วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า


 พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า  

01 กรกฎาคม
สมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
ปี A
ฉธบ 7:6-11
1 ยน 4:7-16
มธ 11:25-30

บทนำ

เช้าวันหนึ่งชายชราวัย 80 ปี กุลีกุจอมาหาหมอที่คลินิก บอกให้หมอช่วยทำแผลที่นิ้วหัวแม่มืออย่างรีบเร่ง เพราะมีนัดหมายในเวลา 8.30 น. หมอได้ถอดผ้าพันแผลและทำแผลให้ ก่อนจะพันแผลให้ใหม่ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร หมอสังเกตเห็นชายชราดูรีบร้อน ดูที่นาฬิกาข้อมือบ่อยๆ จึงถามว่า “คุณตามีนัดกับหมอคนอื่นอีกเหรอ ทำไมดูรีบร้อนนัก” ชายชราตอบหมอว่าไม่ได้มีนัดกับใคร แต่ต้องการไปที่บ้านคนชราเพื่อรับประทานอาหารเช้ากับภรรยา

เมื่อหมอถามถึงสุขภาพของภรรยา ชายชราบอกหมอว่าภรรยาย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม คุณหมอจึงถามว่า “หากคุณตาไปถึงที่นั่นช้าเพียงเล็กน้อย เธอคงเสียใจมาก” แต่หมอก็ต้องแปลกใจเมื่อชายนั้นยืนยันว่าเธอจำเขาไม่ได้มา 5 ปีแล้ว หมอจึงถามว่า “คุณตาไปที่นั่นทุกเช้า แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณตาเป็นใครกระนั้นหรือ” ชายชรายิ้ม จับมือหมอและตอบว่า “แม้เธอจะจำผมไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าเธอเป็นใคร มีความหมายอย่างไรสำหรับผม”

นี่คือ ตัวอย่างของความรักแท้ที่ชายชราคนนั้นมีต่อภรรยาของเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความรักนี้ยังดำรงคงมั่น ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แม้ว่าอีกฝ่ายจะจำเขาไม่ได้แล้วก็ตาม วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นวันที่เราเฉลิมฉลองความรักของพระเจ้า ที่เปิดเผยให้เราทราบผ่านทางดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าที่ถูกทิ่มแทงเพื่อเรา พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นน้ำพุแห่งพระหรรษทานและความรักที่ไม่เหือดแห้งของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์

1.  พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า

วันนี้เราสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ซึ่งความเชื่อคริสตชนบอกเราว่าพระเยซูเจ้าทรงพระชนม์อยู่และทรงเป็นองค์แห่งความรัก วันฉลองนี้เริ่มขึ้นในพระศาสนจักรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1856 โดยการเผยแสดงของพระเยซูเจ้าต่อ นักบุญมาร์การิตา มารีย์ อาลาก๊อก ที่เผยให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ กระทั่งวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1899 พระสันตะปาปาเลโอที่ 13 ได้มอบถวายมนุษยชาติต่อดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ต่อมาในปี ค.ศ. 1928 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้รับรองการเฉลิมฉลองนี้

“พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า” เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าทรงหลั่งโลหิตเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์

ความรักของพระเยซูเจ้านั้นไร้ขีดจำกัดและไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับพระองค์เลย การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน คือเครื่องยืนยันว่าพระองค์ทรงรักมนุษย์มาก ทรงให้ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตและเลือดหยดสุดท้าย สิ่งที่ดีงามทรงให้มนุษย์ทั้งหมดไม่เหลืออะไรไว้สำหรับพระองค์เลย นอกจากสิ่งที่ไม่มีใครเขาอยากได้คือ กางเขนและมงกุฎหนามที่พระองค์ทรงรับไว้

2.  บทเรียนสำหรับเรา

วันนี้ให้เราได้แสดงความรักต่อพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นพิเศษ ด้วยความเชื่อวางใจในพระองค์ มอบปัญหาและความต้องการต่างๆ ไว้กับพระองค์ ดวงพระหฤทัยที่รักเราอย่างหาที่สุดมิได้จะปกป้อง คุ้มครองเรา และประทานสันติสุขให้แก่เรา พระเยซูเจ้าได้ให้คำมั่นสัญญาในการปรากฏพระองค์ให้แก่นักบุญมาร์การิตา มารีย์ว่า จะประทานพระหรรษทานที่ล้นเหลือสำหรับผู้ที่ศรัทธาภักดีต่อดวงพระหฤทัยของพระองค์

พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าคือบทสรุปของพระวรสาร “จงเลียนแบบจากเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน” (มธ 11:29) คำสอนทั้งหมดของคริสตศาสนาสามารถพบได้ในพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน เมตตากรุณา บริสุทธิ์ และอดทนต่อการทรมานทุกอย่าง ให้เราได้เลียนแบบและปล่อยให้หัวใจของเราเต้นในจังหวะเดียวกันกับดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า เพื่อเราจะรู้ว่ามีสิ่งไหนที่ควรกระทำเพื่อทำให้โลกและสังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น

ประการสำคัญ การรักซึ่งกันและกัน “ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย (1 ยน 4:11) การรักซึ่งกันและกันจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรารักพระเจ้า หัวใจของเราจะต้องเร่าร้อนด้วยไฟแห่งความรักเหมือนพระเยซูเจ้า รักเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงรัก “นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน.15:12) และรักแม้พระทั่งศัตรู “จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน” (ลก 6:27-28)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเตือนใจเราว่า พระเจ้าทรงรักเรา ปรารถนาจะอยู่ใกล้ชิดกับเรา เมื่อเรารับศีลมหาสนิท เราก็เป็นหนึ่งเดียวและชิดสนิทในพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงรักเราและสัญญาจะอวยพรเรา ความรักของเราต้องมีลักษณะเดียวกันกับความรักของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติต่อเพื่อนพี่น้องที่เราพบเห็นในแต่ละวัน

เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเราตระหนักว่าพระเจ้าทรงรักเราถึงเพียงนี้ เราก็ควรรักซึ่งกันและกันด้วย สิ่งนี้แหละคือเครื่องหมายว่าเราเป็นศิษย์ของพระองค์ อีกอย่าง ในเวลาที่เราเผชิญกับปัญหาและความยากลำบากในชีวิต ให้มองดูพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าและไม้กางเขนของพระองค์ เราจะได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตและร่วมส่วนในพระมหาทรมานของพระองค์ ที่สุด ขอให้ความรักแบบเดียวกับพระเยซูเจ้า เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเราในการดำเนินชีวิตในวันนี้

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
30 มิถุนายน 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น