วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความช่วยเหลือของพระเจ้า


ความช่วยเหลือของพระเจ้า

วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 13
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ปชญ 1:13-15;2:23-24
2 คร 8:7,9,13-15
มก 5:21-43

บทนำ

 มีเรื่องเล่าว่า เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผู้คนพากันอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัย เว้นแต่หญิงชราคนหนึ่งที่ไม่ยอมทิ้งบ้านหนีไปไหน น้ำเริ่มท่วมพื้นชั้นล่าง ขณะที่เธอยืนตรงขอบหน้าต่างห้องครัว มีเรือลำหนึ่งผ่านมาร้องบอกให้เธอขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่หญิงชราปฏิเสธพร้อมกับบอกว่า “ฉันวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะต้องช่วยฉัน”

วันต่อมาน้ำเริ่มท่วมถึงชั้นที่สองของบ้าน ขณะที่หญิงชรายืนอยู่ที่หน้าต่างชั้นสองมองดูน้ำที่กำลังท่วมสูงขึ้น เรืออีกลำหนึ่งผ่านมาและบอกให้เธอขึ้นมาบนเรือเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่หญิงชราปฏิเสธพร้อมกับพูดเช่นเดิมว่า “ฉันวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงช่วยฉัน” คนขับเรือจึงแล่นเรือจากไป

วันต่อมาน้ำท่วมถึงหลังคาบ้าน หญิงชราต้องหนีขึ้นบนหลังคา ขณะที่เธออยู่บนหลังคารอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างมีความหวัง เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินมา หย่อนบันไดเชือกและประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้เธอปีนบันไดเชือกขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด แต่หญิงชรายังคงปฏิเสธและร้องบอกว่า “ฉันวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงช่วยฉัน” นักบินจึงบินจากไป

ที่สุด น้ำท่วมมิดหลังคาบ้านทำให้หญิงชราจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากเธอเป็นคนชอบธรรมจึงได้เข้าสวรรค์ ก่อนจะเข้าสวรรค์เธอได้พบนักบุญเปโตรและได้บ่นกับเปโตรว่า “ฉันวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงช่วยฉัน แต่ทำไมพระองค์ถึงปล่อยให้ฉันจมน้ำตาย” เปโตรมองดูหญิงชราอย่างงงงวยและพูดกับเธอว่า “เราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยายถึงปฏิเสธความช่วยเหลือของพระเจ้าเล่า ทั้งๆ ที่พระองค์ได้ส่งเรือสองลำและเฮลิคอบเตอร์อีกหนึ่งลำไปช่วย”

พระวรสารวันนี้ ได้แสดงถึงบุคคลสองคนที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นเดียวกับหญิงชราที่ถูกน้ำท่วม หญิงที่ป่วยเป็นโรคตกเลือดมาสิบสองปี กับไยรัสหัวหน้าศาลาธรรมที่บุตรสาววัยสิบสองขวบของเขากำลังป่วยหนัก ทั้งสองคนต่างเชื่อวางใจในพระเจ้าเช่นเดียวกับหญิงชราคนนั้น แต่ความเชื่อวางใจของพวกเขาแตกต่างอย่างใหญ่หลวงกับของหญิงชราที่เราได้ยินในตอนต้น

1.           ความช่วยเหลือของพระเจ้า

หญิงที่ป่วยเป็นโรคตกโลหิตมีความเชื่อว่า พระเยซูเจ้าสามารถรักษาโรคตกเลือดที่เธอทุกข์ทรมานมาสิบสองปีให้หายได้ แต่เธอตระหนักว่าเธอเองต้องทำบางสิ่งบางอย่าง เธอไม่ได้นั่งอยู่ที่บ้านรอพระเยซูเจ้ามาหา แต่ครั้นจะเปิดเผยตัวไปพบพระเยซูเจ้าคงไม่ได้ เพราะจะทำให้พระองค์เป็นมลทิน เธอจึงเดินเบียดเสียดไปกับฝูงชนเพื่อสัมผัสชายเสื้อของพระองค์ ทำให้อาการตกเลือดที่เรื้อรังมานานได้รับการรักษาให้หาย

