จันทร์ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า |
อสย 35:1-10 ลก 5:17-26 |
พระวรสารวันนี้
เราได้เห็นความเชื่อของคนอัมพาตและเพื่อนของเขา
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถรักษาคนอัมพาตได้
แต่พวกเขาแสดงถึงความเป็นเพื่อนที่ดีในการนำคนอัมพาตมาพบพระเยซูเจ้า แม้ต้องพบความยากลำบากไม่สามารถเข้าใกล้พระองค์ได้เนื่องจากคนมาก
แต่พวกเขาไม่ละความพยายาม ขึ้นไปบนหลังคา
หย่อนคนอัมพาตลงมาพร้อมที่นอนตามช่องกระเบื้อง และอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์
คนอัมพาตและเพื่อนของเขาไม่ได้พูดอะไร
แต่การกระทำของพวกเขาแสดงถึงความเชื่อในพระเยซูเจ้าอย่างลึกซึ้ง
ทรงเห็นความเชื่อของพวกเขาและตรัสว่า “เพื่อนเอ๋ย บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว”
(ลก 5:20) ชาวยิวมีความเชื่อว่า
ความเจ็บป่วยเป็นผลมาจากบาปและมีแต่พระเจ้าเท่านั้นอภัยบาปได้
พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่าทรงเป็นพระเจ้า ไม่เพียงรักษาอาการอัมพาต
แต่ยังทรงรักษาสาเหตุสำคัญของความเจ็บป่วยด้วย
ชาวฟาริสีและนักกฎหมายได้เห็นอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ
แต่พวกเขาไม่เชื่อ ทรงพิสูจน์ว่า พระองค์มีอำนาจอภัยบาป
และกระทำกิจการแห่งความรักในการรักษาคนอัมพาต “เราสั่งท่าน จงลุกขึ้น
แบกแคร่กลับไปบ้านเถิด” (ลก 5:24) “แคร่” เป็นสัญลักษณ์แห่งบาป ความเจ็บป่วย
และการไร้ความสามารถ แต่พระเยซูเจ้าทรงมีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง
ใครมีความเชื่อในพระองค์ได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์และต้องไม่ลืมสรรเสริญพระองค์
คริสตชนต้องมีความเชื่อและความวางใจพระเยซูเจ้า
เราได้เห็นอำนาจพระเจ้าของพระองค์ในการรักษาและการอภัยบาปบ่อยครั้งในพระวรสาร ทรงทำให้คนบาปอย่างศักเคียสและมัทธิวคนเก็บภาษีได้กลับใจ ทรงเปลี่ยนคนบาปที่สุดให้กลายเป็นนักบุญได้
ทรงทำให้คนสิ้นหวังเต็มเปี่ยมด้วยความยินดี
ทรงรักษาคนเจ็บป่วยให้กลับมีสุขภาพสมบูรณ์ พระองค์สามารถแสดงพลังอำนาจในตัวเราได้
เมื่อเราเรียนรู้การให้อภัยเยี่ยงพระองค์
“ผู้ไม่สามารถอภัยผู้อื่นได้ เขาได้ทำลายสะพานที่ต้องใช้ข้ามเพื่อไปสวรรค์ เพราะว่าทุกคนต้องการการให้อภัย” (ยอร์ช เฮอเบิร์ต) เราสามารถเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้าได้ด้วยการให้อภัยความผิดของกันและกัน ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความเชื่อในอำนาจการอภัยบาปของพระเจ้า หมั่นมาหาพระองค์บ่อย ๆ ทางศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี และเลียนแบบพระเยซูเจ้าในการอภัยผู้ทำไม่ดีต่อเรา
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 39-40.
ที่มาภาพ : https://www.blogger.com/blog/post/edit/4441559548770474725/9037946519296671133
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น