ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
วันอาทิตย์
สมโภชพระตรีเอกภาพ
ปี B
|
ฉธบ
4:32-34, 39-40
รม 8:14-17
มธ
28:16-20
|
บทนำ
การสมโภชพระตรีเอกภาพในวันนี้
เชื้อเชิญเราให้เจริญชีวิตด้วยการตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าสามพระบุคคล พระบิดา
พระบุตรและพระจิตในตัวเรา “ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ” เป็นข้อความเชื่อที่ได้รับการประกาศโดยสังคายนาสากลแห่งนิเชอา (Nicaea: 325) และคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople:
381) ถือเป็นข้อความเชื่อพื้นฐานและสำคัญที่สุดของคริสต์ศาสนา
นั่นคือ “มีพระเจ้าหนึ่งเดียว แต่มีสามพระบุคคลคือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต ทั้งสามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว”
(C.C.C.
234, 253-256)
เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความเชื่อที่ว่า “พระเจ้าสามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว”
นักบุญซีรีล อาจารย์ชาวสลาฟได้พยายามที่จะอธิบายธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอภาพโดยใช้ภาพของดวงอาทิตย์
“พระเจ้าพระบิดาเป็นเหมือนกับเปลวเพลิง พระบุตรเป็นความสว่าง
และพระจิตเป็นความร้อน แต่มีเพียงดวงอาทิตย์ดวงเดียว เช่นเดียวกับพระเจ้าสามพระบุคคลในพระตรีเอกภาพที่เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวและไม่สมารถแยกจากกันได้”
นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ มักจะอธิบายเรื่องพระตรีเอกภาพโดยใช้
“เปลวเทียน ดอกกุหลาบและน้ำ” เปลวเทียนประกอบด้วยสี ความร้อนและสัณฐาน
นี่คือรูปลักษณ์ที่ปรากฏของเปลวเทียน เช่นเดียวกับดอกกุหลาบที่มีสีสัน
กลิ่นหอมและรูปทรง นี่คือความเป็นจริงของดอกกุหลาบ หรือน้ำ ที่เป็นได้ทั้งของเหลว
น้ำแข็งและไอน้ำ เป็นความเป็นจริงที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าหนึ่งเดียวที่เปิดเผยพระองค์ให้เราทราบในฐานะพระบิดา
พระบุตรและพระจิต
โดยทั่วไปเรามักจะเข้าใจพระบิดาเจ้าในฐานะพระผู้สร้าง พระบุตรในฐานะพระผู้ไถ่ และพระจิตในฐานะผู้ให้คำแนะนำและทำให้ศักดิ์สิทธิ์
แต่ทั้งสามพระบุคคลเป็นพระเจ้าที่เท่าเสมอกัน แตกต่างกันและแยกจากกันมิได้ บทภาวนาทางการของพระศาสนจักร
รวมถึงพิธีบูชาขอบพระคุณและศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เริ่มต้นด้วยการออกนามพระตรีเอกภาพ
เราเริ่มต้นด้วยการทำสำคัญมหากางเขน “เดชะพระนาม พระบิดา
พระบุตรและพระจิต” เพื่อขอให้พระองค์อวยพรเราและกิจการที่เรากำลังจะทำ เราได้รับศีลล้างบาป
ได้รับการอภัยบาปและการเจิมในพระนามของพระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตรและพระจิต
1.
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
ถือเป็นรูปแบบความเชื่อที่เก่าแก่ที่สุดของพระศาสนจักรซึ่งพบใน “บทข้าพเจ้าเชื่อ”
สัญลักษณ์ของอัครสาวก ที่ได้ใช้ในการสอนคำสอนผู้สมัครเป็นคริสตชน และในการยืนยันความเชื่อเวลาล้างบาปตั้งแต่ศตวรรษที่สองเป็นต้นมา
ต่อมาภายหลัง บทข้าพเจ้าเชื่อนี้ได้รับการประกาศรับรองโดยสังคายนาสากลแห่งนีเชอาและคอนสแตนติโนเปิล
พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์ให้แก่เราในหน้าที่ที่แตกต่างกันสามประการ
ในฐานะพระบิดา
พระเจ้าทรงสร้างจักรวาลและสิ่งมีชีวิต รวมถึงเรามนุษย์แต่ละคน ในฐานะพระบุตร
พระเยซูเจ้าทรงทำให้เราเข้าใจว่า พระเจ้าทรงฟังเรา เอาใจใส่เรา รักเรา
ทรมานและตายเพื่อเราบนไม้กางเขน ในฐานะพระจิต
พระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราและภายในตัวเรา เพื่อทำให้เราศักดิ์สิทธิ์และเกิดผลอย่างอุดม
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพได้รับการไขแสดงผ่านทางพระเยซูเจ้า
ที่เปิดเผยให้เราทราบว่า พระบิดาเจ้าคือ พ่อที่ใจดีที่รักและให้อภัยลูกเสมอ
ดั่งคำอุปมาเรื่องลูกล้างผลาญที่เราได้ยินบ่อยครั้งในพระวรสาร
หรือในบทภาวนาถึงพระบิดาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาอัครสาวกให้เรียกพระเจ้าเป็น “บิดา”
(Abba)
ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ในหมู่ชาวยิวที่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยนามพระเจ้า
