แสวงบุญประเทศฟิลิปปินส์
ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016
สัการสถานนักบุญเปโดร กาลุงสด ที่เมืองเซบู
เซบู
แหล่งกำเนิดคริสตศาสนา
เซบูเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางทางการค้ามาตั้งแต่อดีต
ยิ่งเมื่อตกเป็นอาณานิคมของสเปนได้กลายเป็นเมืองหลวงของอาณาณานิคมใหม่ เซบูจึงเป็นท่าสำคัญที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและความเจริญ
จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งแดนใต้ (Queen
of the South)” และ “ศูนย์รวมของการเดินทางทางพันเที่ยว (The Gateway to a thousand of journeys)” ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์
ประกอบกับการเข้ามาของสเปนได้นำคริสตศาสนาเข้ามาด้วย ได้พยายามทำให้ชาวพื้นเมืองกลับใจเป็นคริสตชน
เซบูจึงกลายเป็นจุดแรกที่ได้รับแสงสว่างแห่งพระวรสาร และเป็นแหล่งกำเนิดของคริสตศาสนาในประเทศฟิลิปปินส์
รวมถึงศูนย์กลางของคริสตศาสนาในตะวันออกไกลด้วย มีโบสถ์แก่อายุกว่า 400 ปีมากมาย
วันแรกของการแสวงบุญ (25 ม.ค. 2016) คณะของเราเดินทางสู่ชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะเซบู
เพื่อชมวัฒนธรรมและความเจริญเติบโตของดินแดนที่เป็นจุดกำเนินของคริสตศาสนาในฟิลิปปินส์
โดยไปขอพรที่ “สักการสถานนักบุญเปโดร กาลุงสด” เป็นแห่งแรก
ตั้งอยู่ในบริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าเอสเอ็ม (SM Seaside
Complex) ก่อนถึงมีลานกว้างซึ่งผู้นำทางบอกว่าเตรียมไว้สำหรับการประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ
ในพิธีปิดการชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51
นักบุญเปโดร กาลุงสด นักบุญองค์แรกของเซบู
สักการสถานนักบุญเปโดร
กาลุงสด (Pedro
Calungsod Srine)
สักการสถานแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างไม่ถึง 10
เดือน ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่โดดเด่นด้วยผนังกำแพง 109
ช่องที่มีขนาดไม่เท่ากัน เพื่อแสดงถึง “ความเป็นหนึ่งเดียวในความแตกต่าง” แม้จะมีความแตกต่างกันแต่สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เช่นเดียวกับพระศาสนจักรในสังคมปัจจุบันที่มีหลายช่องทางในการนำเราไปหาพระเจ้า
สักการสถานฯแห่งนี้ได้รับการถวายแด่พระเจ้าเมื่อวันที่ 29
พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ก่อนที่จะมีพิธีบูชาขอบพระคุณโมทนาคุณพระเจ้า
โอกาสเฉลิมฉลองการสถาปนานักบุญเปโดร กาลุงสดในวันรุ่งขึ้น (30 พ.ย. 2012) อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์หมายถึงความกระฉับกระเฉงและความมั่นคงเข้มแข็งของยุวนักบุญ
ที่ได้สละชีวิตเพื่อความเชื่อเมื่อ 400 กว่าปีก่อน
นักบุญเปโดร
กาลุงสด เป็นนักบุญองค์แรกที่เป็นชาวเซบู เป็นเด็กหนุ่มจากวิซายัสที่ทำงานรับใช้คณะเยซูอิตที่มาเรียนัส
(Marianas) ที่เกาะกวม
ในฐานะครูคำสอนและผู้ช่วยของคุณพ่อมิชชันนารี
ท่านเป็นเหมือนครูคำสอนทั่วไปที่เงียบและสุภาพ ทำงานตามหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์โดยไม่มีใครรู้จัก
ภูมิหลังและครอบครัวไม่เป็นที่รับรู้และบันทึกไว้
ชื่อของท่านปรากฏเพียงในเอกสารการเป็นมรณสักขีของ คุณพ่อดิเอโก หลุยส์
เดอ ซาน วิตอเรส (Fr. Diego Luis de San Vitores) พระสงฆ์ที่ถูกสังหารด้วยหอกและดาบพร้อมกับกาลุงสดที่มารีอานัสที่เกาะกวม
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1672 และร่างของทั้งสองท่านถูกนำไปโยนทิ้งทะเลโดยไม่มีใครพบอีกเลย
สักการสถานฯที่โดดเด่นด้วยกำแพง 109 ช่องและรูปปั้นนักบุญเปโดร กาลุงสด
ในเอกสารนั้นเน้นว่ากาลุงสดสามารถป้องกันตัวเองได้หากถืออาวุธ
แต่ท่านถูกห้ามจากคุณพ่อดิเอโกมิให้ถืออาวุธใดๆ อีกทั้ง
สามารถวิ่งหนีเอาตัวรอดได้แต่ท่านไม่ทำ กลับยอมตายพร้อมกับคุณพ่อดิเอโก ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีเมื่อวันที่
6 ตุลาคม ค.ศ. 1985 ส่วนกาลุงสดได้รับการแต่งตั้งเป็นมรณสักขีเมื่อวันที่
5 มีนาคม ค.ศ. 2000 วันเดียวกันกันกับบุญราศีนิโคลัส
บุญเกิด และได้รับการประกาศเป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2012 หลังการภาวนาหน้ารูปปั้นของนักบุญกาลุงสด พระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์
โกวิทวานิช ได้บอกว่า “วันนี้มาขอนักบุญเปโดร กาลุงสด เพื่อขอให้บุญราศีนิโคลัส
บุญเกิดได้เป็นนักบุญเช่นเดียวกับท่าน”
จากนั้นคณะของเราได้เดินทางต่อไปยังเมืองคาร์คาร์ โดยมีเป้าหมายที่วัดนักบุญกาทารีนาแห่งอเล็กซานเดรีย
