วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ศาลาร่วมใจ "ยวงบัตรี"

ศาลาร่วมใจ “ยวงบัตรี”

ศาลาร่วมใจ “ยวงบัตรี” ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องชาวนาบัว ที่ประสงค์จะมีศาลาเอนกประสงค์สำหรับใช้ในงานสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ตรงบริเวณใต้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่หน้าวัดไม้ของคุณพ่อปีแอร์ โกลาส์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณะและปรับภูมิทัศน์โดยรอบวัดไม้ให้สวยงาม อีกทั้ง สถานที่ตั้งศาลาอยู่ตรงข้ามและรับกับซุ้มประตูหอระฆังแม่พระราชินีแห่งสันติภาพ (ซุ้มแม่พระ) ทำให้วัดไม้ดูเด่นและงามสง่ายิ่งขึ้น
 การตัดและขนย้ายไม้เสาที่ได้รับบริจาค 17กันยายน 2012
 เสาไม้ต้นนี้ได้รับบริจาคจากยายขีน เมาบุดดา 
 ส่วนต้นข้างล่างได้รับบริจาคจากคุณพ่อสุรชาติ มุลสุทธิ

การก่อสร้างศาลาเริ่มจากการขอบริจาคไม้เสาจากพี่น้องชาวนาบัว ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากคนที่มีไม้ อาทิ ยายขีน เมาบุดดา, ยายคำจันทร์ พิมพ์นาจ, นายกาสิน พิมพการ, อาจายร์อุดร ขันละ และคุณพ่อสุรชาติ มุลสุทธิ ส่วนไม้โครงสร้างได้รับบริจาคจากนายแจ้ง ยาสาไชย, นายสมัย วงศ์ศรีจันทร์ และนายศรีอุดม เมาบุดดา ที่บริจาคไม้กะบกขนาดใหญ่สำหรับทำไม้โครงคร่าวทั้งหมด นอกนั้นพี่น้องชาวนาบัวยังได้ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อทำให้โครงการนี้สำเร็จ ด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลการกุศล ในวันที่บุตรหลานชาวนาบัวมาทำบุญอุทิศแก่ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับ วันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ได้เงินจำนวนทั้งสิ้น 60,550.- บาท
 พิธีเสกพื้นที่ก่อสร้าง วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2012
 พี่น้องชาวนาบัวช่วยกันเคลื่นย้ายไม้เสาไปที่หลุม
 ผู้ใหญ่ชาญชัย นาแว่นกำลังผูกเสาเอกเป็นสิริมงคล

ส่วนการก่อสร้างเริ่มลงมืออย่างจริงจังหลังมิสซาวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) โดยคุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส ได้เป็นประธานเสกพื้นที่ก่อสร้างพร้อมกับพี่น้องชาวนาบัว เพื่อขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับการก่อสร้างที่จะเริ่มต้นขึ้น ในตอนสายของวันเดียวกันพี่น้องชาวนาบัว ทั้งพ่อบ้าน-แม่บ้าน เด็กและเยาวชนได้ช่วยกันตั้งเสาขนาดใหญ่จำนวน 6 ต้นจนสำเร็จ ศาลาหลังนี้จึงเป็นเครื่องหมายแห่งความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องชาวนาบัวทุกคน
 เสาขนาดใหญ่ทั้ง 6 ต้นสามารถตั้งได้โดยง่าย
 ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องชาวนาบัวทุกคน
 ศาลาขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

การก่อสร้างได้ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ มีพิธีเสก-เปิดโอกาสสมโภชปิด 125 ปีแห่งความเชื่อและแพร่ธรรม และได้ชื่อว่า “ศาลาร่วมใจ ยวงบัตรี” เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องชาวนาบัวที่ได้มีส่วนในการสร้างศาลาหลังนี้ อีกทั้ง เป็นการน้อมรำลึกพระคุณของ คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ แท่ง ยวงบัตรี อดีตเจ้าอาวาสช่วงปี ค.ศ. 1932-1949 (พ.ศ. 2475-2492) ซึ่งเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงในการวางรากฐานและสร้างความเจริญสำหรับหมู่บ้านนาบัว ตลอดเวลา 17 ปีของการเป็นเจ้าอาวาส
 ช่วยกันปรับแต่งพื้นเพื่อวางเหล็กคานและตะแกรงพื้น
 วันเทพื้นคอนกรีตและคาน 15 มกราคม 2013
 ช่วยกันแกะเปลือกเตรียมทาสี 16 มกราคม 2013
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
 
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
30 มกราคม 2013
 
 วันเสก-เปิดศาลาใหม่โดยคุณพ่อวีระเดช ใจเสรี
 วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2013

 บางมุมของศาลาร่วมใจหลังงานฉลอง
 อีกมุมหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน



วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

สารวัดนาบัว, ปีที่ 3 ฉบับที่ 142




สารวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว

ปีที่ 3  ฉบับที่ 142  วันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556): http.//dondaniele.blogspot.com
เลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร 47120. 086-231-3231

