วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

จงตื่นเฝ้าอยู่ตลอดเวลา


จงตื่นเฝ้าอยู่ตลอดเวลา
เสาร์
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 22:1-7
ลก 21:34-36
เรามาถึงวันสุดท้ายของปีพิธีกรรม เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสถึงสิ่งสุดท้าย ทรงอ้างถึงความพินาศของนครเยรูซาเล็มและวันสุดท้ายของโลกพร้อมกัน เป็นการยากในแยกสองเหตุการณ์นี้ออกจากกัน ชาวยิวไม่เคยคิดว่า พระวิหารที่ยิ่งใหญ่และนครเยรูซาเล็มอันเกรียงไกรจะถึงวันพินาศ สำหรับพวกเขาหมายถึงวันสิ้นสุดของโลกมากกว่า ความพินาศของเยรูซาเล็มเป็นเครื่องหมายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโลกซึ่งปฏิเสธพระเยซูเจ้า
หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพ พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาโลก ทรงเตือนบรรดาศิษย์ให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ “จงระวังให้ดี อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง ความเมามายและความกังวลถึงชีวิตนี้” (ลก 21:34) เราต้องไม่เจริญชีวิตอย่างไร้จุดหมายตามกระแสของโลก ที่หมกมุ่นอยู่กับความสนุกสนานรื่นเริง ความเมามาย และความกังวล จนลืมเป้าหมายของชีวิตและวันสุดท้ายที่จะมาถึง
พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราตื่นเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ประการแรก เราต้องตื่นเฝ้าต่อสู้กับจิตชั่วและการประจญ ที่วนเวียนอยู่รอบตัวเรา คอยหาโอกาสทำลายและโจมตีเราในห้วงเวลาที่เรามีความทุกข์ ความอ่อนแอ และความยากลำบากในชีวิต เราสามารถเอาชนะความชั่วเหล่านี้ได้ด้วยการตื่นเฝ้า ความเคร่งครัด ความเพียรทน การรู้จักบังคับตนเอง ความตั้งใจจริงและความเชื่อ
ประการที่สอง เราต้องตื่นเฝ้าถึงความตายของตน ความตายเป็นสัจธรรมที่แน่นอนที่สุดและไม่มีใครหลีกพ้น ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าโลง ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ชีวิตในโลกเป็นการเดินทางสู่ความตาย ประการที่สาม เราต้องตื่นเฝ้าถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า วาระสุดท้ายและวันพิพากษาจะมาถึงอย่างไม่คาดคิดและเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีเหมือนขโมย “วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างฉับพลัน เหมือนบ่วงแร้ว” (ลก 21:34-35)
คริสตชนต้องตระหนักว่า สักวันหนึ่งเราต้องกลับไปหาพระเจ้า ด้วยบุญกุศลที่คู่ควรกับพระพรที่พระองค์ประทานแก่เรา ต้องใช้เวลาที่สั้นและจำกัดในโลกนี้อย่างชาญฉลาดในการรับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ศิษย์พระคริสต์ต้องตื่นเฝ้าด้วยการอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลา (ลก 21:36) การอธิษฐานภาวนาทำให้เราเข้มแข็งและพร้อมเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต ด้วยความวางใจ ความหวัง และความมั่นใจในองค์พระเยซูเจ้า
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
30 พฤศจิกายน 2018
ภาพ : หลุมศพพระสังฆราชสมเม็ง วรจัก, สุสานวัดนักบุญยออากิม เชียงหวาง, หนองบก, คำม่วน, สปป.ลาว; 2018-11-28