พระองค์ทรงยืนยันกับบรรดาศิษย์ว่า พระองค์กับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน “ผู้ที่เห็นเราก็เห็นพระบิดาด้วย”
(ยน 14:9)
อีกทั้ง ได้สั่งบรรดาศิษย์และเราแต่ละคนให้ไปสั่งสอนนานาชาติ
โปรดศีลล้างบาปในนามของ พระบิดา พระบุตรและพระจิต (มธ 28:19)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพที่เราสมโภชและพระวาจาของพระเจ้าในวันนี้
ได้ให้บทเรียนสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติ
ประการแรก
เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในตัวเราและผู้อื่น
ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ สามพระบุคคลรวมเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว
เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากด้วยสติปัญญา (ด้วยสมอง) แต่เราสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยหัวใจเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน
เวลาที่เรารักกันพระเจ้าจะประทับอยู่กับเราและเราจะอยู่ในพระเจ้า
สายสัมพันธ์แห่งความรักได้รวมพระบิดา พระบุตร
และพระจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกันในพระตรีเอกภาพ
อีกทั้งรวมมนุษย์เราให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์และกับเพื่อนพี่น้อง
ประการที่สอง เราต้องดำเนินชีวิตแบบพระตรีเอกภาพ
เป็นประสบการณ์ของบรรดาคริสตชนและนักบุญทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้า พระตรีเอกภาพ และพยายามเจริญชีวิตแบบพระตรีเอกภาพ
คือชีวิตแห่งความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน เป็นต้นในครอบครัว
หมู่คณะและสังคมของเรา ที่จะต้องมีความรักและความเป็นน้ำหนึ่งหนึ่งใจเดียวกันเสมอ เหมือนอย่างพระบิดา
พระบุตรและพระจิต ที่ทรงมีความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น
ประการที่สาม เราต้องประกาศพระนามของพระตรีเอกภาพ
เราคริสตชนประกาศเสมอมาในการภาวนาถึงพระเจ้า พระบิดา พระบุตรและพระจิต ด้วยการทำสำคัญมหากางเขนที่หน้าผาก
หน้าอกและไหล่ทั้งสองข้าง เราออกนามพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต
ให้มาประทับอยู่กับเราและอวยพรเรา เป็นการประกาศให้ทุกคนได้รับทราบว่า “เราเป็นคริสตชน”
อีกทั้ง เป็นการยืนยันว่า เราเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล และดำเนินชีวิตในพระนามของพระตรีเอกภาพ
พระบิดา พระบุตร และพระจิต
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
คือความเชื่อและความหวังของเรา พระเจ้าเที่ยงแท้ที่เราเชื่อศรัทธาและมีพลังต่อชีวิตของเรามากที่สุดคือ
พระบิดา พระบุตรและพระจิต เป็นพระเจ้าแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวแท้จริง
ไม่มีการแบ่งแยก แต่เท่าเสมอกัน และสมบูรณ์ครบครันในความเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่เป็นข้อความเชื่อที่ลึกซึ้งซึ่งเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เมื่อเราอยู่ต่อหน้าพระเจ้า
และเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน ทั้งกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
ชีวิตของเรากับพระเจ้า
จึงควรเป็นชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์
ศรัทธาและเชื่อมั่นในพระเจ้าเที่ยงแท้ มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างแน่นแฟ้น จนกล่าวได้ว่า
“พระเจ้าทรงเป็นที่หนึ่งและสำคัญที่สุดในชีวิตเรา” พระองค์คือพระเจ้าที่เราเชื่อ
รักและวางใจมากที่สุด ไม่มีสิ่งใดในโลกจะเปรียบกับพระเจ้าสำหรับเราได้เลย
ชีวิตของเราคือชีวิตของพระเจ้านั่นเอง
ชีวิตของเรากับเพื่อนมนุษย์
จึงควรต้องเป็นชีวิตแห่งความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว
มีความเชื่อและความไว้ใจกัน ที่แสดงออกในความรัก ความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน
เป็นชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ รักเสมอและให้อภัยเสมอ โดยเริ่มจากในครอบครัว
หมู่คณะและสังคมของเรา นี่คือ การเป็นพยานถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในชีวิตพระตรีเอกภาพ
ที่เราสมโภชในวันนี้
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว01 มิถุนายน 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น