รา

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก นักบุญลูกาได้แสดงให้เห็นถึงความรักและพระทัยเมตตากรุณาของพระเยซูเจ้า ที่มีต่อทุกคน โดยเฉพาะคนยากจน คนเดือนร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เราต้องดำเนินชีวิตให้สมกับการเป็นคริสตชนที่เชื่อในพระคริสตเจ้า และกล้าที่จะประกาศให้ทุกคนได้เข้าใจถึงความเป็นคริสตชนของเรา นี่คือพันธกิจของเราแต่ละคนและหมู่คณะในการนำข่าวดีของพระองค์ไปสู่ทุกคน

วันนี้พระวรสารได้ท้าทายเราให้ฟังข่าวดีของพระองค์ ยอมรับข่าวดีเข้ามาสู่ใจของเรา และยื่นมืออกในการปฏิบัติความรักกับคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบรอบตัวเรา เพื่อช่วยพวกเขาได้ตระหนักถึงความรัก พระทัยเมตตากรุณาและความโปรดปราณของพระเจ้า ที่เสด็จมาเพื่อช่วยเหลือเราทุกคน
 รำบายศรีจากลูกๆ เยาวชนต้อนรับประธานในพิธี
คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี อุปสังฆราชและคุณพ่อสุรชาติ มุลสุทธิ

บทอ่านที่ 1 พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงทำกับประชากรอิสราแอลเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ บทอ่านจากหนังสือเนหะมีย์ได้พูดถึงบทบัญญัติซึ่งได้กลายเป็นหัวใจของพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติคือกระบวนการฟื้นฟูชีวิตของตนเอง

บทอ่านที่ 2 พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาเพื่อเรียกประชาชนทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อและความรัก แม้เราจะมีความแตกต่างหลากหลาย แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า ความเป็นหนึ่งเดียวและความรักควรเป็นลักษณะเฉพาะของหมู่คริสตชน

บทพระวรสาร พระเยซูเจ้าได้ประกาศอย่างเปิดเผยถึงพันธกิจของพระองค์ในโลก นั่นคือการเสด็จมาเพื่อเริ่มการปฏิวัติความรักและความเมตตากรุณาในโลก “พระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ” (ลก 4:18-19)
 การแสดงชุด "เสียงฟืมส่งใจ" จากโรงเรียนบ้านนาบัว
 น้องนุ๊กนิ๊ก รัชฎาภรณ์ ดวงจันทร์ นักร้องเสียงดีวัยละอ่อน

°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1)       ขอบคุณสภาอภิบาลวัด ผู้นำหมู่บ้าน พลมารี แม่ครัว ครูคำสอน เยาวชนและพี่น้องทุกคนที่ช่วยกันเตรียมงานฉลองปิด 125 ปีแห่งความเชื่อ เสก-เปิดศาลาร่วมใจ “ยวงบัตรี” และเสก-เปิดพิพิธภัณฑ์ปีแอร์ โกลาส์อย่างยิ่งใหญ่  ส่วนผู้ที่รับผิดชอบและทำความสะอาดวัดในอาทิตย์ต่อไปคือกลุ่มที่ 1

2)       ขอบคุณพี่สุมาลี ยอแซฟ ที่ได้บริจาคดอกไม้สำหรับการตกแต่งวัดในปีนี้ เป็นจำนวนเงิน 5,110.- รวมถึงบรรดาซิสเตอร์และลูกๆ เยาวชนที่ช่วยกันจัดได้อย่างสวยงาม

3)       ขอเชิญพี่น้องร่วมฉลองวัดนักบุญเปาโลกลับใจ นามน วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ มิสซาเวลา 10.00 น.

4)       ประกาศศีลสมรส ระหว่างนายสุรเชษฐ์ พงษ์พิศ บุตรของนายสุทิศ-นางบังอร พงษ์พิศ จากอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ กับ เทเรซา ใดพร ปู่ภิรมย์ บุตรีของ เปโตร บุญไทย-เทเรซา ปีตา ปู่ภิรมย์ จากนาบัว ประกาศครั้งที่ 3

5)       เงินทานวันเสาร์ 253.- บาท, วันอาทิตย์ 8,326.- บาท, รับเงินบริจาคสร้างศาลาจาก (1) ครอบครัวนายชัยชนะ พิมพการ 1,000.- บาทม (2) ครอบครัวนายสุริยา ยอดคำอ่อน 500.- บาท และ (3) ครอบครัวนายสัมฤทธิ์ พิมพ์นาจ  500.- บาท, รับเงินขายเศษเหล็ก 205.- บาท, รับเงินต้นในมิสซาโดยคุณพ่อสุรชาติ มุลสุทธิ 8,900.- บาท

6)       วัดโพนสวาง เงินทานวันอาทิตย์ 520.- บาท
 ที่มาในเงาเสียงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ความภูมิใจของนาบัว
 บรรดาแม่บ้านที่มาในชุด "เบิ่งนครพนม" และ "จีบแล้วบ่ขอ"