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ทุกขเวทนาใหญ่หลวง


ทุกขเวทนาใหญ่หลวง
พฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 18:1-2, 21-23, 19:1-3, 9ก
ลก 21:20-28
พระวรสารวันนี้นักบุญลูกาได้เล่าถึงสองเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์: 1) การที่นครเยรูซาเล็มถูกทำลายปี 70 และ 2) การทำนายล่วงหน้าถึงการเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ในโลก นักบุญลูกาเขียนพระวรสารประมาณปี 75 หลังจากนครเยรูซาเล็มถูกกองทัพโรมันทำลายราบเป็นหน้ากลอง แต่อวสานตกาล การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้ายังมาไม่ถึง คริสตชนต้องรอคอยและเพียรทนต่อการเบียดเบียน
หลังจากพวกโรมันปกครองปาเลสไตน์ได้ 100 ปี ชาวยิวรักชาติได้ก่อกบฏต่อจักรพรรดิเวสปาเซียน ซึ่งได้มอบหมายให้โอรสหนุ่มชื่อตีโตปราบปรามกบฏให้ราบคาบ โดยล้อมกรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลา 1 ปี ทำให้ชาวยิวถูกฆ่าตาย 1.1 ล้านคน และถูกจับเป็นเชลย 8 แสนคน พระเยซูเจ้าทรงทำนายถึงภัยพิบัติน่าสยดสยองที่จะเกิดขึ้น แสดงให้เห็นทุกขเวทนาใหญ่หลวง เป็นเหตุให้หญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนผู้น่าสงสารส่งเสียงร้องไห้ระงม
ความเชื่อในการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าอย่างผู้มีชัยในวาระสุดท้าย ทำให้บรรดาคริสตชนในระยะเริ่มแรกมีความหวังและมั่นคงเข็มแข็งในความเชื่อ ความเชื่อเดียวกันนี้ต้องส่งเสริมชีวิตคริสตชนของเราให้เติบโต ดำเนินชีวิตอย่างมีความหวังจนถึงวันที่พระองค์เสด็จมา เราต้องยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อจนถึงวาระสุดท้าย “ท่านทั้งหลายจงยืนตรง เงยหน้าขึ้นเถิด” (ลก 21:28) เพราะเวลาแห่งการพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว
 การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ในพระสิริรุ่งโรจน์และทรงอำนาจ เป็นภาพแห่งความหวังสำหรับคริสตชนในระยะเริ่มแรกและเราในปัจจุบัน องค์พระเจ้าทรงสัญญากับเราว่า พระองค์จะเสด็จกลับมาและให้รางวัลผู้มีความเชื่อและความรัก ช่วยให้เราเอาชนะการเบียดเบียนและทุกขเวทนาใหญ่หลวงในวาระสุดท้าย เมื่อกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจเสด็จมา เราได้ดำเนินชีวิตแห่งความหวังอย่างไร
พระเยซูเจ้าทรงทำนายล่วงหน้าถึงอวสานตกาล พระองค์จะเสด็จกลับมาเพื่อช่วยให้รอดและนำเรากลับไปหาพระบิดาเจ้า เราต้องยืนตรง เงยหน้าขึ้นให้สมกับเป็นประชากรที่พระองค์ทรงไถ่กู้และมั่นคงเข้มแข็งในความเชื่อ ศิษย์พระคริสต์ต้องฟังเสียงเตือนขององค์พระเจ้า ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ในแต่ละวัน และเตรียมพร้อมพบกับพระเยซูเจ้าเมื่อถึงวันที่พระองค์เสด็จมา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
27 พฤศจิกายน 2018
ภาพ : หญิงชาวยิวภาวนาที่กำแพงร้องไห้, นครเยรูซาเล็ม, อิสราเอล; 2018-04-16

