วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ขุมทรัพย์ของเราอยู่ที่ไหน


ขุมทรัพย์ของเราอยู่ที่ไหน
พุธ
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
ยรม 15:10, 16-21
มธ 13:44-46
ปาเลสไตน์เป็นดินแดนที่อยู่ในภาวะสงคราม การนำทรัพย์สมบัติมีค่าฝังดินไว้ถือเป็นเรื่องปกติ และถือเป็นวิธีปลอดภัยที่สุดเพราะสมัยนั้นยังไม่มีธนาคาร หรือตู้นิรภัย หากเจ้าของทรัพย์เสียชีวิต หรือถูกเนรเทศไม่สามารถกลับถิ่นเดิมได้อีก ทรัพย์สินนั้นยังคงฝังดินต่อไปอีก จนกว่าจะถูกค้นพบโดยนักล่าสมบัติ
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสอุปมาเรื่อง “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา” และ “ไข่มุกเม็ดงาม” ในสมัยโบราณ “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่” เป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหา และ “ไข่มุก” เป็นทรัพย์สมบัติมีค่าที่คนทั่วไปหลงใหลและอยากเป็นเจ้าของ ผู้ค้นพบขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ทราบดีว่านั่นไม่ใช่ของเขา แต่เขาได้รวบรวมเงินเพื่อซื้อที่นาแปลงนั้น แม้ในความเป็นจริงกฎหมายกำหนดว่า ขุมทรัพย์ดังกล่าวเป็นของคนที่ค้นพบ
พระเยซูเจ้าทรงต้องการบอกเราว่า การค้นพบพระอาณาจักรสวรรค์เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อเราค้นพบพระอาณาจักรสวรรค์ เท่ากับเราได้พบขุมทรัพย์อันล้ำค่าคือองค์พระคริสตเจ้า ผู้เป็นขุมทรัพย์หาค่ามิได้ของพระบิดาเจ้าสวรรค์เพื่อความรอดของเรามนุษย์ เมื่อเราค้นพบพระองค์ในชีวิตของเรา เราต้องพร้อมละทิ้งทุกสิ่งแม้พระทั่งครอบครัว เพื่อติดตามและเป็นศิษย์ของพระองค์ 
พระเยซูเจ้าทรงเป็นขุมทรัพย์มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อครอบครองเป็นเจ้าของต้องละทิ้งทุกสิ่ง ใครแสวงหาและปรารถนาขุมทรัพย์จะพบกับความยินดีหาที่สุดมิได้ เป็นความสุขแห่งการได้พบและอยู่กับพระเยซูเจ้าผู้เป็นความเชื่อของเรา และทรงมอบพันธกิจในการทำให้อาณาจักรของพระองค์เริ่มตั้งแต่ในโลก ในเวลาที่เราดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน แบ่งปัน และช่วยเหลือกัน
เราพร้อมสละทุกสิ่งเพื่อเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์ของเราไหม หรือเรามีขุมทรัพย์อื่นมีค่ามากกว่าอีกที่ใจของเราผูกติดอยู่ ศิษย์พระคริสต์ต้องพร้อมสละทุกสิ่งเพื่อครอบครองและเป็นเจ้าของพระอาณาจักรสวรรค์ ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด อีกทั้งต้องออกแรงขุดค้นและแสวงหา เพราะมั่นใจว่า พระอาณาจักรสวรรค์มีค่ามากกว่าสิ่งใด ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์ของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
31 กรกฎาคม 2018
ที่มาภาพ : http://www.opusmisericordiae.org/2016/08/30/reflexion-del-evangelio-segun-san-mateo-1344-46-2/

