วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ


ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ

วันอาทิตย์
สมโภชพระตรีเอกภาพ
ปี B
ฉธบ 4:32-34, 39-40
รม 8:14-17
มธ 28:16-20

บทนำ

การสมโภชพระตรีเอกภาพในวันนี้ เชื้อเชิญเราให้เจริญชีวิตด้วยการตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตรและพระจิตในตัวเรา “ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ” เป็นข้อความเชื่อที่ได้รับการประกาศโดยสังคายนาสากลแห่งนิเชอา (Nicaea: 325) และคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople: 381) ถือเป็นข้อความเชื่อพื้นฐานและสำคัญที่สุดของคริสต์ศาสนา นั่นคือ “มีพระเจ้าหนึ่งเดียว แต่มีสามพระบุคคลคือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต ทั้งสามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว” (C.C.C. 234, 253-256)

เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความเชื่อที่ว่า “พระเจ้าสามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว” นักบุญซีรีล อาจารย์ชาวสลาฟได้พยายามที่จะอธิบายธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอภาพโดยใช้ภาพของดวงอาทิตย์ “พระเจ้าพระบิดาเป็นเหมือนกับเปลวเพลิง พระบุตรเป็นความสว่าง และพระจิตเป็นความร้อน แต่มีเพียงดวงอาทิตย์ดวงเดียว เช่นเดียวกับพระเจ้าสามพระบุคคลในพระตรีเอกภาพที่เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวและไม่สมารถแยกจากกันได้”

นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ มักจะอธิบายเรื่องพระตรีเอกภาพโดยใช้ “เปลวเทียน ดอกกุหลาบและน้ำ” เปลวเทียนประกอบด้วยสี ความร้อนและสัณฐาน นี่คือรูปลักษณ์ที่ปรากฏของเปลวเทียน เช่นเดียวกับดอกกุหลาบที่มีสีสัน กลิ่นหอมและรูปทรง นี่คือความเป็นจริงของดอกกุหลาบ หรือน้ำ ที่เป็นได้ทั้งของเหลว น้ำแข็งและไอน้ำ เป็นความเป็นจริงที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าหนึ่งเดียวที่เปิดเผยพระองค์ให้เราทราบในฐานะพระบิดา พระบุตรและพระจิต

โดยทั่วไปเรามักจะเข้าใจพระบิดาเจ้าในฐานะพระผู้สร้าง พระบุตรในฐานะพระผู้ไถ่ และพระจิตในฐานะผู้ให้คำแนะนำและทำให้ศักดิ์สิทธิ์ แต่ทั้งสามพระบุคคลเป็นพระเจ้าที่เท่าเสมอกัน แตกต่างกันและแยกจากกันมิได้ บทภาวนาทางการของพระศาสนจักร รวมถึงพิธีบูชาขอบพระคุณและศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เริ่มต้นด้วยการออกนามพระตรีเอกภาพ เราเริ่มต้นด้วยการทำสำคัญมหากางเขน “เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตรและพระจิต” เพื่อขอให้พระองค์อวยพรเราและกิจการที่เรากำลังจะทำ เราได้รับศีลล้างบาป ได้รับการอภัยบาปและการเจิมในพระนามของพระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตรและพระจิต

1.           ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ

ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ ถือเป็นรูปแบบความเชื่อที่เก่าแก่ที่สุดของพระศาสนจักรซึ่งพบใน “บทข้าพเจ้าเชื่อ” สัญลักษณ์ของอัครสาวก ที่ได้ใช้ในการสอนคำสอนผู้สมัครเป็นคริสตชน และในการยืนยันความเชื่อเวลาล้างบาปตั้งแต่ศตวรรษที่สองเป็นต้นมา ต่อมาภายหลัง บทข้าพเจ้าเชื่อนี้ได้รับการประกาศรับรองโดยสังคายนาสากลแห่งนีเชอาและคอนสแตนติโนเปิล

พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์ให้แก่เราในหน้าที่ที่แตกต่างกันสามประการ  ในฐานะพระบิดา พระเจ้าทรงสร้างจักรวาลและสิ่งมีชีวิต รวมถึงเรามนุษย์แต่ละคน ในฐานะพระบุตร พระเยซูเจ้าทรงทำให้เราเข้าใจว่า พระเจ้าทรงฟังเรา เอาใจใส่เรา รักเรา ทรมานและตายเพื่อเราบนไม้กางเขน ในฐานะพระจิต พระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราและภายในตัวเรา เพื่อทำให้เราศักดิ์สิทธิ์และเกิดผลอย่างอุดม

ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพได้รับการไขแสดงผ่านทางพระเยซูเจ้า ที่เปิดเผยให้เราทราบว่า พระบิดาเจ้าคือ พ่อที่ใจดีที่รักและให้อภัยลูกเสมอ ดั่งคำอุปมาเรื่องลูกล้างผลาญที่เราได้ยินบ่อยครั้งในพระวรสาร หรือในบทภาวนาถึงพระบิดาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาอัครสาวกให้เรียกพระเจ้าเป็น “บิดา” (Abba) ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ในหมู่ชาวยิวที่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยนามพระเจ้า พระองค์ทรงยืนยันกับบรรดาศิษย์ว่า พระองค์กับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน “ผู้ที่เห็นเราก็เห็นพระบิดาด้วย” (ยน 14:9) อีกทั้ง ได้สั่งบรรดาศิษย์และเราแต่ละคนให้ไปสั่งสอนนานาชาติ โปรดศีลล้างบาปในนามของ พระบิดา พระบุตรและพระจิต (มธ 28:19)

2.           บทเรียนสำหรับเรา

ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพที่เราสมโภชและพระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติ

ประการแรก เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในตัวเราและผู้อื่น ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ สามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากด้วยสติปัญญา (ด้วยสมอง) แต่เราสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยหัวใจเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน เวลาที่เรารักกันพระเจ้าจะประทับอยู่กับเราและเราจะอยู่ในพระเจ้า สายสัมพันธ์แห่งความรักได้รวมพระบิดา พระบุตร และพระจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกันในพระตรีเอกภาพ  อีกทั้งรวมมนุษย์เราให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์และกับเพื่อนพี่น้อง

ประการที่สอง เราต้องดำเนินชีวิตแบบพระตรีเอกภาพ เป็นประสบการณ์ของบรรดาคริสตชนและนักบุญทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้า พระตรีเอกภาพ และพยายามเจริญชีวิตแบบพระตรีเอกภาพ คือชีวิตแห่งความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน เป็นต้นในครอบครัว หมู่คณะและสังคมของเรา ที่จะต้องมีความรักและความเป็นน้ำหนึ่งหนึ่งใจเดียวกันเสมอ เหมือนอย่างพระบิดา พระบุตรและพระจิต ที่ทรงมีความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น

ประการที่สาม เราต้องประกาศพระนามของพระตรีเอกภาพ เราคริสตชนประกาศเสมอมาในการภาวนาถึงพระเจ้า พระบิดา พระบุตรและพระจิต ด้วยการทำสำคัญมหากางเขนที่หน้าผาก หน้าอกและไหล่ทั้งสองข้าง เราออกนามพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต ให้มาประทับอยู่กับเราและอวยพรเรา เป็นการประกาศให้ทุกคนได้รับทราบว่า “เราเป็นคริสตชน” อีกทั้ง เป็นการยืนยันว่า เราเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล และดำเนินชีวิตในพระนามของพระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตร และพระจิต

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ คือความเชื่อและความหวังของเรา พระเจ้าเที่ยงแท้ที่เราเชื่อศรัทธาและมีพลังต่อชีวิตของเรามากที่สุดคือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต เป็นพระเจ้าแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวแท้จริง ไม่มีการแบ่งแยก แต่เท่าเสมอกัน และสมบูรณ์ครบครันในความเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่เป็นข้อความเชื่อที่ลึกซึ้งซึ่งเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เมื่อเราอยู่ต่อหน้าพระเจ้า และเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน ทั้งกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

ชีวิตของเรากับพระเจ้า จึงควรเป็นชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ ศรัทธาและเชื่อมั่นในพระเจ้าเที่ยงแท้ มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างแน่นแฟ้น จนกล่าวได้ว่า พระเจ้าทรงเป็นที่หนึ่งและสำคัญที่สุดในชีวิตเรา” พระองค์คือพระเจ้าที่เราเชื่อ รักและวางใจมากที่สุด ไม่มีสิ่งใดในโลกจะเปรียบกับพระเจ้าสำหรับเราได้เลย ชีวิตของเราคือชีวิตของพระเจ้านั่นเอง

ชีวิตของเรากับเพื่อนมนุษย์ จึงควรต้องเป็นชีวิตแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว มีความเชื่อและความไว้ใจกัน ที่แสดงออกในความรัก ความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน เป็นชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ รักเสมอและให้อภัยเสมอ โดยเริ่มจากในครอบครัว หมู่คณะและสังคมของเรา นี่คือ การเป็นพยานถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในชีวิตพระตรีเอกภาพ ที่เราสมโภชในวันนี้

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
01 มิถุนายน 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น