วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ของขวัญมีค่ายิ่ง

 

ของขวัญมีค่ายิ่ง

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ

ปี C

มคา 5:2-5

ฮบ 10:5-10

ลก 1:39-45

บทนำ

เด็กหญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อซึ่งมีงานยุ่งทั้งวัน ทำให้ไม่มีเวลากับครอบครัว ทุกคืนเด็กหญิงขอพ่ออ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง ผู้เป็นพ่อหาทางออกด้วยการบันทึกเสียงใส่เครื่องเล่นให้เปิดฟังก่อนนอน แต่บุตรสาวยังคงเรียกร้องพ่ออ่านให้ฟัง พ่อได้อธิบายวิธีใช้ เพียงแค่นิ้วสัมผัสก็ได้ยินเรื่องต่าง ๆ สองสามวันให้หลังบุตรสาวปฏิเสธการฟังนิทานจากเครื่องเล่นที่พ่อให้ ผู้เป็นพ่อถามว่า “ทำไมละ” บุตรสาวตอบพ่อว่า “ใช่คะพ่อ แต่ลูกกอดเครื่องเล่นไม่ได้”

ใกล้ถึงวันพระคริสตสมภพสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกคิดถึงคือ การส่งความสุข การให้ หรือรับของขวัญ มีผู้คนจำนวนมากใช้เวลาและเงินทองหมดไปกับการจับจ่ายซื้อของขวัญคริสต์มาส สำหรับสมาชิกในครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รักและเคารพนับถือ มีการทำต้นคริสต์มาส ประดับด้วยรูปซานตาคลอสซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสที่ขาดไม่ได้

คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งการให้ เริ่มจาก “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์...” (ยน 3:16) เมื่อพระเจ้าทรงเป็นผู้ให้และเราเรียนรู้จักให้นั่นคือคริสต์มาส คริสต์มาสจึงเป็นการฉลองแห่งการให้ คำถามตามมาคือ เราจะให้อะไรและจะให้อย่างไร เราจะทำให้การฉลองคริสต์มาสมีความหมายสำหรับเราอย่างไร พระวรสารวันนี้ได้ให้คำตอบต่อปัญหาเหล่านี้

1.        ของขวัญมีค่ายิ่ง

พระวรสารวันนี้เราได้ฟังเรื่องราวพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ของขวัญที่พระนางมารีย์นำไปมอบให้นางเอลีซาเบธคืออะไร พระวรสารไม่ได้บอก พระนางมารีย์อาจเตรียมบางสิ่งบางอย่างไปให้ด้วยหรือเปล่า เราไม่ทราบ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พระนางมารีย์นำไปด้วยคือ ตัวพระนางเอง พระนางได้มอบของขวัญมีค่ายิ่งแก่นางเอลีซาเบธ ด้วยการปรากฏตัวต่อหน้านางเอลีซาเบธในห้วงเวลาที่เธอกำลังต้องการใครสักคน

นี่คือของขวัญมีค่ายิ่งและยากที่สุดสำหรับทุกคน เป็นเรื่องง่ายในการส่งคำอวยพร ดอกไม้ หรือพัสดุแทนตัวเรา แต่การให้ตัวเราเองเป็นของขวัญ ให้เวลาอยู่กับใครสักคน นี่คือของขวัญที่หลายคนปรารถนาได้รับโอกาสคริสต์มาสนี้ พ่อของเด็กหญิงคนนั้นได้ให้เครื่องเล่น หากเป็นสมัยของเราต้องเป็น iPad, iPhone ที่มีราคาสูง แต่ไม่ได้ให้ตัวเองแก่บุตรสาว การมีพ่ออยู่ด้วย ให้เวลากับลูกคือสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุด

พระนางมารีย์คำนึงถึงความจำเป็นของนางเอลีซาเบธมากกว่า อีกทั้ง การเดินทางสมัยนั้น นอกจากไม่สะดวกแล้วยังเป็นการเดินทางเสี่ยงอันตรายมาก แต่นางเอลีซาเบธกำลังต้องการใครสักคนคอยช่วยเหลือ เพราะหญิงชราที่ตั้งครรภ์หกเดือนไม่สามารถไปตักน้ำจากบ่อ ดูแลพืชพักในสวน ดูแลสัตว์เลี้ยงหรือจับจ่ายซื้อของที่ตลาด พระนางมารีย์ได้รีบรุดไปปรนนิบัติและพักอยู่กับนางเอลีซาเบธเป็นเวลา 3 เดือน และได้ให้ตนเองเป็นของขวัญมีค่ายิ่งกับนางเอลีซาเบธ