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ปล่อยให้พระเจ้าทรงตัดสิน


ปล่อยให้พระเจ้าทรงตัดสิน
อังคาร
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
อพย 33:7-11, 34:5ข-28
มธ 13:36-43
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้อธิบายอุปมาเรื่องข้าวละมาน “ผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ดีคือบุตรแห่งมนุษย์ ทุ่งนาคือโลก เมล็ดพันธุ์ดีคือพลเมืองแห่งอาณาจักร ข้าวละมานคือพลเมืองของมารร้าย” (มธ 13: 37-38) อันแสดงถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่โปรดให้คนดีและคนชั่วอยู่ด้วยกัน ในทุกสังคมจึงมีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนรักเราและคนเป็นปฏิปักษ์ต่อเรา คนชื่นชมเราและคนเหยียดหยามเรา
แต่ที่สุดแล้วจะถึงเวลาเก็บเกี่ยวคือเวลาอวสานแห่งโลก ซึ่งเป็นเวลาที่พระเจ้าทรงพิพากษาและตัดสิน คนดีจะถูกแยกจากคนชั่ว คนชอบธรรมจะถูกแยกจากคนอธรรม ในอุปมาข้าวพันธุ์ดีได้รับการเก็บอย่างดีในยุ้งฉาง ขณะที่ข้าวละมานถูกรวบรวมและเผาไฟ ข้าวพันธุ์คือคนดี ข้าวละมานคือคนชั่ว ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในทุกสังคมและทุกสาขาอาชีพ นี่เป็นประสบการณ์ที่แต่ละคนมีและเข้าใจเป็นอย่างดี
การตัดสินและการแยกคนดีและคนชั่วในวาระสุดท้ายเป็นพระเจ้าทรงกระทำ ไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์ ดังนั้น เราไม่ควรตัดสินใคร แต่ปล่อยให้พระเจ้าทรงตัดสิน หากเราเป็นคนตัดสินย่อมผิดพลาดได้ง่าย เพราะธรรมชาติมนุษย์มักเข้าข้างตัวเอง เรามองเห็นแต่ความดีในตัวเรา มีแต่เราเท่านั้นที่เป็นข้าวพันธุ์ดี ส่วนคนอื่นเป็นข้าวละมานที่ต้องกำจัดทิ้ง เราไม่สามารถแยกข้าวพันธุ์ดีและข้าวละมานออกจากกันได้
บ่อยครั้งความดีและความชั่วมีอยู่ในตัวเรา เรากำลังหว่านข้าวพันธุ์ดีและข้าวละมานให้เติบโตด้วยกัน แต่ที่สุดแล้วเราต้องกำจัดข้าวละมานให้หมดสิ้นไป เก็บรักษาเพียงข้าวพันธุ์ดีที่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำด้วยตนเอง เพราะ “ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง” มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ติดตัวเราไปและช่วยเราให้อยู่กับองค์พระเจ้าในสวรรค์ อันเป็นความสุขนิรันดรที่ทรงเตรียมไว้สำหรับคนดีพร้อม ไม่มีที่สำหรับคนชั่วในสวรรค์
พระเจ้าทรงอดทนและให้โอกาสทุกคน รอจนถึงเวลาเก็บเกี่ยวพระองค์ถึงปฏิบัติต่อคนดีและคนไม่ดีตามความประพฤติของเขา ศิษย์พระคริสต์ต้องอดทนต่อความผิดบกพร่องของกันและกัน ให้โอกาสคนทำความผิดได้ปรับปรุงแก้ไขตนเอง บนพื้นฐานแห่งความรักไม่มีเงื่อนไขและการให้อภัยไม่สิ้นสุดตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า ไม่ตัดสินใคร และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระเจ้า
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
30 กรกฎาคม 2018
ที่มาภาพ : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk4uD3tTWH0p0HwZZBIqVZXsdW35yulqZfpPoJ4lUEo9BKCp4lAZGAuHhYJmDtK9fGdLTKabXQhdZaSJ4pbI32n7Z6PE97cQDRFC4v2wwMQhDLgdRG1p2qFFTeEC1tdM49vKT_iSQblBou/s1600/wheat+and+tares.jpg