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การเป็นพยาน


การเป็นพยาน
พุธ
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 15:1-4
ลก 21:12-19
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกล่วงหน้าถึงความยากลำบากและการเบียดเบียน ซึ่งผู้ติดตามพระองค์จะได้รับ “ถ้าเขาเบียดเบียนข่มเหงเรา เขาก็จะเบียดเบียนข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย” (ยน 15:20) คำทำนายนี้เป็นจริงตลอดประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร แต่พระเยซูเจ้าทรงให้ความมั่นใจกับบรรดาศิษย์ว่า พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งพวกเขา “แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28:20)
ชีวิตคริสตชนในโลกมิใช่ชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยขวากหนาม การเบียดเบียน และความยากลำบาก เราต้องเรียนรู้การแบกไม้กางเขนและพบความหมายในความยากลำบากที่กำลังเผชิญ แต่ไม่ควรวิตกทุกร้อนเพราะพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเรา “เราจะให้คำพูดและปรีชาญาณแก่ท่าน ซึ่งศัตรูของท่านจะต้านทานหรือโต้แย้งไม่ได้” (ลก 21:15) ทำให้เราไม่หวั่นเกรงภยันตรายใด ๆ
พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีการเบียดเบียนเพื่อชำระพระศาสนจักรให้บริสุทธิ์ เป็นเหมือนพายุพัดผ่านต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นและปลิวกระจาย เหลือแต่ลำต้นไร้ใบ ดูคล้ายกับว่า ต้นไม้กำลังตาย แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง ต้นไม้เริ่มแตกใบอ่อนและออกดอกบานสะพรั่งอีกครั้ง การเบียดเบียนที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรเป็นเช่นใบไม้ที่ร่วงหล่น แต่ชีวิตของพระศาสนจักรยังคงดำเนินต่อไปและเกิดดอกออกผลสมบูรณ์
“พระนามเยซู” ได้กลายเป็นเครื่องหมายของการต่อต้านและการเบียดเบียนเสมอมา ปัจจุบันมีคริสตชนจำนวนมากในหลายประเทศ ยังคงได้รับความทุกข์ยากลำบากและการเบียดเบียนเพราะการเป็นคริสตชน เช่น ประเทศมุสลิมไม่อนุญาตให้ปฏิบัติศาสนา คริสตชนถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนจากพวกมุสลิมหัวรุนแรงไอซิส การเบียดเบียนเป็นโอกาสให้เราได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า ถือเป็นการประกาศข่าวดีและแพร่ธรรมอย่างหนึ่ง
พระเยซูเจ้าทรงหลั่งพระโลหิตเพื่อเราและทรงเรียกเราให้เป็นมรณสักขี “เลือดของมรณสักขีคือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีของพระศาสนจักร” (แตร์ตุลเลียน) ดังนั้น คริสตชนต้องยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ “ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้” (ลก 21:19) ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า และอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ถูกเบียดเบียนเป็นพิเศษ ให้มั่นคงเข็มแข็งในความเชื่อ และมีความเพียรทนจนวาระสุดท้าย
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Dongxay Hotel, Thakhek, Khammouane
27 พฤศจิกายน 2018
ภาพ : บุญราศีแห่งเมืองลาว, เวียงจันทน์, สปป. ลาว; 2016-12-11

