วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

กว่าจะมาเป็นหอระฆัง “นันสีทอง”


กว่าจะมาเป็นหอระฆัง “นันสีทอง”

วัดพระนามเยซู โพนสวาง ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เป็นวัดหนึ่งในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ที่อยู่ในความดูแลของวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานคู่กับวัดนาบัว เนื่องจากคริสตชนโพนสวางคือชาวนาบัว ที่มาตั้งบ้านเรือนทำเลือกสวนไร่ในในบริเวณดังกล่าวเมื่อร่วม 80 ปีก่อนสมัยคุณพ่อยอห์นบัปติสต์ แท่ง ยวงบัตรี





ต่อมาสมัยคุณพ่อยอแซฟ อินตา นันสีทอง ได้สร้างวัดหลังแรกด้วยไม้ ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 20 เมตร ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนวัดหลังปัจจุบันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) สมัยคุณพ่อมีคาแอล วีรพงษ์ มังกาย สำหรับเป็นศูนย์กลางทางความเชื่อของคริสชนโพนสวาง ประมาณ 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจนและอยู่ท่ามกลางพี่น้องชาวพุทธ แต่วัดหลังนี้ยังไม่มีหอระฆังสำหรับตีบอกเวลาสวดสรรเสริญพระเจ้าและมาวัดเหมือนเช่นวัดอื่น





ดังนั้น สภาอภิบาลวัดและพี่น้องคริสตชนโพนสวาง จึงได้ประชุมกันและมีมติก่อสร้างหอระฆังไม้ ขนาดฐานกว้าง 5 เมตร สูง 6 เมตร เพื่อรองรับหอระฆังขนาด กว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร และสูง 6 เมตร (รวมจากฐานถึงยอด 12 เมตร) และเริ่มขอบริจาคไม้เสาจากพี่น้องชาวโพนสวาง จากนั้นได้เสนอโครงการต่อคณะกรรมการบริหารที่มาตรวจเยี่ยมวัดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)





การก่อสร้างหอระฆังไม้เริ่มขึ้นเมื่อมีการตั้งเสาเอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร และเสาบริวารขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50-60 เซนติเมตรอีกสี่ต้น เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อการก่อสร้างศาลา “ศานติคาม” ที่สุสานแล้วเสร็จ เนื่องจากใช้ช่างชุดเดียวกัน นำโดย ช่างเกิ้น ช่างเถิง ช่างวีและช่างเปิง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นชาวนา ดังนั้นเมื่อถึงฤดูทำนาจึงต้องหยุดการก่อสร้างทุกอย่าง เพื่อทำการปักดำหรือเก็บเกี่ยว





การก่อสร้างเริ่มขึ้นอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) จากนั้นพี่น้องชาวนาบัวได้มาช่วยกันปรับพื้นที่และประดับตกแต่งหอระฆังให้สวยงาม กระทั่งมีพิธีเฉลิมฉลองหอระฆังใหม่และเตรียมฉลองวัด ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2556) ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่และวันสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีของพระเป็นเจ้า






ก่อนหน้าจะเริ่มพิธีบูชาขอบพระคุณเตรียมจิตใจ โดยคุณพ่อเทพณรงค์ พุดสา ได้เกิดสิ่งที่น่าประหลาดใจขึ้น กล่าวคือระฆังชั่วคราวที่นำไปแขวนบนหอระฆังใหม่ได้ดังขึ้น 1 ที ทุกคนเข้าใจว่าคุณพ่อเจ้าอาวาสเป็นคนตีระฆัง ส่วนคุณพ่อเจ้าอาวาสเข้าใจว่าเด็กไปดึงสายตีระฆังเล่น จึงเดินไปดูได้พบกับนายรักทรง ยาสาไชยและนายพรหมมา พรหมเทพ ยืนคุยกันอยู่ข้างหอระฆัง กำลังพูดกันถึงเสียงระฆังที่ได้ยิน นายรักทรง ยาสาไชย ยืนยันว่าได้มองดูระฆังและเห็นลูกระฆังตีอย่างชัดเจน แต่ไม่เห็นมีใครอยู่ในบริเวณดังกล่าว ส่วนบรรดาแม่ครัวที่อยู่บริเวณศาลา มองมาที่หอระฆังเห็นคนใส่ชุดขาวอยู่ข้างบน ต่างเข้าใจว่าคุณพ่อเจ้าอาวาสเป็นคนตี





คุณพ่อเจ้าอาวาสได้บอกพี่น้องชาวโพนสวางว่า นี่คือเครื่องหมายแห่งพระพรของพระเจ้าที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วรับรู้และร่วมยินดีกับพวกเราที่ได้หอระฆังใหม่ คนที่ใส่ชุดขาวที่พวกเราบางคนเห็นคงจะเป็นคุณพ่ออินตา นันสีทอง ผู้บุกเบิกและก่อสร้างวัดหลังแรกในช่วงปี ค.ศ. 1957-1966 (พ.ศ. 2500-2509) ดังนั้น หอระฆังไม้หลังนี้จึงได้ชื่อว่า หอระฆัง “นันสีทอง” เพื่อเป็นเกียรติและน้อมรำลึกพระคุณของคุณพ่ออินตา นันสีทอง ผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงสำหรับวัดพระนามเยซู โพนสวางและคริสตชนชาวโพนสวางทุกคน





วันรุ่งขึ้น วันพุธที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2556) คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี อุปสังฆราชได้มาเป็นประธานเสกกองข้าว เสกกางเขนใหญ่ (ที่จะนำไปประดิษฐานที่ศาลา “ศานติคาม” ที่สุสาน) และเสก-เปิดหอระฆัง “นันสีทอง” พร้อมกับคุณพ่อพรทวี โสรินทร์ หัวหน้าเขตตะวันตก คุณพ่อสุรพงศ์ นาแว่น ผู้อำนวยการฝ่ายปกครองวัด คณะสงฆ์และพี่น้องคริสตชนโพนสวาง นาบัว ดอนทอยและจากที่ต่างๆ ที่มาร่วมความชื่นชมยินดีและเป็นสักขีพยานในการเสกหอระฆังใหม่ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก





ในพิธีบูชาขอบพระคุณ คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี ได้กล่าวชื่นชมในความสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องชาวโพนสวางในการร่วมใจกันสร้างหอระฆังไม้จนสำเร็จ ประการสำคัญ นามชื่อวัดของเราคือ “วัดพระนามเยซู” มีเพียงแห่งเดียวในสังฆมณฑลและมีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ถือเป็นชื่อที่มีความหมายและคุณค่ายิ่งใหญ่เพราะ “พระนามเยซู” เป็นชื่อที่นำความรอดพ้นและความรักมาสู่เราทุกคน เป็นชื่อที่เราต้องออกพระนามและประกาศทุกวันในชีวิตของเรา เพื่อให้พระองค์อวยพระพรเราและทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักผ่านทางชีวิตของเรา





คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com

วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
4 มกราคม 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น