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง


เมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง
จันทร์
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
อพย 32:15-24,30-34
มธ 13:18-23
จากสถานการณ์เขื่อนแตกและน้ำท่วมที่แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ปี 2018 เราเห็นธารน้ำใจหลั่งไหลไปช่วยเหลือ ส่วนใหญ่เป็นคนเล็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จัก บางคนเป็นคนหาเช้ากินค่ำ แต่ทนเห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวไม่ได้ ต้องช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ รวมถึงอาสาสมัครที่ช่วยงาน บางคนเป็นเด็ก บางคนเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ นี่คือเมล็ดเล็ก ๆ ที่มีพลังยิ่งใหญ่ และพระศาสนจักรเติบโตมาด้วยพลังเช่นนี้
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าตรัสอุปมาสองเรื่อง “เมล็ดมัสตาร์ด” และ “เชื้อแป้ง” เมล็ดมัสตาร์ดเป็นเมล็ดที่เล็กกว่าเมล็ดทั้งหลาย แต่เมื่องอกและโตขึ้นได้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ เป็นที่อาศัยของนกและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ พระวาจาของพระเจ้าและกิจการดีทุกอย่างที่เราทำเป็นเหมือนเมล็ดเล็ก ๆ แต่มีพลังแห่งชีวิตซ่อนอยู่และรอเวลาเจริญเติบโต เช่นเดียวกับเชื้อแป้งเพียงน้อยนิดใส่ปนลงไปในแป้งสามถัง และทำให้แป้งทั้งหมดฟูขึ้น
อุปมาเรื่อง เมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง สะท้อนพันธกิจของพระเยซูเจ้า งานของพระองค์ที่แคว้นกาลิลีเป็นเหมือนเมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง ซึ่งเล็กมากไม่มีใครสังเกตเห็น พระองค์ทรงทำงานอย่างเงียบ ๆ ดูภายนอกไม่มีความหมายอะไร บรรดาศิษย์ที่ทรงเลือกและมอบพันธกิจให้สานต่อ ล้วนเป็นชาวประมงไม่มีความรู้ แต่พระเยซูเจ้าทรงมองการณ์ไกล ทรงมองเห็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ ทรงใช้เครื่องมือเล็กน้อยและไม่เหมาะสมเพื่อพันธกิจยิ่งใหญ่
อุปมาเรื่อง เมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง ได้ให้กำลังใจเราในการทำความดีเล็กน้อยที่สามารถทำได้ อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญในสายตาของใครต่อใคร แต่พระเยซูเจ้าทรงมองเห็นและรับรู้ พระองค์สามารถทำงานผ่านทางความพยายามเล็กน้อยที่สุดที่ทำด้วยความรัก พระองค์ทรงทำให้งานสำเร็จและเกิดผลในแบบที่เราคาดไม่ถึง เราได้รับการเรียกให้ปลูกเมล็ดพันธ์ดีในแต่ละวัน ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด แล้วพระเจ้าจะทรงทำส่วนที่เหลือ
เราได้เป็นเมล็ดมัสตาร์ดที่พร้อมเน่าเพื่องอกเป็นต้นไม้ใหญ่หรือเปล่า เราได้เป็นเชื้อแป้งที่ยอมคลุกเคล้าเข้ากับแป้งเพื่อทำให้สังคมดีขึ้นไหม เราต้องตระหนักว่า อาณาจักรสวรรค์คืองานของพระเจ้าในตัวเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นเหมือนเมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง แม้เป็นคนเล็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จักและไม่เป็นที่รับรู้ แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขาดไม่ได้ พระเจ้าทรงใช้เราเป็นเครื่องมือทำให้งานเดินไปได้และสำเร็จ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
29 กรกฎาคม 2018
ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/ABClaos/photos/pcb.1911798979123332/1911798699123360/?type=3&theater

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ, ปีที่ 1 ฉบับที่ 11



สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ

ปีที่ 1  ฉบับที่ 11;  อาทิตย์ที่ 29  กรกฎาคม 2018 (2561): http.//dondaniele.blogspot.com