เช่นเดียวกันไยรัส หัวหน้าศาลาธรรม ซึ่งเป็นผู้นำและเป็นที่นับหน้าถือตาในหมู่ชาวยิว เขาเชื่อว่าพระเยซูเจ้าสามารถรักษาบุตรสาวของเขาซึ่งป่วยหนักให้หายได้ เขาตระหนักว่าจะต้องทำบางสิ่งด้วยการไปพบพระเยซูเจ้า เพื่อขอร้องพระองค์ให้มารักษาบุตรสาวของเขาซึ่งนอนป่วยอยู่ที่บ้าน เขาละทิ้งตำแหน่งอันมีเกียรติ ศักดิ์ศรีและอคติที่เคยมีเพื่อไปพบกับพระเยซูเจ้าด้วยตนเอง

ทั้งหญิงที่ป่วยเป็นโรคตกโลหิตและไยรัส ได้กระทำมากกว่าความเชื่อวางใจ พวกเขาได้ทำส่วนของพวกเขา ด้วยการใช้ช่องทางปกติทั่วไปที่เป็นไปได้ เพื่อร้องขอการรักษาจากพระเยซูเจ้าที่พวกเขาต้องการ เราไม่สามารถนั่งงอมืองอเท้าโดยไม่ทำอะไร เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า เราจะต้องร่วมมือกับพระเจ้า ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด

นักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลา ได้ขยายความความร่วมมือกับพระเจ้าในแบบที่ว่า “เราต้องทำงานของเราประหนึ่งว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา แต่เราต้องภาวนาประหนึ่งว่าทุกอย่างขึ้นกับพระเจ้า” นั่นหมายความว่า เราต้องร่วมมือกับพระเจ้าและใช้ช่องทางปกติทั่วไปที่พระเจ้าทรงประทานให้ ก่อนที่เราจะร้องขอพระองค์ให้ช่วยเหลือเราด้วยวิธีพิเศษ

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ

ประการแรก เราจะต้องทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ก่อนที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า เราต้องออกแรงทำในส่วนของเราที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด เหมือนนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการผ่านการสอบ ก็ต้องอ่านหนังสือ ทบทวนวิชาต่างๆ ที่ได้เรียนมา เข้าทำนอง “พระเจ้าจะช่วยคนที่ช่วยตัวเอง”

ประการที่สอง เราต้องมีใจเมตตาและปฏิบัติต่อคนที่เจ็บป่วยด้วยความรัก โรคที่คนเป็นกันมากที่สุดในปัจจุบันคือโรคขาดความรัก นี่คือพันธกิจแห่งการเยียวยารักษาของพระศาสนจักรในโลก เมื่อคนใดคนหนึ่งเจ็บป่วยไม่สบาย  ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาต้องการการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตากรุณา การเยี่ยมเยียนและอยู่ด้วยกับเขาคือโอสถชั้นดีที่คนป่วยต้องการมากที่สุด

ประการที่สาม เราต้องวางใจในพระทัยกรุณาและอำนาจของพระเจ้า มนุษย์ได้รับชีวิตมาจากพระเจ้า พระองค์สามารถขับไล่โรคภัยไข้เจ็บและความตายได้ เงื่อนไขแรกสุดเพื่อคำภาวนาของเราจะได้เกิดผล เราต้องวางใจในพระทัยกรุณาของพระเจ้า ผ่านทางการหมั่นภาวนา มาหาพระองค์บ่อยๆ ทางศีลศักดิ์สิทธิ์ รำพึงและศึกษาพระวาจาของพระองค์อยู่เสมอ

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวรสารวันนี้บอกให้เราทราบถึงพระทัยกรุณาและอำนาจของพระเจ้า ซึ่งสามารถขจัดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของเรามนุษย์ให้หมดสิ้นไปได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือหรือการเยียวยารักษาจากพระเจ้า เราต้องมีความเชื่อวางใจในพระองค์และต้องแสดงออกภายนอกให้พระองค์ได้ประจักษ์ ด้วยการทำส่วนของเราให้ดีที่สุด

