แสวงบุญประเทศฟิลิปปินส์
ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016
วัดน้อยแห่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์
เซบู
ภาคเหนือ
ประเทศฟิลิปปินส์ มีชื่อที่เป็นทางการว่า “สาธารณรัฐฟิลิปินส์ (the Republic of the Philippines) เป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีเกาะต่างๆ
รวม 7,107 เกาะ แต่แบ่งออกเป็นหมู่เกาะ 3 กลุ่มใหญ่คือ หมู่เกาะลูซอน วิซายัส และมินดาเนา แบ่งการปกครองออกเป็น 18
แคว้น มี 81 จังหวัด โดยมีกรุงมะนิลาเป็นเมืองหลวง
มีพื้นที่รวมกันประมาณ 300,000 ต.ร.ม.
เล็กกว่าประเทศไทยเกือบเท่าตัวแต่มีประชากรมากกว่า ปัจจุบันมีประชากรกว่า 100
ล้านคน นับเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นต่อประชากรมากเป็นอันดับ 7
ของทวีปเอเชียและอันดับ 12 ของโลก ด้วยภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ
ทำให้ฟิลิปปินส์มีชายฝั่งทะเลรวมกันมากที่สุดในโลก
การแสวงบุญวันที่สอง (26 ม.ค. 2016)
เริ่มจากไปเยี่ยมอารามคาแมลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักเท่าใดนัก
อารามแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งน้ำพุแห่งการภาวนาสำหรับคริสตชนที่เซบูแล้ว
ยังมีความสำคัญทางเมืองในห้วงเวลาของการปฏิวัติประชาชนโค่นล้มประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ อี มาร์กอส หลังการเลือกตั้งสกปรกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996
เนื่องจากได้ให้ที่หลบซ่อนแก่นางคอราซอน อาควิโน คู่แข่งคนสำคัญที่พ่ายแพ้การเลือกตั้ง
การลุกฮือขึ้นของประชาชนโดยการสนับสนุนของพระศาสนจักรคาทอลิกครั้งนั้น
เป็นภาพที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกที่เห็นพระสงฆ์และซิสเตอร์ร่วมเดินขบวนกับประชาชน
ทำให้เครือข่ายของประธานาธิบดีมาร์กอสที่ครองอำนาจมากว่า 20 ปีถึงคราวล่มสลาย
และนางอาควิโนได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ
อารามคาร์แมลที่เคยให้ที่หลบซ่อนแก่นางคอราซอน อาควิโนช่วงปฎิบัติประชาชน ค.ศ. 1996
วัดนักบุญโทมัส
เดอ วิลลานูเอวา (Sto.
Tomas de Villanueva)
จากนั้นคณะของเราได้มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือของเซบู
โดยมีเป้าหมายที่วัดนักบุญโทมัส เดอ วิลลานูเอ ที่เมืองดาเนา (Danao)
เพื่อร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณขอพรพระเจ้าสำหรับการชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ
ครั้งที่ 51 และสำหรับชาวดาเนาที่ให้การต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น
โดยมีพระสังฆราชยอแซฟ
ปัญญา กิจเจริญ เป็นประธานในพิธี วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดที่เก่าแก่มาก
พบข้อความที่สลักบนไม้กางเขนเหนือประตูหน้าวัดว่า “1595-1995” เข้าใจว่าทำขึ้นโอกาสฉลองครบรอบ 400 ปีของการก่อตั้งชุมชนวัด
สิ่งที่น่าชมสำหรับคริสตชนฟิลิปปินส์คือความเชื่อศรัทธา
แม้จะเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแต่มีผู้คนจำนวนมากมาร่วมพิธีกับพวกเรา นอกนั้นยังให้ความเคารพระสงฆ์มาก
หลังพิธีพากันเข้ามาจับมือพระสงฆ์แตะที่หน้าผากของตนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นัยว่าเพื่อเป็นการขอพรและแสดงความเคารพ เป็นภาพที่น่ารักมาก
โดยเฉพาะกับพระสังฆราชและพระคาร์ดินัลด้วยแล้ว คิวจะยาวมาก มิใช่แต่เฉพาะที่ดาเนาเท่านั้น
แต่ทุกแห่งที่ไปจะพบเจอบรรยากาศแบบนี้
วัดนักบุญโทมัส เดอ วิลลานูเอวาเมืองดาเนา อายุเก่าแก่ 421 ปี
แม้วันนี้ฝนจะตก แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับความรักของพระเจ้า
ที่พวกเราสามารถสัมผัสได้ผ่านทางพี่น้องคริสตชนที่มาให้การต้อนรับ การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เปลี่ยนจากรถยนต์ในวันแรกเป็นมอเตอร์ไซด์เคลื่อนที่เร็วจำนวน