วัดที่เก่าแก่เป็นลำดับที่ 4 ของเกาะเซบู ที่คาร์คาร์คณะของเราได้รับการต้อนรับด้วยการเต้นรำในแบบพื้นเมืองจากบรรดาเยาวชน
ก่อนที่มองซิญอร์โพโน (Msgr. Pono) เจ้าอาวาสจะนำพวกเราผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์เข้าชมความเก่าแก่สวยงามภายในวัด
และรับฟังประวัติความเป็นมาของวัดจากนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชื่อเจอรี่ มาร์ติน (Jerry
Martin Noel Alfafara) ที่บอกให้เราทราบว่าวัดแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ถึง
416 ปี ถือเป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ และคณะของเราได้ร่วมถวายพิธีบูชาขอบพระคุณ
ณ วัดแห่งนี้โดย พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวานิช
วัดนักบุญกาทารีนาแห่งอเล็กซานเดรียที่เมืองคาร์คาร์ วัดที่เก่าแก่ลำดับที่ 4 ของเซบู
วัดแม่พระแห่งลินโดกอน(Our Lady of Lindogon Church)
อีกวัดหนึ่งที่คณะของเราได้ไปแสวงบุญคือวัดแม่พระแห่งลินโดกอนที่เมืองสิมาลา(Simala)
ที่ตั้งอยู่บนภูเขาในความดูแลของนักพรตคณะแม่พระแห่งความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท
(Marian Monks of Eucharistic Adoration) ซึ่งวัดแห่งนี้สร้างได้อย่างยิ่งใหญ่และวิจิตรบรรจงทั้งภายนอกและภายใน
มีสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างกำลังก่อสร้างซึ่งแสดงถึงแรงศรัทธา คำภาวนามากมายของผู้คนที่หลั่งไหลมาที่นี่
ภายในมีตู้เก็บรถเข็น ไม้ค้ำยัน
ป้ายขอบคุณที่แสดงถึงการได้รับพระพรที่น่าอัศจรรย์จากแม่พระ
มีตู้เก็บพระรูปแม่พระที่สวมอาภรณ์สวยงามเป็นจำนวนมาก รูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
รวมถึงตู้เก็บอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบันที่ผู้จาริกแสวงบุญได้ทำบุญถวาย
ไม่น่าเชื่อว่าความเป็นมาของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง
ในปี ค.ศ. 1996 นักพรตแห่งแม่พระโดยการนำของภารดามาเรีย
มาร์ติน(Fra. Maria Martin) ได้เดินทางจากปัมปังกา(Pampanga)
มาเซบูโดยการนำของพระจิตเจ้าเพื่อก่อตั้งอารามสำหรับการดำเนินชีวิตภาวนา
ด้วยความช่วยเหลือของคาร์ดินัลริคาร์โด เจ บิดัล ที่อนุญาตให้ไปหาที่ดินบนภูเขาเหนือเมืองคาร์คาร์ทางภายใต้ของเกาะเซบู
เนื่องจากผู้คนที่นั่นกำลังกระหายและแสวงหาหมู่คณะนักบวช
วัดแม่พระแห่งลินโดกอนที่ภูเขาที่เมืองสิมาลา
คณะนักบวชกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในช่วงปีแรก
เพราะการขาดน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้และสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพ
ถึงขนาดต้องลงไปขอทานจากผู้คนในตลาด ต้องถูกเยาะเย้ย ถากถางสบประมาทสารพัด ทำให้พวกเขายิ่งต้องภาวนามากขึ้น
ใช้โทษบาปหนักขึ้น และทำงานอย่างหนักในการปลูกพืชผักผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี
ค.ศ. 1998 ต้องเผชิญกับไข้มาลาเรียทำให้ชาวบ้านหลายคนเสียชีวิต
แต่สิ่งที่นักบวชคณะนี้ทำคือการสวดสายประคำเพื่อขับไล่ยุง
ไม่กี่วันต่อมาความศรัทธานี้ได้ขจัดยุงให้หมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ นี่เป็นการเริ่มต้นของปรากฏการณ์ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งลินโดกอน
ที่ผู้คนเริ่มมาขอคำภาวนาและขอความช่วยเหลือต่อแม่พระ ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการแสวงบุญ
และเกิดสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่สวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
และสถานที่สุดท้ายที่คณะของเราไปแสวงบุญคือ
วัดอัครเทวดามีคาแอล (St. Michael the Archangel Church) ที่เมืองการ์เกา
(Argao) ถือเป็นวัดที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง เพดานทำด้วยไม้เนื้อแข็งมีภาพเขียนเหตุการณ์ในพระคัมภีร์
ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สวยงาม รวมถึงพระแท่นไม้เนื้อแข็งดั้งเดิมที่ยังคงเก็บรักษาไว้
และชั้นไม้สำหรับเทศน์สอน ประกาศข่าวดีของพระเจ้า ก่อนจะไปเยี่ยมชมสำนักงานเทศบาลซึ่งทำด้วยไม้ผนังถือปูนอายุเก่าแก่ไม่ยิ่งหย่อนกว่าวัดเท่าใดนัก
และชมการแสดงต้อนรับของชาวเมืองอาร์เกา ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมที่พัก
Don Daniele
Mango Park Hotel, Cebu
City PHILIPPINES.
January 26, 2016
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น