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเรา ในการเตรียมฉลองการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในหนทางถูกต้องหลายประการ

ประการแรก จงให้ตัวเราเองแก่กันและกัน พระนางมารีย์ได้ให้ของขวัญมีค่ายิ่งแก่นางเอลีซาเบธคือตัวพระนางเอง เราต้องให้ตัวเราเอง ปรากฏตัว และให้เวลาของเราแก่กันและกัน หาเวลาและโอกาสไปเยี่ยมคนเจ็บป่วย คนพิการทุพลภาพที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ นี่คือของขวัญมีค่ายิ่งที่เราสามารถมอบให้แก่กัน เป็นต้นกับสมาชิกในครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา

ประการที่สอง จงคิดถึงความจำเป็นของผู้อื่นมากกว่าความสะดวกสบายของเรา พระนางมารีย์รีบรุดไปหานางเอลีซาเบธเพราะตระหนักว่า นางต้องการความช่วยเหลือมากกว่า ทั้ง ๆ ที่พระนางเองก็ตั้งครรภ์ ไม่ควรเดินทางไกลเสี่ยงอันตรายเช่นนั้น แต่ความรักและความห่วงใยผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ทำให้พระนางอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เราเองไม่ควรเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนและความต้องการของผู้อื่น เพราะนั่นคือองค์พระเยซูเจ้าผู้เสด็จมาและประทับท่ามกลางเรา

ประการที่สาม จงนำพระเยซูเจ้าไปสู่ผู้อื่น ทุกที่ที่พระนางมารีย์ไปได้นำพระเยซูเจ้าไปด้วย คริสตสมภพเป็นห้วงเวลาที่เราเติมเต็มชีวิตของเราด้วยพระจิตของพระเยซูเจ้า ให้พระองค์บังเกิดในตัวเราเพื่อแบ่งปันความรักของพระองค์กับทุกคนที่พบปะเรา ผ่านทางการรับใช้ที่สุภาพถ่อมตน ความเมตตากรุณา การดูแลด้วยความรัก และการให้อภัยไม่มีเงื่อนไข นำแสงสว่างและความหวังไปสู่ทุกคนให้ใกล้ชิดกับองค์พระเจ้า

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระนางมารีย์เดินทางไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธเพื่อปรนนิบัติรับใช้ โดยไม่คิดถึงความสะดวกสบายของตนเอง เพราะตระหนักว่านางเอลีซาเบธต้องการความช่วยเหลือมากกว่า พร้อมกับนำพระผู้ช่วยให้รอดไปด้วย การปรากฏตัวของพระนางมารีย์เป็นของขวัญมีค่ายิ่ง มีผู้คนมากมายในยุคสมัยของเราไม่ต้องการเงินทอง หรือสิ่งของที่เราหยิบยื่นให้ แต่ต้องการความรักและมิตรภาพ ยิ่งเรามอบตัวเราเองแก่ผู้อื่นมากเท่าไร เรายิ่งได้รับคืนมากเท่านั้น

พระนางมารีย์ได้เตือนใจเราว่า คริสต์มาสแท้จริงและดีที่สุดมิใช่การบังเกิดของพระกุมารเยซูในถ้ำเลี้ยงสัตว์ที่เมืองเบธเลเฮม แต่เป็นการบังเกิดมาของพระองค์ในถ้ำแห่งจิตใจเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องให้ตัวเอง ปรากฏตัว และให้เวลาของเราแก่กัน ไม่เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนและความต้องการของผู้อื่น เพราะนั่นคือพระเยซูเจ้าผู้เสด็จมาและประทับท่ามกลางเรา

ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 85-88.

เครดิตภาพ : Chaiyo Kitkrailard, สักการสถานบุญราศีทั้งเจ็ดสองคอน, มุกดาหาร; 2021-12-17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น