วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

หน้าที่ต่อพระเจ้าและชาติบ้านเมือง

 


หน้าที่ต่อพระเจ้าและชาติบ้านเมือง

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา

ปี A

อสย 45:1,4-6

1 ธส 1:1-5

มธ 22:15-21

บทนำ

มหาตะมะ คานธี บิดาผู้สร้างชาติอินเดีย เป็นผู้นำชาวอินเดียต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติจากการยึดครองของอังกฤษด้วยหลัก “อหิงสา” (ไม่ใช้ความรุนแรง) ทำให้คานธีเป็นที่เคารพนับถือของชาวอินเดียทั้งชาติและโลก มีรูปติดอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป มีสถานที่แห่งหนึ่งได้ติดรูปคานธีและรูปพระเยซูเจ้าคู่กัน ผู้นิยมนับถือคานธีหลังจากเห็นรูปทั้งสองในสถานที่แห่งนั้น ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าโค้งคำนับให้คานธี แต่ข้าพเจ้าคุกเข่านมัสการพระเยซูเจ้า”

การนมัสการใช้กับพระเจ้าเท่านั้น ส่วนมนุษย์แม้เป็นที่นิยมมากเพียงใด เราไม่อาจกราบนมัสการเหมือนพระเจ้าได้ เพราะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่สามารถอยู่ได้โดยลำพังต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น เราจึงมีหน้าที่ต่อสังคมและบ้านเมืองที่เราสังกัดอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เราต้องจัดลำดับหน้าที่ของเราต่อพระเจ้า และต่อชาติบ้านเมืองในแบบสมดุลกัน

สมัยของพระเยซูเจ้า รัฐบาลโรมันได้ผลิตเหรียญสำหรับใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยน ประชาชนตั้งแต่อายุ 14 ปี ถึง 65 ปี ในดินแดนที่ถูกยึดครองต้องเสียภาษีให้รัฐบาลโรมันด้วยเงินเหรียญนี้ สำหรับชาวยิวชาตินิยมไม่เห็นด้วยกับการเสียภาษี จนเป็นที่มาของความเกลียดชังคนเก็บภาษีทุกคน และถือคนเก็บภาษีเป็นคนบาปในระนาบเดียวกับหญิงโสเภณีและฆาตกร แต่พระเยซูเจ้าทรงคบค้ากับคนเก็บภาษี และเรียกคนหนึ่งให้มาเป็นศิษย์ของพระองค์ (มธ 9:9-10)

1.        หน้าที่ต่อพระเจ้าและชาติบ้านเมือง

คำถามเพื่อจับผิดพระเยซูเจ้าในพระวรสาร “การเสียภาษีแก่จักรพรรดิซีซาร์เป็นการถูกต้องหรือไม่” (มธ 22:17) มิใช่คำถามที่ต้องการคำตอบแบบตรงไปตรงมา แต่เป็นหลุมพรางที่ต้องการจับผิดพระเยซูเจ้า หากตอบว่า “ต้องเสีย” ประชาชนย่อมหมดศรัทธาในพระองค์ หากตอบว่า “ไม่ต้องเสีย” พรรคพวกของกษัตริย์เฮโรดและชาวฟาริสีย่อมกล่าวหาพระองค์เป็นกบฏ ฐานยุยงปุกปั่นประชาชนให้ขัดสู้กับอำนาจของโรมัน

พระเยซูเจ้าไม่ตกหลุมพรางที่พวกเขาขุดดักไว้  ทรงเปิดเผยพันธกิจของพระองค์คือ การสถาปนาอาณาจักรของพระเจ้า และศักดิ์ศรียิ่งใหญ่ของมนุษย์ “ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซา และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด” (มธ 22:21) ทรงชี้แนะให้ปฎิบัติตามกฎหมาย ทรงชี้ให้เห็นว่า ซีซาร์เป็นเพียงมนุษย์มิใช่เทพเจ้า ประการสำคัญ สิ่งที่เป็นของพระเจ้าคือมนุษย์ทั้งครบที่ทรงสร้างตามฉายาของพระองค์