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

อวสานตกาล


อวสานตกาล
อังคาร
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 14:14-19
ลก 21:5-11
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนถึงอวสานตกาลของโลกและของมนุษย์แต่ละคน โดยโยงไปถึงการล่มสลายของพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม ทรงเห็นภาพล่วงหน้าถึงจุดจบน่าสะพรึงกลัว “สักวันหนึ่ง ทุกสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะไม่มีหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย” (ลก 21:6) พระองค์ไม่ทรงต้องการให้มนุษย์กังวลถึงอวสานตกาล แต่ทรงสอนให้เตรียมตัวไปถึงวันนั้นด้วยความเชื่อและความซื่อสัตย์ ทรงให้ความมั่นใจกับเราว่า พระองค์จะอยู่กับเราตลอดไป (มธ 28:20)
ไม่มีใครทราบว่า อวสานตกาลจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ “จงระวังอย่าให้ผู้ใดหลอกลวงท่านได้” (ลก 21:8) อีกทั้งไม่มีใครรู้วันตายของตน แต่เราแน่ใจว่า วันสิ้นโลกจะมาถึงอย่างแน่นอน ในการเผชิญหน้ากับอวสานของโลกและความตาย เราต้องดำเนินชีวิตในความรักไม่เห็นแก่ตัว ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัยไม่สิ้นสุด ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางเรา โดยเฉพาะในเพื่อนมนุษย์
เราต้องทำหน้าที่ประจำวันของเราให้ดีที่สุด ชาวอเมริกันมีสุภาษิตบทหนึ่งว่า “เขาตายในสภาพสวมรองเท้าบูท” หมายความว่า บุคคลนั้นตายขณะกำลังทำหน้าที่ เขาได้ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าจนถึงวาระสุดท้ายในโลก เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน ให้อภัยกันด้วยจริงใจ และรับใช้กันเยี่ยงพระเยซูเจ้า นี่คือ การวางแผนตายพร้อมกับรองเท้าบูทด้วยการเดินตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า
คริสตชนต้องไม่กลัวการสิ้นโลก หรือการจบชีวิตจากโลกนี้ไป แต่ดำเนินชีวิตอย่างชื่อสัตย์และทำหน้าที่ของตนอย่างดีและรับผิดชอบ จะมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น “แผ่นดินไหว โรคละบาดและความอดอยากใหญ่ลวง... เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว และเครื่องหมายยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในท้องฟ้า” (ลก 21:11) โลกจะถึงกาลอวสานและเราต้องตายสักวันหนึ่ง ซึ่งมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ สิ่งที่เราควรทำคือใช้วันเวลาให้เกิดประโยชน์เพื่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
คริสตชนแต่ละคนต้องเตรียมเผชิญกับอวสานของโลกและวันสิ้นสุดแห่งชีวิตของตน ด้วยการรักและรับใช้พระเจ้าในผู้อื่นทุกวัน มั่นคงในความเชื่อ และวางใจพระเจ้าด้วยความเพียรทนจนถึงวาระสุดท้าย ศิษย์พระคริสต์ต้องทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ซื่อสัตย์มั่นคงในความเชื่อ และรับผิดชอบต่อผู้อื่น ไม่อยู่เฉยโดยไม่ทำงาน หรือชอบไปยุ่งเรื่องของคนอื่น สำหรับผู้เชื่อในพระเจ้า ปัจจุบันคือช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Dongxay Hotel, Thakhek, Khammouane, สปป. ลาว
26 พฤศจิกายน 2018
ภาพ : ร่างของแม่ออสุนี, คณะรักกางเขนแห่งเชียงหวาง, สปป. ลาว

