วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

พระตรีเอกภาพ



พระตรีเอกภาพ
วันอาทิตย์
สมโภชพระตรีเอกภาพ
ปี C
สภษ 8:22-31
รม 5:1-5
ยน 16:12-15
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งขณะที่นักบุญเอากุสตินซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร กำลังพยายามหาคำจำกัดความหรือคำอธิบายที่ชัดแจ้งเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพ ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อความเชื่อที่ว่า “สามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว” แม้จะพยายามครุ่นคิดครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ยังหาคำจำกัดความที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้
นักบุญเอากุสตินเลยพักสมองด้วยการไปเดินเล่นที่ชายทะเล และได้สังเกตเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังทำหลุมเล็กๆ บนพื้นทราย ท่านนักบุญเฝ้าดูต่อไปก็เห็นเด็กคนนั้นเอาเปลือกหอยไปตักน้ำทะเลมาเทใส่หลุมนั้น เนื่องจากเป็นหลุมทรายน้ำทะเลจึงซึมหายไปอย่างรวดเร็ว แต่เด็กคนนั้นไม่ละความพยายามไปตักน้ำทะเลมาเทใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ที่สุด นักบุญเอากุสตินจึงถามเด็กนั้นว่า “ทำไมถึงทำอย่างนั้นละ” เด็กคนนั้นตอบว่า “ผมจะเอาน้ำทะเลทั้งหมดมาใส่ในหลุมนี้” นักบุญเอากุสตินหัวเราะด้วยความเอ็นดู พร้อมกับอธิบายว่า “เด็กโง่เอ๋ย เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเอาน้ำทะเลซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมาใส่ในหลุมเล็กๆ นี้ได้หมด” เด็กคนนั้นจึงย้อนคืนว่า “คงเหมือนกันกับท่านที่ไม่มีทางที่หาคำจำกัดความเรื่องพระตรีเอกภาพที่ยิ่งใหญ่สูงสุด ด้วยสมองเพียงน้อยนิดของท่าน” ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นักบุญเอากุสตินจึงเลิกที่จะหาคำจำกัดความเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
1.      ความเป็นหนึ่งเดียวของพระเจ้า
เรามักจะคิดว่าพระเจ้าทรงอยู่ตามลำพัง ในสถานที่อยู่สูงเหนือโลกของเรา ซึ่งไกลออกไปในที่ซึ่งไม่มีใครรู้จัก แต่เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกเราถึงรู้ว่า พระเจ้าไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเราหรืออยู่ตามลำพัง แต่มีสามพระบุคคล และทั้งสามพระบุคคลเป็นหนึ่งเดียวกัน พระเจ้าพระบิดาทรงรักพระบุตร (พระวจนาตถ์) ความกลมเกลียวกันระหว่างพระบิดาและพระบุตรคือที่มาของพระบุคคลที่ 3 คือพระจิตเจ้า
สามพระบุคคลในพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต รวมเป็นหนึ่งเดียวในความรัก ซึ่งมีความประสานกลมกลืนและสอดคล้องกันทั้งในเรื่องน้ำใจอิสระและเจตจำนง ความรักของพระเจ้าแสดงออกให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งในการสร้าง รวมถึงเรามนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งสร้างที่ประเสริฐที่สุด และเรามีส่วนในความรักที่สมบูรณ์ของพระเจ้า การสมโภชพระตรีเอกภาพจึงเตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักที่สูงส่งของพระเจ้าต่อเรา ผ่านทางความรักนี้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตนเองกลายเป็นทายาทในอาณาจักรของพระเจ้า
เอกภาพและความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกันของทั้งสามพระบุคคล เราจะเข้าใจความจริงนี้ได้โดยอาศัยพระจิตเจ้า ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า เมื่อพระจิตเจ้าแห่งความจริงจะเสด็จมา พระองค์จะทรงนำพวกท่านไปสู่ความจริงทั้งมวลพระวรสารวันนี้จึงทำให้เราเห็นถึงความจริงแห่ง พระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตร และพระจิต เพราะการเปิดเผยของพระเยซูเจ้าอย่างชัดเจน
2.      ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพได้รับการไขแสดงผ่านทางพระเยซูเจ้า ที่เปิดเผยให้เราทราบว่า พระบิดาเจ้าคือพ่อที่ใจดีที่รักและให้อภัยลูกเสมอ ดั่งคำอุปมาเรื่องลูกล้างผลาญที่เราได้ยินบ่อยครั้งในพระวรสาร หรือในบทภาวนาถึงพระบิดาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาอัครสาวกให้เรียกพระเจ้าเป็น “บิดา” (Abba) ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ในหมู่ชาวยิว ที่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยนามพระเจ้า คำว่า “Abba” ในภาษาฮีบรู เป็นคำที่ธรรมดาที่สุดที่ชาวยิวใช้เรียกพ่อ
