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้
ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก จงยกแผ่นหินออก,
จงออกมาเถิด
มีที่มืดในชีวิตที่เราล่ามตัวเองไว้ด้วยโซ่ตรวนของความอิจฉาริษยา การนินทาว่าร้าย
อคติ ความเกลียดชัง และฝังตัวเราไว้ในหลุมศพแห่งความสิ้นหวัง ความเห็นแก่ตัว
ความวิตกทุกข์ร้อนและความรู้สึกผิดต่าง ๆ
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องให้เราปลดโซ่ตรวนและออกมาจากหลุมศพที่เราสร้างขึ้น
ให้พระองค์มาเยี่ยม นำแสงสว่างแห่งพระจิตเจ้าและปลดปล่อยตัวเราให้เป็นอิสระ
มีชีวิตใหม่ในพระองค์ทางศีลอภัยบาป
ประการที่สอง เราต้องพร้อมเผชิญความตายทุกเวลา
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความตาย เราเห็นการฆ่าผู้อื่นด้วยการฆาตกรรม ทำแท้ง ประหารชีวิต สงคราม และการก่อการร้าย
บ่อยครั้ง เราฆ่าตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย ยาเสพติด ทำงานหนัก เครียด และนิสัยไม่ดีในการกินดื่ม
ทุกคนทราบดีว่า วันหนึ่งเราต้องตายนี่คือสัจธรรมที่ไม่มีใครหลีกพ้น
เราต้องเตรียมพร้อมพบพระเจ้าทุกเมื่อ ด้วยมโนธรรมบริสุทธิ์
ประการที่สาม
เราต้องหลีกหนีบาป
การปลุกลาซารัสจากความตายให้มีชีวิตเป็นการชี้บอกของพระเยซูเจ้าสำหรับเราในปัจจุบัน
พระองค์ทรงเรียกเราให้หลีกหนีการกระทำทุกอย่างที่นำไปสู่ความตายคือ “บาป”
ชีวิตที่ปราศจากพระคริสตเจ้าคือความตาย ชีวิตนิรันดรมิใช่เหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้า
แต่เกิดขึ้นที่นี่และเวลานี้ การดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์คือ
การลิ้มรสชีวิตนิรันดรในพระคริสตเจ้าตั้งแต่ในโลกนี้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าวันนี้บอกเราให้ตระหนักว่า ประการแรก
อาศัยการเจริญชีวิตความเชื่อในพระคริสตเจ้า ร่างกายของเราได้รับการยกขึ้นในวันกลับคืนชีพในวาระสุดท้าย
ประการที่สอง เราถูกเรียกให้เป็นเครื่องหมายของการกลับคืนชีพจากบาป
สู่สถานะพระหรรษทานผ่านทางศีลแห่งการคืนดี
ซึ่งเป็นสิ่งเตือนเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้มีความเชื่อ
ในความหวังว่า ผู้เชื่อพระคริสตเจ้าจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระบุตรและพระเจ้า
ที่ทรงเป็นนายเหนือชีวิตและความตาย สามารถทำให้คนตายกลับมีชีวิตได้ นอกนั้น
ยังทรงแสดงให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วการกลับคืนชีพและชีวิตเป็นเช่นไร
ทรงต้องการให้เรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแบบส่วนตัวกับพระองค์ ผู้เป็นการกลับคืนชีพและชีวิต
ศิษย์พระคริสต์ต้องเจริญชีวิตในความรักต่อพระเจ้า
เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในความรักต่อเพื่อนมนุษย์ในชีวิตประจำวัน
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561), หน้า 111-114.
ภาพ : พิธีฝังศพคุณพ่อยอห์น บันลือ เกียรติธาตรี, สุสานอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่, สกลนคร; 2020-3-25
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น