เวลาแห่งการแบ่งปัน|
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี C |
ศฟย 3:14-18ก ฟป 4:4-7 ลก 3:10-18 |
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่าชายหนุ่มคนหนึ่งเดินซัดเซพเนจรอย่างไร้จุดหมาย
ได้พบน้ำพุใสบริสุทธิ์โดยบังเอิญ เมื่อลองดื่มพบว่าเป็นน้ำดื่มรสชาติอร่อยถึงใจ
เขาได้ตักน้ำใส่ถุงหนังนำกลับไปฝากหัวหน้าเผ่าผู้เป็นอาจารย์
หลังจากเดินทางรอนแรมหลายวันเขาได้มาถึงหมู่บ้านและมอบน้ำนั้นให้หัวหน้าเผ่า
หัวหน้าเผ่ายกถุงน้ำขึ้นดื่ม
ยิ้มอย่างสุขใจและขอบคุณศิษย์รักสำหรับน้ำบริสุทธิ์ชื่นใจนั้น ชายหนุ่มเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข
เมื่อชายหนุ่มกลับไปแล้ว
หัวหน้าเผ่าได้ให้ศิษย์คนอื่นชิมน้ำนั้น เขารีบบ้วนทิ้งทันทีเพราะน้ำเน่าเสีย
ดื่มไม่ได้ พวกศิษย์แปลกใจจึงถามอาจารย์ว่า “น้ำเน่าเสียอย่างนี้
ทำไมอาจารย์แสร้งทำเป็นว่าชอบละ” อาจารย์ตอบว่า “เธอชิมเพียงน้ำในถุงหนัง
แต่ฉันชิมมันอย่างของประทาน น้ำในถุงหนังอาจเสียแล้ว
แต่ผู้นำมาให้ด้วยความรักและความปรารถนาดี” เราต้องไม่มองที่ราคาค่างวดของสิ่งที่ได้รับ
แต่มองให้ลึกไปถึงใจของผู้ให้
พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์ที่สาม
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ได้เชิญเราให้เตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ด้วยความชื่นชมยินดี
แบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น มหาตะมะ คานธี บิดาผู้สร้างชาติอินเดียกล่าวว่า “หากข้าพเจ้าเอาบางสิ่งไม่จำเป็นไว้สำหรับตนเอง
เท่ากับข้าพเจ้าขโมยมันจากคนอื่น... ท่านและข้าพเจ้าไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งที่เรามี
จนกว่าคนสามล้านคนมีเสื้อผาใส่และมีอาหารดีกิน”
1.
เวลาแห่งการแบ่งปัน
ยอห์นบัปติสต์ได้นำสารแห่งการเป็นทุกข์กลับใจสู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง
ผ่านทางการฟังเสียงของพระเจ้าที่ทรงเรียกร้องความยุติธรรมในสังคม นี่คือข่าวดีที่นักบุญลูกาเน้นในพระวรสารวันนี้โดยชี้ให้เห็นว่า
การเสด็จมาของพระผู้ไถ่ได้ทรงสถาปนาการปกครองใหม่แห่งการให้อภัย การแบ่งปัน
และการไถ่ให้รอด การเป็นทุกข์กลับใจที่ยอห์นประกาศ
เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงความประพฤติ มิใช่การเสียใจในสิ่งที่ได้ทำในอดีต
ยอห์นต้องการให้ผู้คนแบ่งปันสิ่งที่มีแก่ผู้อื่นบนหลักความยุติธรรม
พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ใครพอใจในสิ่งที่ตนเองมี ขณะคนเป็นจำนวนมากยังขัดสน
ยอห์นได้บอกผู้คนให้แบ่งปันสิ่งที่ตนเองมี เช่น
เสื้อผ้าแก่คนที่ไม่มีใส่และอาหารแก่คนที่กำลังหิว
หากพวกเขาเสียใจในบาปและต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างแท้จริง
ต้องเป็นพี่น้องกับทุกคนและตระหนักว่ามีสิ่งไหนบ้าง
ที่สามารถแบ่งปันกับคนอื่นในเทศกาลพระคริสตสมภพนี้
ยอห์นไม่ต้องการให้ผู้คนละทิ้งหน้าที่เพื่อความรอดของตนเอง
แต่ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ยอห์นเรียกร้องประชาชนให้มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตน
ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางผิด อาทิ
คนเก็บภาษีต้องเก็บภาษีด้วยความเที่ยงธรรม ทหารต้องมีวินัย ไม่ขู่กรรโชก หรือเรียกเก็บเงิน
ทั้งนี้เพราะหน้าที่แต่ละอย่างคือการรับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าในหนทางถูกต้อง
ประการแรก เราต้องเปลี่ยนแปลงความประพฤติ ยอห์นบัปติส์ได้ท้าทายความพยายามของเรา
ด้วยการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ลด ละ
เลิกความประพฤติและค่านิยมไม่ดีต่าง ๆ อาทิ การพนัน ยาเสพติด ความอิจฉาริษยา และการทะเลาะเบาะแว้ง
ถือปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
ทำงานหน้าที่แต่ละวันให้ดีที่สุด ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางผิด
ประการที่สอง เราต้องแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้ทุกข์ร้อน ยอห์นบัปติสต์ชี้ให้เห็นว่า
เครื่องหมายของการเป็นทุกข์กลับใจและการเปลี่ยนแปลงชีวิตแท้จริงคือ
การแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
เพราะทุกคนคือพี่น้องของเรา ที่สุด
เราต้องแบ่งปันความรักของเรากับผู้อื่นด้วยการรับใช้ที่สุภาพถ่อมตน โดยปราศจาความเห็นแก่ตัว
“จงทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักยิ่งใหญ่” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา)
ประการที่สาม
เราต้องเตรียมทางสำหรับพระเยซูเจ้า
เราแต่ละคนต่างเป็นผู้เตรียมทางของพระเยซูเจ้า ในการนำพระคริสต์ไปสู่ผู้อื่นที่อยู่ในความดูแลของเรา
บิดามารดาต้องปลูกฝังค่านิยมพระวรสาร
และจิตตารมย์ของการเป็นคริสตชนแท้ให้กับบุตรหลาน
แต่ละคนต้องเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า ในการนำผู้คนให้รู้จักและตระหนักว่า พระคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า
พระผู้ไถ่และพี่ชายของเขา
บทสรุป
พี่น้องที่รัก สัปดาห์ที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นเวลาแห่งความยินดี
เพราะเรากำลังเตรียมฉลองวันบังเกิดของพระเยซูเจ้า ผู้ประทับท่ามกลางเรา
และรอคอยการเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ของพระองค์ ยอห์นบัปติสต์ได้เรียกร้องให้เราเปลี่ยนแปลงความประพฤติของตนเป็นลำดับแรก
ด้วยการเป็นทุกข์กลับใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่จากค่านิยมและความประพฤติไม่ดีต่าง ๆ
ละทิ้งความเห็นแก่ตัว และแบ่งปันสิ่งที่มีกับเพื่อนพี่น้องด้วยความยินดี
คริสตชนต้องเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าให้มาประทับในชีวิตของตน ดำเนินชีวิตเป็นผู้เมตตากรุณาดั่งพระบิดาเจ้าสวรรค์ (ลก 6:36) ผู้ทรงเรียกร้องเรามิให้ตัดสิน หรือกล่าวโทษผู้ใด แต่ให้อภัยและแบ่งปันด้วยความรักโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า ในการทำหน้าที่ของตนแต่ละวันให้ดีที่สุด ตามบทบาทและฐานะของแต่ละคนโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางถูกต้อง
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 58-62.
ภาพ : การเยี่ยมผู้ป่วย, วัดนักบุญอันดรูว์ หนองแซง, นครพนม; 2021-11-30
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น