วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

75 ปีแม่กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์


75 ปีแม่กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์


วันที่ 1 มกราคม ของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ที่ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลองการเริ่มต้นศักราชใหม่อย่างใจจดใจจ่อ บ้างอดตาหลับขับตานอนเพื่อนับถอยหลังการสิ้นสุดและเริ่มต้นวินาทีแรกของปีกันอย่างชื่นมื่น สำหรับลูกๆ อีก 6 คน (ที่ยังเหลืออยู่) วันที่ 1 มกราคมของทุกปีมีความหมายพิเศษมากกว่านั้น เพราะเป็นวันครบรอบวันเกิดของแม่กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ ซึ่งลูกทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะเดินทางกลับบ้านเพื่อกราบแม่ หากไม่สามารถมาได้ก็จะโทรศัพท์หรือภาวนาให้แม่เป็นพิเศษ




วันที่ 1 มกราคม ปีนี้แม่มีอายุครบ 75 ปี แม้ร่ายกายจะร่วงโรยตามวัยและสังขาร แต่จิตใจของแม่ยังเข้มแข็งและกระฉับกระเฉง ยังคงปั่นจักรยานไปวัดร่วมพิธีมิสซาทุกเช้า ก่อนจะกลับมาทำงานเล็กๆ น้อยๆ อาทิ ให้อาหารเป็ดไก่ที่เลี้ยงเอาไว้ (เป็นอาหารลูกหลาน), ร้อยสายประคำตามจำนวนที่ลูกสาวคนรองต้องการ หรือไม่ก็สานสวิง (ด้งเขิง) ตามความต้องการของผู้สั่ง ตามประสาคนที่อยู่นิ่งเฉยไม่เป็น จนบางทีลูกชายที่อยู่ด้วยไม่ยอมไปตัดไม้ไผ่มาให้ เพราะอยากให้แม่ได้พักผ่อนบ้าง




ยิ่งช่วงนี้มะขามหวานที่สวนกำลังสุก แม่จะมีความสุขในการเก็บมะขามหวานขาย หรือเป็นของฝากลูกหลานหรือคนรู้จักที่แวะเวียนมาเยี่ยม เมื่อก่อนแม่จะเก็บเองทั้งหมด แต่ตอนนี้ 75 ปีแล้วปีนป่ายต้นมะขามเหมือนเมื่อก่อนไม่ไหว แม่จะไหว้วานหลานๆ ให้ช่วยเก็บ จากนั้นก็จะนำมาตัดแต่งและบรรจุถุง มะขามหวานของแม่เป็นมะขามหวานพันธุ์สีทอง รสชาดหวานอหร่อยเป็นที่ต้องการของทุกคนในหมู่บ้าน แถมราคาย่อมเยากิโลกรัมละ 50 บาท กี่ปีก็ขายราคาเดิมนี้ตลอด ไม่เคยขึ้นราคา ทำให้มะขามหวานของแม่ไม่พอกับความต้องการ เก็บมาเท่าไหร่ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน





แม่เป็นสาวภูไทขนานแท้และดั้งเดิม ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมประเพณีภูไทที่ได้รับถ่ายทอดจากยาย อาทิ การปั่นด้าย ทอผ้า โดยเฉพาะผ้ามัดมี่และผ้าตีนจกเอกลักษณ์ของชาวภูไท เมื่อก่อนตอนกลางวันแม่ต้องทำงานหนักในการทำนาหรือทำสวนช่วยพ่อสร้างฐานะครอบครัว แต่ตอนกลางคืนแม่ยังมาปั่นด้าย ทอผ้า เพื่อเตรียมผ้าสำหรับตัดชุดทำงานให้พ่อและลูกทุกคน





แม่มีลูกทั้งหมด 8 คน ลูกชาย 4 คนและลูกสาว 4 คน ในบรรดาลูกสาวทั้งสี่มีเพียงลูกสาวคนโตที่พอจะได้วิชาหัตถกรรมพื้นบ้านจากแม่ แต่พระเจ้าได้ยกไปในวัย 36 ปี เช่นเดียวกับลูกสาวคนรองลงมาที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ส่วนคนที่สามและคนสุดท้อง แม่ได้ยกถวายให้กับพระเจ้า คนหนึ่งในคณะรักกางเขนแห่งท่าแร่และคณะอูร์สุลินแห่งสหภาพโรมัน






ความสุขของแม่ในวัย 75 ปีคือ การได้เห็นลูกมารวมกัน และทราบข่าวความเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของแต่ละคน แม้การอยู่กันพร้อมหน้าจะทำได้ยากขึ้น แต่แม่ก็ไม่ต่างจากพ่อ ได้ซึมซับวิธีคิดและคำสอนของพ่อ “ไม่ต้องห่วงแม่ ขอให้ลูกทำหน้าที่ของตนให้ดี” และสิ่งที่แม่ทำเป็นประจำไม่เคยขาดคือการภาวนาเพื่อลูกทุกคน




ดังนั้น วันเสาร์ที่ 5 มกราคม ลูกๆ ของแม่ที่เหลืออยู่ทั้ง 6 คน (ข้าราชการ 1, เกษตรกร 2, พระสงฆ์ 1 และนักบวชหญิง 2) จึงพร้อมใจจัดงานให้แม่ อีกทั้งไม่ลืมคิดถึงพ่อผู้จากไป คู่ชีวิตของแม่ที่แม่รักและคิดถึงอยู่เสมอ ลูกสาวคนโตและคนรองของแม่ซึ่งพระเจ้าได้ยกไป รวมถึงปู่ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วทุกคน เพื่อขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับแม่เป็นพิเศษ ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน เป็นที่พึ่งของลูกหลาน ตลอดไป

ลูกคนที่สี่ของแม่
5 มกราคม 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น