107 หมู่ 6 บ้านดอนม่วย ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 47130È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ เยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ร่วมมือกับพระองค์ ในการมอบ “ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว” ของเราแด่พระองค์ ซึ่งหมายถึง เวลา ความรู้ และความสามารถของเรา หรือสิ่งต่างๆ ที่เรามีและเป็น พระองค์สามารถทำให้เกิดผลได้ในแบบที่เราคาดไม่ถึง เหมือนที่ทรงทวีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคน
พระเยซูเจ้าทรงต้องการขมมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวของเราแต่ละคน เพื่อพระองค์จะสามารถทำอัศจรรย์ได้ พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราทำบางสิ่งบางอย่าง ด้วยการแบ่งปันความรักและชีวิตของเรากับผู้ที่อดอยาก ลำบากเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือ หากเราแต่ละคนได้ใช้ความรู้ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่เรามีเพื่อพระเจ้า วางทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ อัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นในแบบที่เราคาดไม่ถึง
 เยี่ยมบ้านและให้กำลังใจ พ.ต.วิทิศ พรหมมี ซึ่งเจ็บป่วยเรื้อรัง
พฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2018
บทอ่านแรก หนังสือพงศ์กษัตริย์บอกเราว่า ประกาศกเอลิชาได้กระทำสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ ด้วยการแจกจ่ายขนมปังยี่สิบก้อนที่ได้รับจากชายคนหนึ่ง เลี้ยงผู้คนมากกว่าร้อยคนให้ได้กินจนอิ่มและเหลือกิน อัศจรรย์นี้คือภาพล่วงหน้าถึงการทวีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวของพระเยซูเจ้าเลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคน ที่เราได้ยินในพระวรสารวันนี้
บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลเตือนจิตใจชาวเอเฟซัสว่าพระเยซูเจ้าได้รวมชาวยิวและชาวกาลิลีให้เป็นหนึ่งเดียว นำพวกเขาให้มาเป็นคริสตชนเป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อผ่านทางศีลล้างบาป พวกเขาต้องรักษาความเป็นหนึ่งเดียวเหมือนดังร่างกายเดียวกัน ด้วยการดำเนินชีวิตคริสตชนแท้จริงในความรักที่มีต่อกัน ความสุภาพอ่อนโยน ความอดทนและสันติสุข
พระวรสาร พระเยซูเจ้าได้ทวีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวที่เด็กคนหนึ่งนำมามอบให้ เลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคนและเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง นักบุญยอห์นได้เล่าอัศจรรย์นี้เพื่อหมายถึงศีลมหาสนิท ปังทรงชีวิตเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวที่พระองค์จะประทานพระองค์เองเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของเรา
 รับตัวนายเวลา อุ่นคำ จาก ร.พ.ศูนย์สกลนคร อาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018
และพาไปล้างแผลที่ รพ.สต.ช้างมิ่ง พฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2018
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.      ขอพี่น้องได้อธิษฐานภาวนาเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ขอองค์พระเจ้าได้โปรดดลบันดาล อภิบาลและประทานพระพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
2.      เนื่องจากพี่น้องชาวลาวแขวงอัตตะปือและจำปาศักดิ์ประสบภัยน้ำท่วม สาเหตุจากเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก เมื่อ 23 กรกฎาคม 2018 ทางสังฆมณฑลฯ ขอให้ทุกวัดได้บริจาคและเก็บเงินทานในสัปดาห์นี้ เพื่อนำเงินส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ สปป. ลาว ขอพี่น้องได้ช่วยกัน
3.      เสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2018 ขอเชิญร่วมฉลอง 25 ปีแห่งการปฏิญาณตน ซ.มารีย์ อันนา แห่งดวงพระหฤทัยพระเยซูเจ้า บุษราภรณ์ วรัญชิต ณ อารามกลาริส กาปูชิน ท่าแร่ เวลา 10.00 น.
4.      เสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2018 สังฆมณฑลอุดรธานีขอเชิญร่วมพิธีบวชพระสงฆ์ สังฆานุกรเปโตร วันฉลอง บุราณ ฉลองครบรอบ 50 ปี การปฏิญาณตัวของ คุณพ่อแอนโทนี่ ศิริชัย เล้ากอบกุล, C.Ss.R. และ คุณพ่อเจมส์ ธนู กระทอง, C.Ss.R. ณ อาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์ อุดรธานี
5.      ขอคำภาวนาเพื่อกระบวนการคัดเลือกพระสังฆราชแห่งท่าแร่-หนองแสง จะได้เป็นไปตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า ได้ผู้ที่เหมาะสมเปี่ยมด้วยปรีชาญาณ เพื่อนำพาสังฆมณฑลของเราต่อไป
6.      เงินทาน อาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018: ดอนม่วย 2,225.- บาท และ โนนค้อ 829.- บาท
7.      ขอบคุณ กลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 3-4 ที่มาทำความสะอาดวัด สัปดาห์หน้ากลุ่มที่ 5-6 (โนนค้อ: กลุ่มที่ 1)
 เยี่ยมนายสมนึก ทินกระโทกที่ ร.พ.ศูนย์สกลนคร ศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2018 
หลังจากหายไปร่วมสองอาทิตย์ พบตัวที่โรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
29
07.00 น.
08.30 น.
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
สุขสำราญสำหรับพี่น้องชาวโนนค้อ
† สุขสำราญสำหรับพี่น้องชาวดอนม่วย
จันทร์
30
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

