สิทธิพิเศษแห่งการเป็นบุตรพระเจ้า
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 27
เทศกาลธรรมดา ปี A |
อสย 5:1-7 ฟป 4:6-9 มธ 21:33-43 |
บทนำ
พี่น้องสองคนทำงานเก็บไข่ในฟาร์ม คนพี่นึกสนุกพูดกับน้องชายว่า “พี่จะให้เงินห้าสิบบาท หากแกยอมให้พี่ใช้ไข่ตีหน้าผากสามฟอง”
แม้รู้ว่าเจ็บปวดและเปรอะเปื้อน แต่ด้วยความอยากได้เงินน้องชายจึงยอม เมื่อพี่ชายใช้ไข่ฟองแรกตีเขารู้สึกเจ็บ
ฟองที่สองรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า แต่กัดฟันทนเพื่อเงินห้าสิบบาทและบอกให้พี่ชายตีไข่ฟองสุดท้าย
แต่พี่ชายหัวเราะและเดินจากไป พร้อมกับบอกว่า “พอแค่นี้แหละ
แกจะได้ไม่เจ็บตัวเพิ่มและพี่ก็ไม่ต้องเสียเงินห้าสิบบาท”
เรื่องราวพี่น้องสองคนฟังดูขบขัน แต่สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไร้สัจจะ
ไม่ทำตามคำสัญญา และขาดความรับผิดชอบ มีผู้คนจำนวนมากดำเนินชีวิตเหมือนพี่คนโตเอาเปรียบคนอื่น
เอาเปรียบสังคมหรือแม้แต่พระเจ้า เช่นเดียวกับอุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย แสวงหาประโยชน์และเอาเปรียบเจ้าของสวน
ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าหรือผลตอบแทนที่ตกลงไว้ ซ้ำยังจับผู้รับใช้ที่เจ้าของสวนใช้มาทุบตีและฆ่าเสีย
ไม่เว้นแม้บุตรชายของเจ้าของสวน
การทำสวนองุ่นเป็นวิธีดำรงชีพทั่วไปในปาเลสไตน์
แต่สถานการณ์และความยากลำบากสมัยนั้น ทำให้เจ้าของที่ดินไปหาที่อยู่ ณ
ดินแดนใหม่ที่สงบสุขมากกว่า ปล่อยให้คนเช่าสวนทำประโยชน์และตนเองเก็บค่าเช่า อาจกำหนดเป็นตัวเงินหรือส่วนแบ่งผลผลิตที่เก็บได้
เหตุการณ์ที่กล่าวถึงในอุปมา คนเช่าสวนไม่ยอมจ่ายค่าเช่า ทุบตีและฆ่าผู้แทนเจ้าของสวนด้วยวิธีรุนแรง
เพื่อยึดที่ดินมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตน
1.
สิทธิพิเศษแห่งการเป็นบุตรพระเจ้า
อุปมาเรื่องคนเช่าสวนที่ชั่วร้าย เป็นการเล่าเรื่องผู้ดูแลสวนองุ่นที่ปฏิบัติไม่ดีต่อผู้รับใช้ที่เจ้าของสวนส่งมา
และที่สุดได้ฆ่าลูกชายเจ้าของสวน ถือเป็นเหตุการณ์ปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นสมัยพระเยซูเจ้า
ผู้ฟังเข้าใจสาระสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างดี สวนองุ่นหมายถึงชนชาติอิสราเอล
เจ้าของสวนคือพระเจ้า ผู้เช่าสวนคือบรรดาหัวหน้าสมณะและชาวฟาริสี ผู้รับใช้คือบรรดาประกาศกที่พระเจ้าทรงส่งมา
ส่วนบุตรคือพระเยซูเจ้า
อุปมาบอกให้ทราบถึง “สิทธิพิเศษของมนุษย์” มัทธิวได้ให้รายละเอียดว่าเจ้าของสวนได้ทำสิ่งจำเป็นทุกอย่างสำหรับสวนองุ่น
ทำรั้วล้อมป้องกันสัตว์ร้าย สร้างบ่อย่ำองุ่น
นอกจากนี้ยังสร้างหอเฝ้าเพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย (มธ 21:33) นั่นหมายความว่า พระเจ้าทรงทำทุกอย่างสำหรับชนชาติอิสราเอลเพื่อเตรียมพวกเขาให้รู้จักพระบุตรที่จะเสด็จมา
แต่พวกเขาได้กระทำความผิดและปฏิเสธพระองค์
สิทธิพิเศษนี้จึงถูกเพิกถอนและมอบให้กับคนต่างชาติ
คริสตชนได้รับสิทธิพิเศษแห่งการเป็นบุตรพระเจ้า ทุกคนเป็นลูกของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน
มีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่าเสมอกันต่อหน้าพระเจ้า การเดินทางไปแดนไกลของเจ้าของสวน
หมายถึงพระเจ้าทรงมอบหมายงานและความรับผิดชอบให้เราด้วยความเชื่อใจ ดังนั้น
เรามีอิสรภาพจะร่วมมือกับพระองค์หรือต่อต้าน
และมีอิสระในการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ นี่คือ สิทธิพิเศษที่มนุษย์ได้รับ
นอกนั้น อุปมายังแสดงให้เห็นถึง “ความอดทนของพระเจ้า” ที่มีต่อความผิดพลาดของมนุษย์
เจ้าของสวนองุ่นได้ให้โอกาสคนเช่าสวนครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยหวังว่าเขาจะปรับปรุงตัวเองใหม่
พระเจ้าได้ให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ทรงลงโทษใครในทันที แต่ทรงให้เวลาและรอคอยด้วยหวังว่าเขาจะกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิต
หันกลับมาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง
ความอดทนของพระเจ้าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
2.