พระเจ้าทรงรักเรามากจึงให้อิสระแก่เรา ไม่บังคับให้เราต้องรับความช่วยเหลือจากพระองค์ นี่คือเครื่องหมายของความรักแท้ พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้เราได้แบ่งปันและแสดงออกถึงความรักแท้นี้กับเพื่อนพี่น้อง เป็นต้นคนที่เจ็บป่วย กำลังทนทุกข์และต้องการความช่วยเหลือ ให้เราได้มอบความวางใจอย่างเต็มเปี่ยมในพระเจ้าผู้ทรงชีวิต เจริญชีวิตในความรักต่อพระองค์และต่อกันและกัน เป็นต้นในครอบครัว หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
29 มิถุนายน 2012

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สารวัดนาบัว, ปีที่ 3 ฉบับที่ 111


สารวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว

ปีที่ 3  ฉบับที่ 111  วันที่ 24  มิถุนายน ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555): http.//dondaniele.blogspot.com
เลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร 47120. 086-231-3231
รา
พิธีล้างบาป ลูชีอา ยุวดี มิ่งแสง สมาชิกใหม่รายล่าสุดของวัดนาบัว เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน
สมโภชนักบุญยอห์น บัปติสต์ บังเกิด

พี่น้องที่รัก วันนี้เราสมโภชนักบุญยอห์น บัปติสต์ บังเกิด ในรอบปีพิธีกรรมของพระศาสนจักรส่วนใหญ่เราจะฉลองวันเกิดในสวรรค์ (วันตาย) ของบรรดานักบุญ ส่วนการฉลองวันเกิดจริงๆ นั้นมีเพียง 3 วันเท่านั้นคือ วันพระคริสตสมภพ (25 ธันวาคม), วันแม่พระบังเกิด (8 กันยายน) และวันนักบุญยอห์น บัปติสต์บังเกิด (24 มิถุนายน) มีพียงนักบุญยอห์น บัปติสต์เพียงองค์เดียวที่พระศาสนจักรฉลองทั้งวันเกิดและวันตาย

ที่สำคัญ วันนี้ถือเป็นวัน “สมโภช” เนื่องจากนักบุญยอห์น บัปติสต์ เป็นผู้เตรียมทางล่วงหน้าสำหรับพระผู้ไถ่ ที่ได้เตรียมจิตใจชาวอิสราแอลให้พร้อมสำหรับการต้อนรับองค์พระผู้ไถ่ ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพราะความซื่อสัตย์ต่อการเรียกของพระเจ้า พระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงท่านว่า “ในหมู่ผู้ที่เกิดจากหญิง ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ทำพิธีล้าง” (มธ 11:11)
 ลูชีอา ยุวดี มิ่งแสง เป็นบุตรีของยอห์น บอสโก ศิริศักดิ์ กับมารีอา สุภาพร

บทอ่านแรก หนังสือประกาศกอิสยาห์บอกให้เราทราบล่วงหน้าถึง “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” ซึ่งหมายถึงของยอห์น บัปติสต์ ในฐานะประกาศกแห่งประชากรของพระเจ้า ผู้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติเพื่อความรอดของเรามนุษย์ ยอห์นได้รับการเรียกและตั้งชื่อให้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

บทอ่านที่สอง ในหนังสือกิจการอัครสาวก นักบุญเปาโลมองกษัตริย์ดาวิดเป็นทั้งรูปแบบของพระเยซูเจ้าและบรรพบุรุษของพระองค์ อีกทั้งได้บอกให้เราทราบถึงพันธกิจของยอห์น บัปติสต์  ซึ่งเป็นผู้เตรียมทางล่วงหน้าสำหรับพระผู้ไถ่ โดยเตรียมจิตใจของชาวอิสราแอลให้เป็นทุกข์กลับใจด้วยการรับพิธีล้างในแม่น้ำจอร์แดน

