วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

มาตรฐานความรักแบบคริสตชน


มาตรฐานความรักแบบคริสตชน
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา
ปี C
1 ซมอ 26:2,7-9, 12-13, 22-23
1 คร 15:45-46
ลก 6:27-28
บทนำ
ปี 1947 อังกฤษได้แบ่งอินเดียของเป็นฮินดูอินเดียกับมุสลิมอินเดีย (ปากีสถาน) มหาตะมะ คานธีได้อดอาหารประท้วงเพื่อหยุดความรุนแรงที่ปะทุขึ้นระหว่างฮินดูกับมุสลิม ในห้วงเวลานั้นมีฮินดูคนหนึ่งมาหาคานธีและสารภาพว่า “ผมคงต้องตกนรกและไม่มีใครช่วยผมได้” คานธีถามชายคนนั้นว่าทำไมเขาถึงคิดว่าตนเองต้องตกนรก ชายนั้นตอบว่าเขาเป็นฮินดูและมุสลิมได้ฆ่าลูกของเขาระหว่างเกิดการจลาจล
เพื่อแก้แค้นชายฮินดูได้ฆ่าเด็กมุสลิมและพ่อแม่ของเขา แต่หลังจากนั้นเขารู้สึกผิดมาก คานธีกล่าวว่า “ฉันรู้วิธีหนึ่งสามารถช่วยท่านมิให้ตกนรก จงไปหาเด็กมุสลิมคนหนึ่งที่สูญเสียบิดามารดา นำเขากลับบ้าน ให้การศึกษาและเลี้ยงดูเขาให้เติบโตขึ้นแบบมุสลิม แล้วท่านจะไม่ตกนรก” เมื่อคานธีถูกลอบสังหารปี 1948 อริยบทสุดท้ายที่คานธีกระทำคือ ประนมมือขึ้นแต่ริมฝีปาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้อภัยตามแบบฮินดู
คานธีเป็นผู้เข้าใจความหมายของ การรักศัตรูและการให้อภัย” ซึ่งเป็นมาตรฐานความรักแบบคริสตชนที่พระเยซูเจ้าทรงสอน ทั้งนี้เพราะพระองค์ตระหนักว่าความชั่วไม่สามารถชนะได้ด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น แต่ชนะได้ด้วย “ความดี ความรัก และการให้อภัย” ดังนั้น คริสตชนต้องรักศัตรูและให้อภัยผู้ที่กระทำผิดต่อเรา
1.       มาตรฐานความรักแบบคริสตชน
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าต้องการวางกรอบสำหรับผู้อยากเป็นศิษย์ของพระองค์ เพื่อการดำเนินชีวิตในความรักครบครัน โดยเฉพาะในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง ซึ่งสามารถเข้าใจได้ใน 2 ลักษณะคือ การทำดีต่อทุกคนและต้อนรับทุกคนโดยไม่แบ่งแยก แต่ความรักยิ่งใหญ่กว่าคือ การรักศัตรูและให้อภัยผู้ที่ทำไม่ดีต่อเรา ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในชีวิตของพระเยซูเจ้า ในแบบอย่างแห่งความรักของพระองค์บนไม้กางเขน
 “การรักศัตรูและการให้อภัย” เป็นมาตรฐานของความรักแบบคริสตชน ซึ่งสะท้อนความรักของพระเจ้าที่ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด แต่ธรรมชาติและความอ่อนแอตามประสามนุษย์ทำให้เรารักศัตรูได้ยาก เราเลือกรักเฉพาะผู้รักเราและทำดีต่อเรา พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจและรู้ถึงความยากลำบากนี้ พระองค์ทรงท้าทายเราให้ออกจากตัวเอง “ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร” (ลก 6:32)
เราต้องรักศัตรูเพราะการรักศัตรูเป็นรูปแบบหนึ่งของการประกาศพระวรสาร “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) อีกทั้ง ดำเนินชีวิตตากกฎทองที่พระเยซูเจ้าตรัสถึง “ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด” (ลก 6:31)  ด้วยการเลียนแบบพระบิดาเจ้าสวรรค์ในความดีและความเมตตากรุณา  “เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและคนชั่วร้าย” (ลก 6:35)
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องมีหัวใจแห่งการให้อภัย พระเยซูเจ้าได้วางแนวทางสำหรับศิษย์ของพระองค์บนพื้นฐานของ “ความรักศัตรูและการให้อภัย” ในการปฏิบัติต่อผู้ที่ทำไม่ดีต่อเรา ที่ทำให้เราต้องลำบากเดือดร้อนหรือไม่มีความสุข พระองค์บอกเราว่าเราต้องยกโทษและให้อภัยด้วยใจกว้าง แม้เป็นเรื่องยากลำบากในการรักตอบ แต่อย่างน้อยเราต้องไม่ถือโทษโกรธเคืองหรือผูกพยาบาท นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงท้าทายคริสตชนแต่ละคน
ประการที่สอง เราต้องรักและอธิษฐานภาวนาให้ผู้ทำร้ายเรา สิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัส “จงรักศัตรู... จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน” (ลก 6:27-28) ชัดเจนในตัวมันเอง เพราะเวลาที่เราเกลียดชังและแค้นเคือง ผลสุดท้ายคือการทำลายตัวเราเองมากกว่าทำลายศัตรูของเรา ทำให้เราวุ่นวายใจ ไม่เป็นสุข ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ความเกลียดชังไม่ได้ทำอะไรศัตรูของเรา “กระสุนแห่งความเกลียดชังและแค้นเคืองจะทำลายศัตรูของเราได้ เมื่อมันทะลุผ่านร่างของเราแล้วเท่านั้น”
ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตตามกฎทอง “ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด” (ลก 6:31)  เราต้องพยายามดำเนินชีวิตเยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงรักทั้งคนดีและคนชั่ว คนชอบธรรมและคนอธรรม ความรักจึงเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ความครบครันเหมือนพระบิดาเจ้าสวรรค์
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเราให้รักเพื่อนมนุษย์โดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ต้องรักแบบไร้ข้อจำกัดและไม่มีกรณียกเว้น มาตรฐานความรักแบบคริสตชนที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดและทำให้เห็นด้วยชีวิตของพระองค์คือ การรักศัตรูและการให้อภัย ให้เราได้รักและให้อภัยผู้ที่ทำไม่ดีต่อเราด้วยใจกว้าง ตอบแทนความชั่วด้วยความดี แม้เป็นสิ่งที่ทำได้อยาก แต่อย่างน้อยเราต้องอธิษฐานภาวนาเพื่อเขา
คริสตชนต้องเป็นคนดีและปฏิบัติต่อกันเยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ที่ทรงความดีบริบูรณ์ ทัศนคติและกิจการทุกอย่างที่เราทำต้องเลียนแบบพระเจ้าในความใจดี มีเมตตา และความรัก เป็นการง่ายที่จะรักคนที่รักเรา แต่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องให้เราทำมากกว่านั้น ศิษย์พระคริสต์ต้องรักศัตรู ทำดีต่อผู้ที่ทำไม่ดีต่อเรา และอธิษฐานภาวนาเพื่อเขา เราถูกเรียกให้เป็นผู้ให้อภัย มีความเมตตากรุณาและไม่แก้แค้น
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
23 กุมภาพันธ์ 2019
ที่มาภาพ: http://www.tellthelordthankyou.com/blog/2017/9/28/luke-627-28-enemies

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น