4 คัน วิ่งนำหน้าท่ามกลางสายฝนพร้อมให้สัญญาณไฟและสัญญาณมือ
เพื่อขอทางจากผู้ร่วมใช้ถนนให้หยุดหรือชะลอความเร็ว ทำให้พวกเราเดินทางได้เร็วขึ้น
อีกทั้งมีรถยนต์ตำรวจและรถพยาบาลคอยปิดท้ายอีก
เป้าหมายแห่งที่สองของวันนี้คือ การไปเยี่ยมชมอารามนักบวชเบเนดิกตินที่ก่อตั้งโดยนักบุญซิสเวสเตอร์
เป็นคณะนักบวชที่เดินทางมาจากประเทศอินเดียและเพิ่งก่อตั้งที่เซบูได้ไม่นาน ภายในวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมีรูปวาดพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าทรงรับทรมานด้านหลังพระแท่นให้ผู้แสวงบุญได้ขอพร
พร้อมกับบทภาวนาใต้ภาพว่า “O loving Father, Listen to the prayers
of these pilgrims whose prayer intention are surrender at your feet. Mercifully
look at their lives; fill them with you love. Let them become sensitive to the
promptings of your Spirit. Draw them close the Sacred Heart of Jesus your
beloved Son…” เป็นภาพที่เห็นแล้วมีกำลังใจและเสริมพลังสำหรับคนที่กำลังอ่อนล้าได้ดีทีเดียว
อารามนักบุญเบเนดิกตินจากอินเดียและรูปพระพักตร์พระเยซูเจ้า
วัดน้อยแห่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์
(Chapel
of the Holy Relics)
สถานที่สุดท้ายซึ่งโดดเด่นที่สุดสำหรับวันนี้คือ การเดินทางไปขอพรที่วัดน้อยแห่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ซานโฮเซ
(San Jose) ซึ่งตั้งอยู่บนเขาทาร์บอห่างจากตัวเมืองเซบูประมาณ
10 กิโลเมตร วัดน้อยแห่งนี้เป็นที่รวมของพระธาตุของนักบุญต่างๆ
และบุญราศีของพระศาสนจักรกว่า 1,300 ชิ้น ก่อตั้งขึ้นในปี
ค.ศ. 2012 โดยนักพรตคณะเอากุสติเนียน (Order of the
Discalced Augustinians) เพื่ออุทิศถวายแด่พระเจ้าสำหรับชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
ที่ได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตในโลกนี้และได้อยู่กับพระเจ้าในสวรรค์
พระธาตุนักบุญแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1)
ชั้นที่หนึ่ง ได้แก่ ชิ้นส่วนร่างกายของบรรดานักบุญ
เช่น กระดูก เลือด เนื้อ เส้นผม, 2) ชั้นที่สอง ได้แก่ ข้าวของเครื่องใช้ของบรรดานักบุญ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ ของใช้ โลงศพ
และ ชั้นที่สาม
ได้แก่ สิ่งต่างๆ ที่ได้สัมผัสกับพระธาตุชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง
พระธาตุที่มีทั้งหมดในวัดน้อยนี้ส่วนใหญ่เป็นพระธาตุชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง ที่โดดเด่นคือพระธาตุที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูเจ้า
โมเสส และประกาศกเอลียาห์ที่อยู่เหนือสุด ซึ่งเป็นก้อนหินที่นำมาจากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
รองลงมาคือพระธาตุของบรรดาอัครสาวกทั้งหมดของพระเยซูเจ้า และผู้ตั้งนักบวชคณะต่างๆ
วัดน้อยแห่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เนินเขาทาร์บอ ซึ่งมีพระธาตุนักบุญกว่า 1,300 ชิ้น
นอนนั้น
ยังมีตู้หนึ่งซึ่งเป็นที่รวมของพระธาตุของนักบุญมรณสักขีในทวีปเอเชีย มีพระธาตุของบุญราศีนิโคลาส
บุญเกิด กฤษบำรุง จากประเทศไทยด้วย แต่ยังขาดพระธาตุของบุญราศีทั้งเจ็ดแห่งสองคอน
(คงต้องเดินทางมาที่นี่อีกครั้ง) เมื่อได้ดื่มด่ำกับพระพรและการวอนขอพระพรจากพระธาตุของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์จนเต็มอิ่มแล้ว
คณะของพวกเราได้เดินทางกลับโรงแรมที่พัก
ต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรและความรักในวันที่สองของการแสวงบุญ
Don Daniele
Mango Park Hotel, Cebu
City PHILIPPINES.
January 27, 2016
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น