พระวรสาร นักบุญลูกาได้บรรยายเกี่ยวกับการบังเกิดของยอห์น บัปติสต์ ในวันที่แปดที่มีการเข้าสุหนัตและการตั้งชื่อ บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้างต่างมาแสดงความยินดีกับนางเอลีซาเบธและครอบครัว ที่ได้ยืนยันว่าชื่อ “ยอห์น” ซึ่งหมายถึง “พระเจ้าทรงมีพระทัยเมตตา” และยอห์นได้ประกาศให้คนบาปได้ทราบว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้มีพระทัยเมตตา
 เก็บมาฝากจากท้องนา วิถีชีวิตชาวนาที่ต้องลำบากตรากตรำ "หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน"

°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1)       ขอบคุณกลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 5 ที่ช่วยกันทำความสะอาดวัด กลุ่มที่รับผิดชอบอาทิตย์ต่อไปคือ กลุ่มที่ 6

2)       วันสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล อัครสาวก วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ เลื่อนไปฉลองวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม

3)       ในช่วงนี้เด็กมาเรียนคำสอนน้อย ขอความร่วมมือจากพี่น้อง ได้ช่วยบอกบุตรหลานให้มาวัดเรียนคำสอนในตอนเช้าด้วย

4)       เงินทานวันเสาร์ 142.- บาท, เงินทานวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 5,295.- บาท

5)       วัดโพนสวาง เงินทานวันอาทิตย์ 318.- บาท: รายนามผู้บริจาคสมทบทุนสร้างหอระฆัง: (1) ยายบุญตา พรหมเทพ  500.- บาท, (2) นายวงศ์ กลางประพันธ์ 500.- บาท ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
 สระแดงวัดนาบัว เวลานี้ได้กลายเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของลูกหลานชาวนาบัว

พิธีมิสซาและวันฉลองในรอบสัปดาห

วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
24
07.00 น.
10.00 น.
1) มิสซาที่นาบัว
2) มิสซาที่โพนสวาง
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวนาบัว
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวโพนสวาง
จันทร์
25
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ มารีอา เซ็งบ้วย และมาระโก ย่งเฮง
อังคาร
26
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ มารีอา เซ็งบ้วย และมาระโก ย่งเฮง
พุธ
27
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
อุทิศให้ มารีอา เซ็งบ้วย และมาระโก ย่งเฮง
พฤหัสบดี
28
06.00 น.
ระลึกถึง น.อีเรเนโอ พระสังฆราช
อุทิศให้ มารีอา เซ็งบ้วย และมาระโก ย่งเฮง
ศุกร์
29
06.00 น.
สมโภช น.เปโตรและเปาโล
อุทิศให้ มารีอา เซ็งบ้วย และมาระโก ย่งเฮง
เสาร์
30
06.00 น.
19.30 น.
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
สมโภช น.เปโตรและเปาโล

 ด.ญ.ภรประเสริฐ สุขกิจ บุตรีนายไพโรจน์-นางชไมพร วัดโพนสวาง วัยขวบเศษ
ที่จากไปก่อนวัยอันสมควร เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การบังเกิดของนักบุญยอห์น บัปติสต์


การบังเกิดของนักบุญยอห์น บัปติสต์

วันอาทิตย์
สมโภชนักบุญยอห์น บัปติสต์บังเกิด
ปี A B C
อสย  49:1-6
กจ 13:22-26
ลก 1:57-66, 80

บทนำ

 คาร์ล บาร์ธ  (Karl Barth: 1886 – 1968) นักเทววิทยาคนสำคัญของศตวรรษที่ 20 ชาวสวิส มักจะตื่นขึ้นมาตอนเช้าอ่านหนังสือพิมพ์ และมองดูภาพวาดพระเยซูเจ้าตรึงกางเขนของมัทธีอัส กรูเนวาลด์ (Matthias Grünewald) ซึ่งเป็นภาพพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขน มีภาพแม่พระและคนอื่นๆ แทบเชิงกางเขนกำลังโศกเศร้า ส่วนนักบุญยอห์น บัปติสต์ยืนถือพระคัมภีร์ห่างออกไปและชี้ไปที่พระเยซูเจ้าบนกางเขน