ในฐานะพลเมืองของประเทศ เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง อาทิ การเสียภาษี การใช้สิทธิเลือกตั้ง และการเป็นพลเมืองดีของสังคม ซึ่งผู้ปกครองต้องปกครองด้วยยุติธรรม ไม่กดขี่ หรือละเมิดสิทธิ์พลเมือง ในอีกด้านหนึ่ง ในฐานะคริสตชนเราเป็นประชากรแห่งอาณาจักรของพระเจ้า เราต้องปฏิบัติตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า ในความรักและการรับใช้ทั้งต่อพระเจ้าและพี่น้อง ต้องไม่มีความขัดแย้งกันระหว่างหน้าที่ต่อพระเจ้าและชาติบ้านเมือง

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคน พระเยซูเจ้าทรงต้องการบอกเราถึงพันธกรณีแห่งความยุติธรรม ที่ต้องคืนแก่ทุกคนในสิ่งที่เป็นของเขา เราไม่มีสิทธิกดขี่ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบ หรือแสวงหาประโยชน์เพื่อตัวเองโดยไม่คิดถึงคนอื่น เพราะทุกคนล้วนเป็นฉายาของพระเจ้า เท่าเทียมกันในเกียรติและศักดิ์ศรี ควรได้รับการปฏิบัติต่อกันบนพื้นฐานของความเสมอภาคและยุติธรรม

ประการที่สอง เราต้องขอบคุณพระเจ้า หากพระเจ้าได้ประทานทุกสิ่งแก่เรา (สิ่งที่เรามีและเราเป็น) เป็นหน้าที่ของเราแต่ละคนที่ต้องขอบพระคุณ วางใจ และรับใช้พระองค์เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพิธีเฉลิมฉลองศีลมหาสนิท ศูนย์กลางแห่งชีวิตคริสตชนที่เรามาร่วมพิธีทุกสัปดาห์ เราต้องสำนึกพระคุณและมอบคืนแด่พระเจ้าด้วยชีวิตทั้งครบของเรา พระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกเสมอในชีวิตของเรา

ประการที่สาม เราต้องนอบน้อมเชื่อฟังพระเจ้า มนุษย์ถูกสร้างมาตามฉายาของพระเจ้า โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมีส่วนในชีวิตพระเจ้า ด้วยความนอบน้อมเชื่อฟังพระองค์ ในกรณีที่มีความขัดแย้ง เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์ หน้าที่ต่อพระเจ้าต้องสำคัญกว่าหมด เช่น การมาวัดวันอาทิตย์ การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติ การอธิษฐานภาวนา การให้ความเคารพต่อเพื่อนพี่น้องและมโนธรรมของตน ฯลฯ

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ชาวฟาริสีพยายามหาทางเล่นงานพระเยซูเจ้าตลอดเวลา พระองค์ทรงรู้เท่าทันพวกเขา ทรงตอบปัญหาที่พวกเขาถามเพื่อจับผิดได้อย่างแนบเนียน อีกทั้ง ทรงเปิดเผยให้เห็นถึง พันธกิจของพระองค์ในการสถาปนาอาณาจักรของพระเจ้า และศักดิ์ศรีของมนุษย์ที่เป็นฉายาของพระเจ้า รวมถึงแผนการและพระประสงค์ของพระองค์ แต่ละคนต้องมุ่งแสวงหาและปฏิบัติตามตลอดชีวิต

พระเยซูเจ้าทรงบอกให้เราทราบว่า ทุกสิ่งเป็นของพระเจ้าเราต้องขอบพระคุณอยู่เสมอ และมอบตัวเองทั้งครบแด่พระองค์ ไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับตัวเอง ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตแบบคริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่ มุ่งทำหน้าที่ของตนแต่ละวันให้ดีที่สุด ทั้งหน้าที่ต่อพระเจ้าและชาติบ้านเมืองอย่างสมดุล เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตของเราต้องมุ่งสู่พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ผู้เป็นคำตอบและหลักชัยแห่งชีวิตของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร

17 ตุลาคม 2020

ภาพ: พิธีบูชาขอบพระคุณประจำคุ้ม, ดอนม่วย, สกลนคร; 2020-10-15

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น