วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา



 การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
ปี C
กจ 15: 1-2, 22-29
 วว 21: 10-14, 22-23
ยน 14: 23-29
บทนำ
 นักบุญฟรังซิส อัสซีซี เป็นผู้ที่ร้อนรนในการสนับสนุนคำสอนเรื่องการประทับอยู่ของพระเจ้าในเรามนุษย์ ทำให้ท่านรักทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม วันหนึ่งท่านได้พบกับคนที่ไม่เชื่อและไม่รักพระเจ้า ขณะที่ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน ได้พบกับชายขอทานตาบอดและเป็นอัมพาตคนหนึ่ง ท่านได้ถามชายตาพิการคนนั้นว่า “หากฉันทำให้ท่านสามารถมองเห็นได้และหายจากอัมพาต ท่านจะรักฉันไหม”
ชายขอทานตอบทันทีว่า “ผมไม่เพียงรักท่านเท่านั้น แต่จะขอเป็นทาสรับใช้ท่านจนตลอดชีวิตของผมนักบุญฟรังซิส ได้กล่าวกับชายที่ไม่เชื่อและไม่รักพระเจ้าว่า “ดูซิ ชายตาบอดคนนี้ยังรู้จักรักฉัน หากฉันทำให้เขามองเห็นและมีสุขภาพดี ทำไมท่านถึงไม่รักพระเจ้าที่สร้างท่านมาให้มีตาดีและสุขภาพแข็งแรง”
นี่คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าบอกเราในพระวรสารวันนี้ หากเรารักพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ พระองค์จะประทับอยู่กับเราพร้อมกับพระบิดาและพระจิต ทำให้เรากลายเป็นที่ประทับของพระเจ้าสามพระบุคคล บทอ่านวันนี้แสดงให้เราได้เห็นถึง ผลแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้าในพระศาสนจักรของพระองค์ และการประทับอยู่ของพระองค์ในตัวเราแต่ละคน
1.      การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา
พระวรสารของนักบุญยอห์นวันนี้ เป็นตอนที่ต่อเนื่องจากคำสั่งสอนสุดท้ายหลังการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย โดยอธิบายถึงข้อคำสอนเรื่องการประทับอยู่ของพระตรีเอกภาพในใจมนุษย์ และบทบาทของพระจิตเจ้าในชีวิตประจำวันของเรา พระเยซูเจ้าได้บอกกับเราว่ามีสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เราเชื่อวางใจในการประทับอยู่ของพระเจ้า นั่นคือ พระเจ้าทรงพำนักอยู่ในใจเราอย่างใกล้ชิดและลึกซึ้ง เพื่อทำให้เรากลายเป็นที่ประทับของพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่าเงื่อนไขแห่งการประทับอยู่ของพระตรีเอกภาพในเราคือ การที่เราแสดงความรักของเราต่อพระเจ้าและปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ซึ่งพระจิตเจ้าจะช่วยเราให้สามารถปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ได้ง่ายขึ้น โดยทรงยืนยันกับบรรดาศิษย์ว่าแม้พวกเขาจะไม่เห็นพระองค์อีกต่อไปแล้ว แต่พระองค์จะทรงอยู่กับพวกเขาผ่านทางพระจิตเจ้า ที่จะสอนและช่วยพวกเขาให้เข้าใจถึงสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอน
พระเยซูเจ้าได้มอบของประทาน 4 ประการแก่ผู้ที่ติดตามพระองค์: 1) พระองค์ประทานความรักของพระองค์แก่เรา เพื่อช่วยเราให้สามารถปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์, 2) พระองค์ประทานพระจิตเจ้าแก่เรา เพื่อสอนเราทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ อีกทั้งช่วยเราให้สามารถเลียนแบบพระคริสตเจ้าผู้เป็นอาจารย์, 3) พระองค์ประทานสันติสุขแก่เรา เพื่อทำให้เราเข้มแข็งโดยปราศจากความกลัวในเวลาที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก และ 4) พระองค์จะประทานรางวัลแก่เราในการเสด็จมาครั้งสุดท้าย
2.      บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวันสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา ในการดำเนินชีวิตแต่ละวันเราต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่แน่นอน ความขัดแย้งและการผจญในรูปแบบต่างๆ การประทับอยู่ของพระเจ้าในตัวเราช่วยเราให้สามารถเผชิญกับทุกสถานการณ์ในชีวิต โดยไม่สิ้นหวังและด้วยความกล้าหาญเยี่ยงคริสตชน
ประการที่สอง เราต้องหมั่นภาวนาและฟังเสียงของพระจิตเจ้า เราต้องให้เวลาในแต่ละวันสำหรับการภาวนา การสนทนากับพระเจ้าและฟังเสียงของพระองค์ เพื่อเราจะได้มีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระองค์และรักพระองค์ด้วยจริงใจ อีกทั้งฟังเสียงของพระจิตเจ้าที่ตรัสกับเราในลักษณะต่างๆ เพื่อเราจะได้รู้ถึงแผนการและความช่วยเหลือของพระองค์ ในอันที่จะช่วยเราให้สามารถรักเพื่อนพี่น้องและมีสันติสุขในจิตใจ
ประการที่สาม เราไม่ได้อยู่ตามลำพัง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในสังคมปัจจุบันคือ ความรู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง แต่ละคนต่างดำเนินชีวิตเหมือนคนแปลกหน้าต่อกัน พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางเราตลอดเวลา ทรงแบ่งปันความยินดีของพระองค์กับเราและเปลี่ยนภาระที่หนักอึ้งเพราะบาปในใจเราด้วยการให้อภัย เราต้องให้พระองค์นำทางชีวิตของเราเพื่อเราจะสามารถขจัดความรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งให้หมดสิ้นไป
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ผู้ที่มีความเชื่อที่แท้จริงคือผู้ที่เจริญชีวิตปฏิบัติตามพระวาจาด้วยใจรัก “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขา” (ยน 14: 23) มิใช่เราขึ้นไปพบพระเจ้าในสวรรค์ แต่เป็นพระเจ้าทั้งสามพระบุคคลเสด็จมาประทับอยู่กับเรา ใครที่ดำเนินชีวิตในความรักได้สัมผัสถึงความจริงนี้ และได้อยู่กับพระเจ้าแล้ว
พระเจ้าทรงรักเราด้วยความรักนิรันดร เพื่อจะเป็นบุตรที่ดีของพระเจ้า เราต้องดำรงอยู่ในความรักนี้ พระเยซูเจ้าทรงสั่งเราให้ปฏิบัติตามบัญญัติแห่งความรัก เหมือนที่พระองค์ทรงปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า และเลียนแบบอย่างของพระองค์ในความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัวและยอมมอบชีวิตเพื่อทุกคน โดยเริ่มจากในครอบครัว หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
04 พฤษภาคม 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น