อังคาร
31
06.00 น.
ระลึกถึง น.อิกญาซีโอ เด โลโยลา

พุธ
1
06.00 น.
ระลึกถึง น.อัลฟองโซ มารีย์

พฤหัส-เสาร์
2-4
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา


 บรรยากาศการรับประทานอาหารร่วมกันของพี่น้องชาวโนนค้อ 
หลังพิธีบูชาขอบพระคุณอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ อาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018









อัศจรรย์ของการแบ่งปัน


อัศจรรย์ของการแบ่งปัน
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
ปี B
2 พกษ 4:42-44
อฟ 4:1-6
ยน 6:1-15
บทนำ
 จากประสบการณ์ที่ทำงานเพื่อคนยากจนมาทั้งชีวิต นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตาได้เล่าเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนยากจนเป็นคนที่มีความใจกว้างกว่าคนร่ำรวย ทั้งนี้เพราะคนจนมีประสบการณ์ของความหิวและความขัดสน คุณแม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากครอบครัวฮินดูครอบครัวหนึ่ง ซึ่งไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว คุณแม่ได้ไปเยี่ยมครอบครัวนี้พร้อมกับนำข้าวสารหนึ่งกระสอบใหญ่ไปมอบให้กับผู้เป็นแม่
คุณแม่เทเรซาต้องแปลกใจมาก ที่เห็นหญิงคนนั้นแบ่งข้าวที่ได้รับออกเป็นสองส่วน และนำกระสอบข้าวครึ่งหนึ่งไปมอบให้กับเพื่อนบ้านที่เป็นมุสลิม เมื่อเธอกลับมาคุณแม่ได้ถามว่าทำไมถึงแสดงความใจกว้างเช่นนั้นทั้งๆ ที่ตนเองไม่มีอะไรกิน หญิงคนนั้นตอบว่าข้าวครึ่งกระสอบคงเพียงพอสำหรับครอบครัวของเธอ แต่ครอบครัวเพื่อนบ้านมีลูกมากกว่าเธอและกำลังหิวเช่นกัน
เรื่องราวหญิงฮินดูที่คุณแม่เทเรซาเล่า เรื่องราวของชายคนหนึ่งในบทอ่านแรก ที่นำขนมปังยี่สิบก้อนมามอบให้ประกาศกเอลิชาแจกจ่ายแก่ทุกคนได้กินจนอิ่มและยังมีเหลือ และเรื่องราวในพระวรสาร เด็กคนหนึ่งแสดงความใจกว้างนำขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวมามอบให้พระเยซูเจ้า เรื่องราวของบุคคลทั้งสามล้วนมีลักษณะที่เหมือนกัน นั่นคือ วามใจกว้างคิดถึงผู้อื่นและการแบ่งปัน
1.       อัศจรรย์ของการแบ่งปัน
บทอ่านวันนี้เชิญชวนเราให้เป็นเครื่องมือที่อ่อนน้อมในพระหัตถ์ของพระเยซูเจ้า ด้วยการแบ่งปันพระพรต่างๆ สิ่งที่เรามีและเป็นกับเพื่อนพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือ อัศจรรย์สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยมือของเรา ในความใจกว้างที่เราแสดงออกต่อเพื่อนพี่น้อง พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้เชิญชวนเราให้มองลึกลงไปในจิตใจของตนและถามตนเองว่า “เราได้มอบชีวิต ทุกสิ่งที่เรามีและเป็นไว้ในพระหัตถ์ของพระเยซูเจ้า เพื่อให้พระองค์ทรงกระทำตามที่ทรงปรารถนา มากน้อยเพียงใด”
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงตรัสกับเราว่า
·      “เราต้องการความรู้ความสามารถของลูก”  “เราต้องการความใจกว้างของลูก”
·      “เราต้องการลูก เพราะเรามีเพียงเท้าของลูกที่พาเราไปยังสลัม โรงงาน โรงพยาบาล หรือเข้าไปในหมู่บ้าน”
·      “เรามีเพียงมือของลูก ที่ยื่นออกเพื่อช่วยคนที่กำลังหิว เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ คนที่ไร้บ้านและกำลังสิ้นหวัง ให้ได้พบความรัก สันติสุข การให้อภัย มิตรภาพและความดีบริบูรณ์ของเรา”
·      “เรามีเพียงลิ้นของลูก ที่บอกกับพี่น้องชายหญิงของเราว่าทำไมเราถึงเสด็จมาในโลก ทำไมเราต้องรับทรมานและสิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขา”