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ทานของหญิงม่ายยากจน


ทานของหญิงม่ายยากจน
จันทร์
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 14:1-3, 4ข-5
ลก 21:1-4
กล่าวกันว่า “หากเรามีความจำเป็นต้องการความช่วยเหลือ อย่าไปหาคนรวย แต่ให้ไปหาคนจน” พระวรสารวันนี้สะท้อนความจริงนี้ พระเยซูเจ้าทรงยกย่องทานของหญิงม่ายยากจน มิใช่เพราะจำนวนเงินที่เธอหย่อนลงในตู้ทาน แต่เพราะความใจกว้างของเธอที่ให้ทั้งหมดที่มีอยู่ และจำเป็นสำหรับการเลี้ยงชีวิต โดยไม่เก็บสิ่งใดไว้สำหรับตนเอง ขณะที่คนร่ำรวยและคนอื่น แม้ให้ทานด้วยเงินจำนวนมาก แต่เป็นส่วนที่เหลือใช้ พวกเขายังมีอย่างเหลือเฟือ
ถ้าเราให้สิ่งที่เราไม่ต้องการแล้ว นั่นไม่ใช่การให้” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา) หญิงม่ายยากจนได้แสดงถึงความใจกว้างและความวางใจพระเจ้าโดยให้ทั้งหมดที่เธอมี ความยากจนไม่ได้ทำให้เธอหยุดการแบ่งปัน แม้เป็นเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผู้อื่นที่ให้จากส่วนที่เหลือใช้ เธอได้มอบตัวเองไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ และพระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งคนใจกว้างและวางใจในพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงทำให้ทุกคนประหลาดใจเมื่อตรัสว่า “หญิงม่ายยากจนคนนี้ทำทานมากกว่าทุกคน” (ลก 21:3) ทรงแสดงให้ทุกคนได้เข้าใจว่า พระเจ้าไม่ได้มองดูที่จำนวน ปริมาณ หรือความยิ่งใหญ่ของงานที่เราทำ แต่มองดูที่จิตใจและความตั้งใจจริงของเราในการทำสิ่งต่าง ๆ สิ่งเล็กน้อยที่เราทำในสายตาของใครต่อใคร อาจเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระเจ้า หากเราทำด้วยความรักยิ่งใหญ่อย่างหญิงม่ายยากจนในพระวรสาร
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องทานของหญิงม่ายยากจน เพราะความใจกว้างและความวางใจอย่างเต็มเปี่ยมของเธอต่อพระเจ้า “เราอาจทำสิ่งใหญ่โตไม่ได้ แต่เราสามารถทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักยิ่งใหญ่” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา) เราต้องมีความใจกว้างและวางใจพระเจ้าเช่นเดียวกัน “ทุกสิ่งที่เราทำขอให้ทำด้วยความรักและเพื่อความรัก” (นักบุญฟรังซิส เดอ ซาล) ความเชื่อและความรักทำให้กิจการทุกอย่างมีคุณค่า
สาเหตุที่หญิงม่ายยากจนเพราะบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี “โกงกินทรัพย์สินของหญิงม่าย” (ลก 20:47) ด้วยการเอารัดเอาเปรียบและปฏิบัติต่อพวกเธออย่างอยุติธรรม พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยทานจากส่วนที่เหลือใช้ ซึ่งได้มาจากการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความใจกว้างและความวางใจพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม ไม่เอารัดเอาเปรียบใครและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างยุติธรรม พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ ให้กำลังใจ และอธิษฐานภาวนาเพื่อทุกคนที่ทุกข์ยากเดือดร้อน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
25 พฤศจิกายน 2018
ที่มาภาพ : https://bendicionescristianaspr.com/jesus-y-la-limosna/

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ, ปีที่ 1 ฉบับที่ 28


สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ

ปีที่ 1  ฉบับที่ 28;  อาทิตย์ที่ 25  พฤศจิกายน 2018 (2561): http.//dondaniele.blogspot.com

107 หมู่ 6 บ้านดอนม่วย ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 47130È086-231-3231

สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
พระสัมณทูตปอล ชาง อิน-นัม สมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย
พบพระสังฆราช พระสงฆ์ โอกาสเข้าเงียบประจำปี 22 พฤศจิกายน 2018
พี่น้องที่รัก ในสัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม พระศาสนจักรให้เราสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล การเฉลิมฉลองนี้แสดงถึงอำนาจของพระคริสตเจ้าในฐานะพระเจ้าและกษัตริย์แห่งจักรวาล อีกทั้งช่วยเราให้มองไปสู่อนาคตและเป้าหมายสูงสุดของเรา เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาครั้งสุดท้าย และประทานรางวัลหรือการลงโทษแก่ผู้เป็นและผู้ตาย
การสมโภชนี้มีขึ้นไม่นานมานี้ในพระศาสนจักรสากลเมื่อปี 1925 โดยพระสันตะปาปาปีอุส ที่ 11 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ตำแหน่งกษัตริย์มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือพระศาสนจักรในหลายประเทศ ทั้งนี้เพื่อช่วยเราให้รำพึงถึงพระคริสตเจ้าผู้เป็นองค์พระเจ้าและกษัตริย์ของเรา การเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง การพิพากษาครั้งสุดท้ายและวาระสุดท้ายของโลก
 การประชุมกลุ่มโฟโกลาเรที่วัดโนนค้อ 18 พฤศภาคม 2018
บทอ่านที่หนึ่ง ประกาศกดาเนียลได้เห็นนิมิตการที่พระเจ้าทรงเปิดเผยระองค์เองอย่างรุ่งโรจน์และทรงอำนาจ โดยพูดถึงอาณาจักรของบุตรแห่งมนุษย์ ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความรักที่รวมชนทุกชาติ ทุกภาษา และอำนาจการปกครองของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด
บทอ่านที่สอง หนังสือวิวรณ์ได้พูดถึงการปกครองของพระเจ้า ซึ่งวางรากฐานอยู่บนอำนาจของความรักและความจริง การปกครองของพระองค์เป็นที่ประจักษ์แจ้งเมื่อประชาชนเชื่อในความรักและความจริง พระเยซูเจ้าได้นำเราไปสู่ชัยชนะและพระสิริรุ่งโรจน์ผ่านทางพระทรมานของพระองค์
พระวรสาร ระหว่างการไต่สวนต่อหน้าปิลาต ผู้ว่าราชการ พระเยซูเจ้าทรงทำให้ความเป็นกษัตริย์ของพระองค์กระจ่างชัดยิ่งขึ้น ในการสนทนากับปิลาต พระองค์ได้บอกเป็นนัยว่าปิลาตไม่เข้าใจความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ ทรงยอมรับว่าเป็นกษัตริย์ แต่อาณาจักรของพระองค์มิใช่ในโลกนี้
 เยี่ยมครอบครัวของผู้กองรัศมี สหายแก่น บุตรชายของยายเนียน สหายแก่น
หนองเลิง, ดอนหญ้านาง, พรเจริญ, บึงกาฬ 24 พฤศจิกายน 2018
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.      จันทร์ที่ 26-พุธที่ 28 พฤศจิกายน 2018 อบรมพระสงฆ์-นักบวชที่ท่าแขก สปป.ลาว เรื่องร้อยปีมรณกรรมของสองธรรมทูตผู้บุกเบิก และประชุมคณะอนุกรรมการสี่สังฆมณฑลอีสานและลาว
2.      ขอเชิญสภาอภิบาลวัด ผู้นำกลุ่มและสมาชิกบีอีซีวัดดอนม่วยและวัดโนนค้อ ร่วมฉลอง 12 ปีกลุ่มคริสตชนพื้นฐาน เขตตะวันตก, 350 ปีมิสซังสยาม และ 100 ปีมรณกรรมของสองธรรมทูตผู้บุกเบิก ที่วัดพระคริสตราชา นาจาร เสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2018 เวลา 08.00-13.00 น. ขอให้ผู้ที่จะไปลงรายชื่อกับสภาอภิบาลวัด เพื่อแจ้งจำนวนให้วัดนาจารทราบ
3.      พุธที่ 5 ธันวาคม 2018 เชิญร่วมฉลองวัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์ พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
4.      เสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2018 เชิญร่วมฉลองวัดนักบุญฟรังซิส เซเวียร์ โชคอำนวย พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
 เยี่ยมยายประคอง นรสาร ซึ่งฐานะยากจนและไร้บ้าน(ทางการกำลังสร้างบ้านให้)
18 พฤศจิกายน 2018
5.      เสาร์ที่ 8-อาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2018 สามเณรฟาติมาท่าแร่ 15 คนจะมาขอบริจาคข้าวเปลือกและปัจจัยที่ดอนม่วย-โนนค้อ ขอความอนุเคราะห์ที่พักและอาหารเย็นวันเสาร์ อาหารเช้าและอาหารเที่ยงวันอาทิตย์
6.      เงินทาน อาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2018: ดอนม่วย 1,524.- บาท และ โนนค้อ 1,054.- บาท
7.      รายนามผู้บริจาคซื้อโทรทัศน์ 65 นิ้ว: 10) ยายเนียน สหายแก่น 1,000.- บาท, 11) ยายนวลศรี อารีรักษ์ 1,000.- บาท และ 12) ดาบตำรวจ บุญส่ง อารีรักษ์ 1,000.- บาท ยอดรวมเงิน 14,500.- บาท
8.      รายนามผู้บริจาคสร้างวัดโนนค้อ: 9) สายพ่อสุบรรณ์-แม่พะยอม ผิวชัย และพี่น้องชาวดอนทอย-หนองสนุก 11,999,- บาท และ 10) เงินซองทำบุญวันเสกสุสาน 6,600.- บาท ยอดรวมเงินในบัญชี 182,959.- บาท
ขอบคุณ กลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 7-8 ที่มาทำความสะอาดวัด สัปดาห์หน้ากลุ่มที่ 9-10 (โนนค้อ: กลุ่มที่ 3)
 พี่น้องชาวดอนม่วยกำลังซ้อมขับร้องบทเพลงในพิธี 24 พฤศจิกายน 2018
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
25
07.00 น.
08.30 น.
สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
สุขสำราญพี่น้องชาวโนนค้อ
† สุขสำราญพี่น้องชาวดอนม่วย
จันทร์-พฤหัส
26-29
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