ก่อนที่คาร์ล บาร์ธจะสอนเทววิทยาและเขียนหนังสือเกี่ยวกับข้อความเชื่อที่มีชื่อเสียง ท่านได้รำพึงภาพวาดนี้ โดยเฉพาะภาพของนักบุญยอห์น บัปติสต์ที่ชี้นิ้วไปที่พระเยซูเจ้า และได้ข้อสรุปว่า ในฐานะคริสตชน (ไม่ว่าจะเป็นนักเทววิทยา พระสงฆ์ ครู หมอ แม่บ้าน แม่ค้า ฯลฯ) งานของเราคือเป็นนิ้วมือที่ชี้ไปยังพระเยซูเจ้า ไม่ว่างานใดๆ ที่เรากระทำจะต้องนำไปสู่พระเยซูเจ้าบนกางเขนเสมอ

วันนี้เราสมโภชนักบุญยอห์น บัปติสต์บังเกิด ในรอบปีพิธีกรรมของพระศาสนจักรส่วนใหญ่เราจะฉลองวันเกิดในสวรรค์ (วันตาย) ของบรรดานักบุญ ส่วนการฉลองวันเกิดจริงๆ นั้นมีเพียง 3 วันเท่านั้นคือ วันพระคริสตสมภพ (25 ธันวาคม), วันแม่พระบังเกิด (8 กันยายน) และวันนักบุญยอห์น บัปติสต์บังเกิด (24 มิถุนายน) ที่สำคัญ วันนี้ถือเป็นวัน “สมโภช” เนื่องจากนักบุญยอห์น บัปติสต์ เป็นผู้เตรียมทางล่วงหน้าสำหรับพระผู้ไถ่ ที่ได้เตรียมจิตใจชาวอิสราแอลให้พร้อมสำหรับการต้อนรับองค์พระผู้ไถ่

1.           การบังเกิดของนักบุญยอห์น บัปติสต์

ยอห์น บัปติสต์ได้รับเลือกสรรจากพระเจ้าให้เตรียมทางสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเจ้าในโลก การบังเกิดมาของยอห์นจึงเป็นความชื่นชมยินดี เหนือสิ่งอื่นใด ยังเป็นวันฉลองพระเมตตากรุณาของพระเจ้า ที่โปรดให้นางเอลีซาเบธ มารดาของยอห์นซึ่งเป็นหมันและอยู่ในวัยชราได้ให้กำเนิดบุตรชาย ทำให้ความอับอายที่เธอเคยได้รับ (เพราะการไม่มีบุตร) หมดสิ้นไป สอดคล้องกับชื่อ “ยอห์น” ซึ่งหมายถึง “พระเจ้าทรงพระทัยเมตตา”

พระวรสารวันนี้ นักบุญลูกาบอกให้เราทราบว่า บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเอลีซาเบธและครอบครัว สำหรับพระกรุณาที่ได้รับจากพระเจ้า (ลก 1:58) อีกทั้งเป็นวันฉลองพระเมตตากรุณาของพระเจ้าตั้งแต่เริ่มแรก เพราะการบังเกิดของยอห์นได้ประกาศถึงการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า บุตรของพระเจ้าที่บังเกิดเป็นมนุษย์ในโลกเพื่อไถ่บาปมนุษยชาติ และยอห์นได้ประกาศให้คนบาปได้ทราบว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้มีพระทัยเมตตาด้วยชีวิตของท่าน

เมื่อนางเอลีซาเบธได้พบกับพระนางมารีย์ ยอห์นซึ่งอยู่ในครรภ์ของนางได้รับการชำระให้พ้นจากบาปกำเนิดและได้รับความศักดิ์สิทธิ์ จากพระเยซูเจ้าที่อยู่ในครรภ์ของพระมารดามารีย์ ยอห์นได้บังเกิดมาเป็นพยานถึงแสงสว่างและเตรียมจิตใจประชาชนให้พร้อมสำหรับการต้อนรับองค์พระผู้ไถ่ คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกบอกเราว่า “ยอห์น บัปติสต์เป็นมากกว่าประกาศก”