พระเยซูเจ้าทรงเชิญชวนเราให้ร่วมมือกับพระองค์ในการทำการอัศจรรย์ เหมือนอย่างเด็กคนนั้นที่ได้มอบ “ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว”  ซึ่งเป็นอาหารสำหรับตัวเขาเองและครอบครัวให้พระองค์ ทรงกล่าวถวายพระพรและแจกจ่ายแก่ทุกคน เมื่อทุกคนเห็นแบบอย่างนี้ ต่างนำอาหารที่ตนเองเตรียมมาแบ่งปันซึ่งกันและกัน อัศจรรย์จึงเกิดขึ้น นั่นคือ พระองค์ทรงเปลี่ยนใจที่เห็นแก่ตัวของพวกเขาแต่ละคนให้เป็นคนใจกว้างและคิดถึงคนอื่น
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องเป็นคนใจกว้างและคิดถึงคนอื่น ความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ยิ่งใหญ่และไร้ขีดจำกัด ทรงเอาพระทัยใส่และเลี้ยงดูประชากรของพระองค์ในเวลาที่พวกเขาเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ “พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม” (มธ 5:45) เราต้องเป็นเหมือนพระองค์ในความใจกว้างและคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
ประการที่สอง เราต้องแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น  เราได้รับการเรียกให้เป็นเครื่องมือของพระเจ้า ในการแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่นด้วยความใจกว้าง เป็นต้น คนอดอยาก เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ภัยพิบัติใดๆ ที่เกิดขึ้นในโลก ไม่สามารถเอาชนะธารน้ำใจของมนุษย์ได้ อัศจรรย์เกิดขึ้นทันทีเมื่อเราเริ่มแบ่งปัน ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว” ของเรากับผู้อื่น
ประการที่สาม เราต้องแบ่งปันองค์พระคริสตเจ้ากับผู้อื่น ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเป็นรูปหมายถึง ศีลมหาสนิท “ปังทรงชีวิต” ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบพระองค์เองเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณของเรา ในพิธีบูชาขอบพระคุณเราได้กลายเป็นผู้แบ่งปันองค์พระคริสต์เจ้า ทรงประทับอยู่เคียงข้างเราและรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก เราถูกเรียกร้องให้นำพระองค์กลับออกไปในชีวิตประจำวัน และแบ่งปันความรัก ความเมตตาและการให้อภัยของพระองค์กับทุกคน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ร่วมมือกับพระองค์ ไม่ว่าสิ่งใดที่เรามอบแด่พระองค์ อาทิ เวลาที่เราให้กับพระองค์ ความรู้ความสามารถของเรา ความทุกข์ยากลำบากหรือสิ่งต่างๆ ที่เรามีและเป็น พระองค์สามารถทำให้เกิดผลในแบบที่เราคาดไม่ถึง พระองค์ทรงเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น เหมือนที่ทรงทวีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคน
พระเยซูเจ้าทรงต้องการ “ขมมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว” ของเราเพื่อทำอัศจรรย์ พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราทำบางสิ่งบางอย่าง ศิษย์พระคริสต์ต้องแบ่งปันความรักและชีวิตของตนกับผู้อดอยาก ลำบากเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือ ใช้ความรู้ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่มีเพื่อพระเจ้า วางทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ อัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นในแบบที่เราคาดไม่ถึง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
27 กรกฎาคม 2018
ภาพ: ขนมปังที่ถูกบิ, ร้านอาหารใกล้เขาเฮอร์โมน, แคว้นกาลิลี, อิสราเอล; 2018-05-25