การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์มหาทรมาน
แห่ใบลาน
ปี B
|
อสย 50: 4-7
ฟป 2:
6-11
มก 11:
1-10; 14: 1-15:47
|
บทนำ
ต้นศตวรรษที่แล้ว
พระสังฆราชแห่งปารีสได้เล่าเรื่องหนุ่มคนหนึ่งที่ ตระโกนด่าแช่งและเยาะเย้ยคนที่มาเข้าวัด
(Notre Dame) แห่งกรุงปารีส หลายคนเพิกเฉยไม่สนใจ คุณพ่อเจ้าอาวาสเห็นว่าเขาทำเกินไปได้ว่ากล่าวตักเตือน
แต่เขายังคงดื้อดึงไม่ยอมฟัง ที่สุด
คุณพ่อเจ้าอาวาสได้ท้าทายว่าหากเขาแน่จริงกล้าเข้าไปในวัด
จ้องมองพระรูปพระเยซูเจ้าและพูดกับพระองค์ว่า “พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อผม และผมไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อยไหม”
เด็กหนุ่มคนนั้นรับคำท้าเข้าไปในวัด
ยืนต่อหน้าพระรูปพระเยซูเจ้าและพูดว่า “พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อผม และผมไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย” คุณพ่อเจ้าอาวาสพูดว่า “ดี ลองพูดย้ำคำนี้อีกครั้งซิ” เด็กหนุ่มคนนั้นจ้องมองพระรูปพระเยซูเจ้าและพยายามพูดประโยคเดิมอีกครั้งแต่พูดไม่ได้
ได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองรูปปั้นนั้น และพระสังฆราชได้กล่าวในตอนท้ายว่า “เด็กหนุ่มที่พูดจาสามหาวลบหลู่พระเจ้าวันนั้นคือพ่อนี่เอง
พ่อคิดว่าตนเองไม่ต้องการพระเจ้า แต่ในความเป็นจริงพ่อไม่อาจปฏิเสธพระองค์ได้”
วันอาทิตย์ใบลานหรืออาทิตย์มหาทรมาน บอกเราว่ากำลังเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรามองดูกางเขนของพระเยซูเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พิธีกรรมในสัปดาห์นี้เน้นความสำคัญที่ความรอด
นำเราให้ตระหนักว่า พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อเราแต่ละคน
และยังคงทนทรมานเพื่อเราต่อไปขณะที่ทรงประทับอยู่กับเรา
เพื่อนำเราให้ตระหนักถึงการกลับคืนพระชนมชีพแห่งปัสกาที่กำลังจะมาถึง
1.
การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้า
พิธีกรรมวันนี้ได้แสดงภาพแห่งชัยชนะ
เพื่อเตรียมเราสำหรับพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
เปิดเผยให้เราได้ทราบถึงความรักที่ล้นเหลือของพระเจ้าสำหรับเราแต่ละคน เราเริ่มต้นด้วยชัยชนะของพระคริสตเจ้าผู้เป็นกษัตริย์
ด้วยการเสกใบลานและแห่แหนด้วยความยินดี และเราได้ฟังเรื่องราวพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าที่ทรงถูกเฆี่ยนตี
สบประมาท สวมมงกุฎหนาม และถูกตรึงบนไม้กางเขน
การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มที่เราระลึกถึงในพิธีกรรมวันนี้
ทำให้เราพบความจริงว่าพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะกษัตริย์ พระแมสิยาห์และลูกแกะของพระเจ้า
ในฐานะกษัตริย์ การประทับบนหลังลาของพระเยซูเจ้า และบรรดาประชาชนต้อนรับพระองค์ด้วยกิ่งปาล์มและกิ่งไม้
เป็นการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะกษัตริย์ (1 มคบ
13:51) เพราะลาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความสุภาพ ปกติกษัตริย์ทรงม้านำทหารสู้ศึกสงคราม
แต่เมื่อได้รับชัยชนะ นำความสงบสุขสู่บ้านเมืองจะประทับบนหลังลาเข้าเมืองอย่างผู้มีชัย
แต่พระองค์มิใช่กษัตริย์ที่มาปลดปล่อยพวกเขาจากการกดขี่ทางการเมือง
ทรงเป็นองค์สันติราชา
ในฐานะพระแมสิยาห์ ตามประเพณีโบราณสัตว์ที่ใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่ใช่สัตว์ที่มีตำหนิ
(กดว 19:2;
ฉธบ 21:3; 1 ซมอ 6:7) พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้สาวกไปนำลาที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน
และลาตามคำกล่าวของประกาศกเศคาริยาห์เป็นสัตว์แห่งพระแมสิยาห์ (ศคย 9:9) ดังนั้น เมื่อพระเยซูเจ้าประทับบนหลังลาเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม
จึงเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกประชาชนว่าพระองค์ทรงเป็นพระแมสิยาห์
ในฐานะลูกแกะพระเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกา
ทรงเป็นลูกแกะปัสกาที่ถูกประหารบนเขากัลวารีโอ ดังที่ยอห์น บัปติสต์ชี้บอกศิษย์ว่า
“นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก” (ยน 1:29) ทรงมอบชีวิตของพระองค์เหมือนดังลูกแกะ
ที่ถูกประหารอย่างอยุติธรรมและไร้ความผิดเพื่อเห็นแก่เราผู้เป็นคนบาป
การสิ้นพระชนม์และพระโลหิตของพระองค์ที่หลั่งออกเพื่อบาปของเรา ช่วยเราให้เราพ้นจากความผิดต่อหน้าพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงเจ็บปวดทางด้านร่างกาย
อันเนื่องมาจากการทรมานอย่างทารุณไร้มนุษยธรรม ทรงเจ็บปวดด้านจิตวิทยา
อันเนื่องมาจากการถูกศิษย์ทรยศ และทรงเจ็บปวดด้านจิตใจ
อันเนื่องมาจากการถูกทอดทิ้ง บรรดาศิษย์ได้ทิ้งพระองค์หนีไป แม้กระทั่งจากพระบิดา “ข้าแต่พระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า” (มก 15:34)
คงไม่มีความทุกข์ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่ใครคนหนึ่งรู้สึกว่า
ตนเองถูกทอดทิ้งจากบุคคลอันเป็นที่รัก
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าเป็นที่มาแห่งความรอดพ้นของมนุษยชาติ
ได้ให้บทเรียนสำคัญแก่เราคริสตชนด้วยชีวิตและแบบอย่างของพระองค์
ประการแรก พระทรมานเป็นเครื่องหมายแห่งความรักแท้จริงสำหรับมนุษยชาติ
พระองค์ทรงรักและมอบชีวิตของพระองค์บนกางเขนเพื่อเราทุกคน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) ให้เราดำเนินชีวิตในความรักตามมาตรฐานเดียวกันกับพระองค์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง “ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน”
(ยน 15:12)
ประการที่สอง เราต้องต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในดวงใจของเรา วันนี้เราได้รับใบลานที่ได้รับการเสกเพื่อนำกลับไปไว้บ้านในที่ที่เหมาะสม
ใบลานเตือนใจเราว่าพระคริสต์เจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งครอบครัวและดวงใจของเรา
เราต้องพร้อมมอบชีวิตของเราแด่พระเยซูเจ้าตลอดสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้
ให้เวลาสำหรับพระองค์มากขึ้นในการอธิษฐานภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ การแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น
ประการที่สาม เราต้องติดตามและเลียนแบบพระเยซูเจ้า
ผู้รับใช้ที่สุภาพของพระเจ้า เราถูกเรียกให้ติดตามและเลียนแบบพระเยซูเจ้า
เราต้องพร้อมยอมรับทุกสถานการณ์ทั้งการต้อนรับ การต่อต้าน การทรมานและกางเขนเหมือนพระเยซูเจ้า
ประการสำคัญ การเป็นผู้ติดตามพระเยซูเจ้า ไม่มีหนทางอื่นนอกจากหนทางแห่งไม้กางเขน ชีวิตของเราต้องช่วยให้คนอื่นได้เห็นถึงความรักยิ่งใหญ่
การให้อภัยที่ไม่มีเงื่อนไข และการอุทิศตนรับใช้ของพระเยซูเจ้า
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ความทุกข์ทรมานมีความหมายพิเศษสำหรับชีวิตคริสตชน
พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่กับผู้ที่กำลังทนทุกข์เสมอ
พวกเขาไม่ได้เผชิญความลำบากตามลำพัง ความรักในพระคริสตเจ้าเป็นพลังทำให้เราสามารถสู้ทนความยากลำบากต่างๆ
ในชีวิตได้ และถือเป็นการมีส่วนในงานไถ่กู้มนุษยชาติ
ผ่านทางการทรมานและความตายพร้อมกับพระองค์เท่านั้น เราถึงได้รับชีวิตนิรันดร
ประการสำคัญ
เมื่อเผชิญกับความยากลำบากหรือความทุกข์ทรมานใดๆ ในชีวิต ศิษย์พระคริสต์ต้องหันมาหาพระเยซูเจ้า
เพื่อรับความบรรเทาและความช่วยเหลือ เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องเลียนแบบอย่างของพระองค์ในความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุด
อีกทั้ง พระมหาทรมานของพระองค์ควรเตือนใจเราให้สำนึกในบาปที่ได้กระทำ
และกลับมาหาพระองค์ผ่านทางศีลอภัยบาป เพื่อเราจะได้รับการช่วยให้รอดนิรันดร
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
https://dondaniele.blogspot.com/
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล
ป่าพนาวัลย์
24 มีนาคม 2018
ที่มาภาพ: http://www.ncregister.com/blog/jimmy-akin/9-things-you-need-to-know-about-palm-passion-sunday1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น