ศุกร์
30
06.00 น.
ฉลอง น.อันดรูว์ อัครสาวก

เสาร์
1
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

 บรรยากาศการเข้าเงียบประจำปี เทศน์โดยพระสังฆราชยอแซฟ วุฒิเลิศ แห่ล้อม 
ณ สำนักมิสซังฯ สกลนคร 19-22 พฤศจิกายน 2018
และการพบปะคณะสงฆ์ของพระสมณทูตปอล ชาง อิน-นัม 22 พฤศจิกายน 2018










กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล


กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
อาทิตย์
สมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ปี B
ดนล 7:13-14
วว 1:5-8
ยน 18:33-37
บทนำ
โซเรน เคียร์เคการ์ด (Soren Kierkegaard: 1813-1855) นักเทววิทยาและนักปรัชญาชาวเดนมาร์ก ได้เขียนเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับกษัตริย์ตกหลุมรักหญิงสามัญชนลูกชาวนาคนหนึ่ง กษัตริย์ทราบดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอภิเษกสมรสกับหญิงสาวลูกชาวบ้าน ตามราชประเพณีกษัตริย์ต้องอภิเษกสมรสกับเชื้อพระวงศ์ในระดับเดียวกันหรือสตรีสูงศักดิ์เท่านั้น แต่กษัตริย์พระองค์นี้ทรงอำนาจมาก ทรงรู้ว่าสามารถทำได้และรู้ว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
กษัตริย์คิดแผนการสละราชสมบัติเพื่อเป็นชาวนาต่ำต้อย จะได้แต่งงานกับหญิงคนรักในฐานะเท่าเสมอกัน แต่หากทำตามแผนการนี้ย่อมเกิดผลตรงข้าม พระองค์ต้องสูญเสียทั้งตำแหน่งกษัตริย์และหญิงคนรัก เพราะเธอคงปฏิเสธพระองค์และคิดว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลาสิ้นดี ที่สุด กษัตริย์ทรงตัดสินพระทัยว่าต้องเสี่ยงและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ความรักแท้ระหว่างพระองค์กับหญิงคนรักเป็นไปได้
เคียร์เคการ์ดไม่ได้เขียนต่อว่าเรื่องนี้จบอย่างไร ด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก จุดสำคัญของเรื่องนี้คือ ความรักยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ต่อหญิงสาวลูกชาวนา ถึงขนาดยอมถ่อมพระองค์และสละได้แม้ราชบัลลังก์ และ ประการที่สอง เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์ กษัตริย์ในเรื่องนี้คือพระเจ้า และหญิงสาวลูกชาวนาคือเราแต่ละคน
1.       กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
พระศาสนจักรให้เราสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล การเฉลิมฉลองนี้แสดงถึงอำนาจของพระคริสตเจ้าในฐานะกษัตริย์และพระเจ้าแห่งจักรวาล อีกทั้งช่วยเราให้มองไปสู่อนาคตและเป้าหมายสูงสุดของเรา เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอย่างรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาครั้งสุดท้าย และประทานรางวัลหรือการลงโทษแก่เราแต่ละคน การสมโภชนี้เกิดในพระศาสนจักรปี 1925 โดยพระสันตะปาปาปีอุส ที่ 11 เพื่อช่วยเราให้รำพึงถึงพระคริสตเจ้าผู้เป็นองค์พระเจ้าและกษัตริย์ของเรา
เมื่อพูดถึงกษัตริย์เรามักมองไปที่ความยิ่งใหญ่ มีอำนาจบารมีมากและอยู่เหนือคนอื่น ทุกคนต้องเกรงกลัวและคอยปรนนิบัติรับใช้ ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์เหล่านี้ พระองค์ไม่มีข้าทาสบริวาร ไม่มีวังที่ประทับ ไม่มีคทาที่แสดงถึงการเป็นกษัตริย์ ในทางกลับกัน พระองค์มีมงกุฎหนามสวมพระเศียร ร่างกายเปลือยเปล่า พระพักตร์ชุ่มไปด้วยเลือด ถูกทิ้งให้อยู่โดยลำพัง ถูกสบประมาทและเยาะเย้ยจากผู้นำชาวยิวและทหาร
