วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

ดูงานญี่ปุ่น 2



ศึกษาและดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น (ต่อ)
ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทำให้คืนแรก ณ แดนปลาดิบที่ทากาซากิผ่านไปอย่างรวดเร็ว แบบที่เรียกว่าหลับรวดเดียวยันเช้า แม้แสงแดดยามเช้าของดินแดนอาทิตย์อุทัยจะน่าอภิรมย์ แต่ด้วยสภาพอากาศ 1 องศาทำให้ออกไปสูดอากาศได้ไม่นานต้องรีบกลับเข้าที่พัก รอจนกระทั่งได้เวลานัดหมายจึงออกเดินทางไปเยี่ยมชมห้องประชุมสภาเมือง ณ อาคารที่ทำการเทศมนตรีเมืองทากาซากิ ชมทิวทัศน์ของเมืองโดยรอบจากชั้นบนสุดของอาคาร จากนั้นได้เข้าเยี่ยมคาราวะท่านนายกเทศมนตรี


ท่านนายกเทศมนตรีได้ให้การต้อนรับคณะของพวกเราอย่างอบอุ่นและประทับใจ โดยจัดพิมพ์เอกสารแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของเมืองทากาซากิเป็นภาษาไทย เรียกได้ว่าจัดทำเพื่อเป็นการต้อนรับพวกเราเป็นการเฉพาะ อีกทั้งยังได้กรุณามอบตุ๊กตา “ดารุมะ” เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งอธิบายว่าตุ๊กตานี้เป็นตุ๊กตานำโชค ต้นแบบเป็นตุ๊กตาล้มลุก เพื่อเตือนเราว่าชีวิตของเราแม้จะหกล้มกี่ครั้ง ต้องลุกขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง


จากนั้นได้เดินทางศึกษาดูงาน ณ สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นในเครือของ NIPPON  ACADEMY GROUP ที่เมืองไมบาชิ ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสถาบันที่เปิดสอนวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพื่อจะได้เรียนรู้และซึมซับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นแบบถึงรากเหง้า ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันแบบ “เบนโต๊ะ” ร่วมกับผู้บริหารสถาบัน ณ โรงแรมกุนมะโรยัล ซึ่งผู้บริหารสถาบันเป็นเจ้าของ


2.   การเรียนการสอนที่ญี่ปุ่น
การเรียนการสอนในประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบ 6-3-3 เหมือนอย่างประเทศไทยคือ ประถมศึกษา 6 ปี มัธยมต้น 3 ปี และมัธยมปลาย 3 ปี ตามลำดับ แต่ไม่ได้เรียนเอาเป็นเอาตายเหมือนอย่างเรา โดยจัดการเรียนการสอนใน 3 ลักษณะคือ เรียน กีฬา และท่องเที่ยว เรียนคาบละ 50 นาที พัก 10 นาที อีกทั้งปลูกฝังความมีวินัยให้คนในชาติตั้งแต่เวลาเป็นเด็กที่โรงเรียน


เด็กชั้นประถม 1-6 ส่วนใหญ่มักจะเดินไปโรงเรียน โดยมีการรวมตัวกันตามจุดต่างๆ เดินแถวไปโรงเรียน โดยจะมี ซิลเวอร์ซัง ซึ่งเป็นผู้สูงอายุในชุมชนที่เกษียณอายุแล้ว จะมาคอยทำหน้าที่ดูแลและรักษาความปลอดภัยให้เด็กนักเรียน ทั้งขาไปและขากลับ เด็กจะใส่หมวกสีเหลืองที่เห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและสังเกตได้ง่าย


เด็กนักเรียนจะไม่พกเงินไปโรงเรียน เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้เพราะที่โรงเรียนไม่มีร้านขายของ ทุกเช้าก่อนเริ่มเรียนจะมีการตรวจเช็คว่า นักเรียนพกผ้าเช็ดหน้าและกระดาษทิชชูมาหรือไม่ เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัย หากใครลืมจะถูกหักคะแนนและมีผ้าเช็ดหน้าสำรองให้ยืม พร้อมทั้งซักถามว่ามีใครไม่สบายหรือไม่ ถ้ามีต้องใช้ผ้าปิดปาก ดูแลตัวเอง ไม่ให้แพร่ไปยังเพื่อน


กล่าวโดยสรุป การเรียนการสอนที่ประเทศญี่ปุ่น
1)           จะเน้นการเรียนนอกห้องเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีประสบการณ์
2)           ในการเรียนภาษาญี่ปุ่น เด็กจะลุกขึ้นอ่านคนละประโยคเอง ไม่มีการชี้หรือบังคับ
3)           การเรียนจะปล่อยให้เด็กได้ทำอะไรได้อย่างอิสระ เรียนด้วยความสุข และสนุกสนาน
4)           ครูจะไม่ดุหรือต่อว่านักเรียนที่คุยกันในห้องเรียน เด็กจะมีความตั้งใจเรียน แข่งขันกันอย่างเต็มที่ เด็กที่ตอบคำถามได้จะได้ติดป้ายชื่อบนกระดาน
5)           โรงเรียนจะจัดให้มีการสอนวิชาดนตรี เพราะดนตรีทำให้เด็กมีจิตใจที่อ่อนโยน
6)           ครูจะให้เด็กเป็นคนคิดเองว่าจะต้องทำอะไร ตัดสินใจเองได้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำอย่างไร

นอกจากนั้นยังได้เดินทางไปเบียดคุอิ ไดคันนง เพื่อเยี่ยมชมวัดและเจ้าแม่กวนอิมแห่งเมืองทากาซากิ ซึ่งเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 41.8 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 5,985 ตัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479) เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับทหารที่ตายในสงคราม เมื่อแรกสร้างเสร็จนั้นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ ถือเป็นรูปปั้นที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จากนั้นได้ไปเยี่ยมชมและชิมลูกสตรอบอรี่สดๆ จากไร่ ซึ่งเป็นที่ถูกใจสมาชิกในคณะทุกคน ก่อนจะให้ทุกคนได้จับจ่ายซื้อของ อันเป็นการสิ้นสุดภารกิจของวันนี้ (13 มกราคม 2015)
Don Daniele ภาพ/รายงาน
Takasaki, JAPAN
13 มกราคม 2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น