บทเรียนสำหรับเรา
อุปมาเรื่องคนเช่าสวนที่ชั่วร้ายได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
เราต้องรับผิดชอบต่อสิทธิพิเศษที่พระเจ้าประทาน การเป็นคริสตชนไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นแผนการของพระเจ้า
พระอาณาจักรของพระเจ้าถูกมอบให้เราดูแลด้วยความวางใจ เราควรใช้สิทธิพิเศษแห่งการเป็นบุตรพระเจ้าด้วยความรับผิดชอบ
ตระหนักในพระหรรษทานและความช่วยเหลือของพระองค์ในแต่ละวัน ด้วยความสำนึกพระคุณและใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อนำไปสู่ความรอดนิรันดร
ประการที่สอง
เราต้องอดทนต่อความผิดของกันและกัน พระเจ้าทรงอดทนและไม่ทรงจดจำความผิดที่เรากระทำ
ทรงให้โอกาสเราครั้งแล้วครั้งเล่า เราต้องอดทนต่อความผิดบกพร่องของกันและกัน ไม่พิพากษาหรือตัดสินใครโดยเบาความ แต่ปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและให้อภัย
ให้โอกาสคนผิดหลงได้กลับตัวกลับใจ เริ่มจากในครอบครัว สังคม หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา
ประการที่สาม เราต้องทำให้เกิดผล เราเป็นคนงานในสวนองุ่นของพระเจ้า มิใช่เจ้าของสวน เราไม่มีอะไรต้องโอ้อวดหรือภาคภูมิใจ เราต้องใช้โอกาสและพระพรมากมายที่ได้รับจากพระเจ้าในแต่ละวันให้เกิดผล นั่นคือ
การทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่เอารัดเอาเปรียบหรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตน
จนลืมนึกถึงความรักต่อพระเจ้าและพี่น้อง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก คริสตชนเป็นประชากรใหม่ของพระเจ้า
เป็นคนงานในสวนองุ่นของพระองค์ที่ทรงคาดหวังให้เกิดผลยั่งยืน ทุกสัปดาห์เราได้รับเชิญให้มารอบโต๊ะศักดิ์สิทธิ์
เพื่อฟังพระวาจาของพระองค์และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
เราได้รับการเรียกให้เป็นหนึ่งเดียวกับกลุ่มคริสตชนและพระศาสนจักร ผ่านทางพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าที่เราได้รับ
ดังนั้น เราต้องอดทนต่อความผิดพลาดของกันและกันและให้อภัยกันด้วยใจกว้าง
คริสตชนได้รับสิทธิพิเศษผ่านทางศีลล้างบาป ให้มาทำงานในสวนองุ่นของพระเจ้า
ซึ่งสิทธิพิเศษนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบ เราต้องร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องรับผิดชอบต่องานและหน้าที่ต่าง
ๆ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นเครื่องมือที่ดีของพระองค์ในเนื้อนาที่ทรงมอบให้ดูแล และตระหนักว่าเราไม่ได้ทำงานโดยลำพัง
พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางและพร้อมช่วยเหลือเราให้เกิดผลสมบูรณ์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
3 ตุลาคม 2020
ภาพ: คนเช่าสวนองุ่นเตรียมสังหารบุตรชายเจ้าของสวน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น