ทั้งนี้ก็เพราะว่า ยอห์นมีบทบาทที่สำคัญในประวัติศาสตร์ประชากรของพระเจ้า ท่านเป็นเหมือนกับสะพานที่เชื่อมระหว่างพันธสัญญาเก่ากับพันธสัญญาใหม่ ท่านได้เป็นพยานถึงแสงสว่าง และเป็นพยานถึงการเสด็จมาของพระจิตเจ้าเหนือพระเยซูเจ้าในการรับพิธีล้างที่แม่น้ำจอร์แดน ท่านได้ชี้บอกให้บรรดาศิษย์ทราบว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้าที่พวกเขารอคอย

ในเวลาเดียวกัน ยอห์นสำนึกในบทบาทของตนเองในการเตรียมทางสำหรับผู้ที่จะเสด็จมาภายหลัง “แต่ผู้ที่จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า” (มธ 3:11) ยอห์นไม่พูดถึงตัวท่านเองเลย ตรงข้าม ท่านตระหนักในความต่ำต้อยของตน “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้วยลง” (ยน 3:30) ท่านจึงไม่เป็นเพียงเสียงร้องในที่เปลี่ยว แต่เป็นประภาคารที่นำประชาชนตรงไปยังพระเจ้า

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ

ประการแรก เราต้องเป็นผู้เตรียมทางสำหรับพระเยซูเจ้า ยอห์นได้ประกาศให้ประชาชนทราบถึงการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ และเตรียมจิตใจพวกเขาให้พร้อมสำหรับการต้อนรับพระองค์ ทุกวันนี้ พระองค์ยังต้องการเราให้แสดงบทบาทของยอห์น ในการประกาศให้ทุกคนทราบว่าพระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รอด และเตรียมจิตใจพวกเขาให้ต้อนรับพระองค์ เราได้รับมอบหน้าที่นี้ตั้งแต่วันที่เราได้รับศีลล้างบาป

ประการที่สอง เราจะต้องเป็นผู้ชี้บอกพระเยซูเจ้า หลังจากได้พบพระเยซูเจ้า ยอห์นได้ชี้บอกศิษย์ของท่านว่า พระองค์ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้าและเชื้อเชิญพวกเขาให้ติดตามพระองค์ ชีวิตและกิจการต่างๆ ที่เรากระทำจะต้องนำไปสู่พระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน องค์ความรอดที่แท้จริง คริสตชนที่มิได้ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างให้ผู้คนที่อยู่รอบตัวเขาได้พบคนทางไปหาพระเจ้า มิใช่คริสตชนที่แท้จริง

ประการที่สาม เราต้องเป็นพยานถึงความถูกต้อง ยอห์นได้เป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้อง ด้วยการตำหนิกษัตริย์เฮโรดที่กระทำผิดศีลธรรม (เอาภรรยาของน้องชายมาเป็นภรรยาของตน) และท่านต้องจ่ายค่าความซื่อสัตย์ต่อความจริงด้วยชีวิตของตนเอง เราต้องกล้าที่จะเป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้อง มิใช่โอนอ่อนตามกระแสและค่านิยมของโลก

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ชีวิตของยอห์น บัปติสต์มีความหมายพิเศษสำหรับเราคริสตชน ผ่านทางศีลล้างบาปที่เราได้รับ เราได้รับการเรียกให้เป็นผู้เตรียมทางสำหรับองค์พระเจ้า และมีหน้าที่ในการเป็นพยานถึงองค์พระเยซูเจ้า ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกับยอห์น เพื่อให้คนอื่นได้เห็นและมีประสบการณ์ถึงความรักของพระคริสต์เจ้าที่มีต่อพวกเขา และพระประสงค์ของพระองค์ที่ปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอด

เราได้รับการเรียกให้เป็นผู้เทศน์สอน ชี้บอกและนำทุกคนให้มารู้จักพระคริสตเจ้า ชีวิตของเราทั้งแบบส่วนตัวและหมู่คณะจะมีความหมายก็ต่อเมื่อ เราได้นำสารของพระคริสตเจ้าไปแบ่งปันกับผู้อื่น ช่วยพวกเขาให้มารู้จักและมีประสบการณ์ความรักของพระองค์ผ่านทางแบบอย่างชีวิตที่ดีงามของเรา เพื่อพวกเขาจะได้พบแสงสว่างและเดินหนทางที่ถูกต้อง

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
22 มิถุนายน 2012