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ สามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากด้วยสติปัญญา (ด้วยสมอง) แต่เราสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยหัวใจเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน เวลาที่เรารักกันพระเจ้าจะประทับอยู่กับเราและเราจะอยู่ในพระเจ้า สายสัมพันธ์แห่งความรักได้รวมพระบิดา พระบุตร และพระจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกันในพระตรีเอกภาพ  อีกทั้งรวมมนุษย์เราให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์และกับเพื่อนพี่น้อง
นี่คือ ความเชื่อและประสบการณ์ของพระศาสนจักรทุกยุคทุกสมัย เป็นความเชื่อที่หยั่งรากลึกในพระเจ้า พระบิดา พระบุตรและพระจิตเสมอมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นประสบการณ์ของบรรดาคริสตชนและนักบุญทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้า พระตรีเอกภาพ และพยายามเจริญชีวิตแบบพระตรีเอกภาพ คือชีวิตแห่งความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน
เราคริสตชนประกาศเสมอมาในการภาวนาถึงพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต ด้วยการทำสำคัญมหากางเขนที่หน้าผาก ที่อก และที่ไหล่ทั้งสองข้าง เราออกนามพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต ให้มาประทับอยู่กับเราและอวยพรเรา เป็นการประกาศให้ทุกคนได้รับทราบว่า “เราเป็นคริสตชน” อีกทั้ง เป็นการยืนยันว่า เราเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล และดำเนินชีวิตในพระนามของพระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
บทสรุป
พี่น้องที่รัก นี่คือความเชื่อและความหวังของเรา เหนือสิ่งอื่นใด พระเจ้าเที่ยงแท้ที่เราเชื่อศรัทธา และมีพลังต่อชีวิตของเรามากที่สุดนี้เป็นพระเจ้าสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิต เป็นพระเจ้าแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวแท้จริง ไม่มีการแบ่งแยก แต่เท่าเสมอกัน และสมบูรณ์ครบครันในความเป็นหนึ่งเดียวกัน นับเป็นข้อความเชื่อที่ลึกซึ้ง ซึ่งเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เมื่อเราอยู่ต่อหน้าพระเจ้า และเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน ทั้งกับพระเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์
ชีวิตของเรากับพระเจ้า จึงควรเป็นชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ ศรัทธา และเชื่อมั่นในพระเจ้าเที่ยงแท้ และมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างแน่นแฟ้นที่สุด จนกล่าวได้ว่า พระเจ้าทรงเป็นที่หนึ่งและสำคัญที่สุดในชีวิตเรา” พระองค์คือพระเจ้าที่เราเชื่อ รัก และวางใจมากที่สุด ไม่มีสิ่งใดในโลกจะเปรียบกับพระเจ้าสำหรับเราได้เลย ชีวิตของเราคือชีวิตของพระเจ้านั่นเอง
ชีวิตของเรากับเพื่อนมนุษย์ จึงควรต้องเป็นชีวิตแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว มีความเชื่อและความไว้ใจกัน ที่แสดงออกในความรัก ความเมตตา และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน เป็นชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ รักเสมอ และให้อภัยเสมอ โดยเริ่มจากความเป็นหนึ่งเดียวกันในครอบครัว หมู่บ้าน และสังคมของเรา นี่คือ การเป็นพยานถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในชีวิตพระตรีเอกภาพ ที่เราสมโภชในวันนี้
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
29 พฤษภาคม 2010
ดูเพิ่มเติม
พระตรีเอกภาพ พระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล ปี A: http://dondaniele.blogspot.com/2011/06/blog-post_17.html
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ ปี B: http://dondaniele.blogspot.com/2012/06/blog-post.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น