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ที่ปกครองด้วยความรัก “เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34) อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้ การให้อภัยและความยุติธรรม ดังนั้น เมื่อเราฉลองความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ มิใช่ในฐานะผู้ปกครองที่กดขี่และอยู่เหนือคนอื่น แต่ในฐานะองค์แห่งความรัก ที่รัก รับใช้และให้อภัยโดยยอมตายเพื่อทุกคนบนไม้กางเขน
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องอุทิศตนต่อพระคริสตเจ้ากษัตริย์ของเรา พระองค์จะไม่ใช่กษัตริย์ของเราหากเราไม่ฟังพระองค์ ไม่รักพระองค์ ไม่รับใช้พระองค์และไม่ติดตามพระองค์ เราจะเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของพระองค์เมื่อเรากลายเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ดำเนินชีวิตตามพระวรสาร นำมาปฏิบัติในชีวิตให้ปรากฏเป็นจริง และพร้อมเลียนแบบจิตใจที่สุภาพถ่อมตนของพระองค์
ประการที่สอง เราต้องให้พระคริสตเจ้ามีอำนาจเหนือชีวิตของเรา ให้พระองค์ครอบครองชีวิตของเรา มีอำนาจเหนือร่างกาย ความคิด จิตใจและน้ำใจของเรา ผู้ที่ดำเนินชีวิตในพระอาณาจักรของพระองค์คือผู้ที่กล่าวว่า “พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” ให้เราพยายามปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ มากกว่าน้ำใจของเรา
ประการที่สาม เราต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักของพระคริสตเจ้า ทรงประทานบทบัญญัติแห่งความรักแก่เรา “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา และสุดกำลังความสามารถ... ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์รักตนเอง” (มก 12:30-31) เราถูกเรียกร้องให้รักตามมาตรฐานเดียวกับพระองค์ เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวและไม่มีเงื่อนไข รักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก เมตตาสงสารและให้อภัยเสมอ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักแม้กระทั่งศัตรู ทรงเป็นกษัตริย์ที่รับใช้และมอบชีวิตเพื่อคนอื่น มิใช่ให้คนอื่นรับใช้ และทรงเป็นกษัตริย์ที่ให้อภัยเสมอแม้คนที่ประหารพระองค์ อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้และให้อภัย ดังนั้น ทุกครั้งที่เรารัก รับใช้และให้อภัย เราได้ทำให้อาณาจักรของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในโลก
อาณาจักรของพระเจ้าเป็นอาณาจักรแห่งความยุติธรรม ความรักและสันติสุข คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นพลเมืองดีในอาณาจักรของพระองค์ ในการรัก รับใช้และช่วยเหลือกันด้วยใจกว้าง ศิษย์พระคริสต์ต้องให้พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งชีวิตของเรา ช่วยเราให้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ฟังพระองค์ รักพระองค์ รับใช้พระองค์และและติดตามพระองค์ เพื่อทำให้อาณาจักรของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิต ครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย
23 พฤศจิกายน 2018
ภาพ: พระคริสตราชา, วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง, พรรณานิคม, สกลนคร; 2000-01-29