พิธีมิสซาและวันฉลองในรอบสัปดาห

วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
27
07.00 น.
10.00 น.
มิสซาที่วัดนาบัว
มิสซาที่วัดโพนสวาง
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวนาบัว
สุขสำราญ สำหรับพี่น้องชาวโพนสวาง
จันทร์
28
06.30 น.
ระลึกถึง น.โทมัส อาไควนัส
 
อังคาร-พุธ
29-30
06.30 น.
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
 
พฤหัส
31
06.30 น.
ระลึกถึง น.ยอห์นบอสโก
 
ศุกร์
01
06.30 น.
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
 
เสาร์
02
10.00 น.
ฉลองการถวายพระกุมาร
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
 
คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี กำลังทำพิธีถวายโบสถ์ไม้และเสกพิพิธภัณฑ์
 และเสกกองข้าว อันมาจากน้ำพักน้ำแรงของพีน้องชาวนาบัว

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี


พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
ปี C
นหม 2-4, 5-6, 8-10
1 คร 12:12-30
ลก 1: 1-4; 4: 14-21

บทนำ

ในการสอนคำสอนเด็กครั้งหนึ่ง มีเด็กคนหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า “ทำไมเราไม่มีพระวรสารเพียงเล่มเดียว” เพราะการมีวรสารเพียงเล่มเดียวย่อมง่ายสำหรับการศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจ อีกทั้งจะเป็นพระวรสารแห่งความจริง ความบริสุทธิ์และความเที่ยงแท้ แต่เรามีพระวรสารถึงสี่เล่ม และแต่ละเล่มมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน ในความเป็นจริงหากเรามีพระวรสารเพียงเล่มเดียว เราก็จะเข้าใจพระเยซูเจ้าเพียงวิธีเดียว แบบเดียว

เราคงเคยได้ยินเรื่องเล่า “คนตาบอดคลำช้าง” เล่ากันว่ามีคนตาบอดหกคนถกเถียงกันว่าช้างเป็นอย่างไรกันแน่ คนแรกสัมผัสสีข้างช้างก็บอกว่าช้างเหมือนกำแพง คนที่สองสัมผัสงาช้างก็บอกว่าช้างเหมือนหอก คนที่สามสัมผัสงวงช้างก็บอกว่าช้างเหมือนงู คนที่สี่สัมผัสขาช้างก็บอกว่าช้างเหมือนต้นไม้ คนที่ห้าสัมผัสใบหูช้างก็บอกว่าช้างเหมือนพัด และคนที่หกสัมผัสหางช้างก็บอกว่าช้างเหมือนเชือก คนตาบอดแต่ละคนต่างยืนยันว่าตนเองถูกต้องส่วนคนอื่นผิด

สิ่งที่แต่ละคนพูดล้วนถูกต้องทั้งนั้น แต่ละคนต่างมีประสบการณ์เกี่ยวกับช้างในแง่มุมของตน แต่มิใช่ความรู้ทั้งหมดหรือความเป็นจริงเกี่ยวกับช้างทั้งครบ เมื่อเรานำประสบการณ์ของแต่ละคนมารวมกัน เราก็จะได้ภาพความเป็นจริงเกี่ยวกับช้าง เช่นเดียวกับความเป็นจริงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าที่ผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสี่นำเสนอ แต่ละท่านต่างเล่าเรื่องราวและพันธกิจที่แตกต่างกันของพระเยซูเจ้า ช่วยให้เราได้เข้าใจความเป็นจริงเกี่ยวกับพระองค์ได้ดียิ่งขึ้น

1.           พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี

หลังสังคายนาวาติกันครั้งที่สอง บทพระวรสารวันอาทิตย์ของพระศาสนจักรได้รับการปรับปรุงให้มีวงรอบสามปีคือ ปี A พระวรสารนักบุญมัทธิวที่เน้นความเป็นกษัตริย์ที่ทรงอำนาจของพระเยซูเจ้า, ปี B พระวรสารนักบุญมาระโกที่เน้นฤทธานุภาพของพระเยซูเจ้าเพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระแมสิยาห์ (ในการกระทำและอำนาจเหนือธรรมชาติ) และปี C พระวรสารนักบุญลูกาเน้นพระเมตตากรุณาของพระคริสตเจ้า (ที่มีต่อคนยากจน คนที่ถูกทอดทิ้ง คนต่างชาติและผู้หญิง) ส่วนพระวรสารนักบุญยอห์นใช้อ่านในวันอาทิตย์ในเทศกาลปัสกา เน้นธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งเป็นอยู่กับพระบิดาเจ้าตั้งแต่นิรันดร

วันนี้เราเริ่มต้นพระวรสารโดยนักบุญลูกา ในอารัมภบท (ลก 1:1-4) ลูกาได้บอกให้เราทราบถึงเหตุผลในการเขียนพระวรสารของท่าน นั่นคือเพื่ออธิบายให้เทโอฟีลัส เจ้าหน้าที่ชาวโรมันได้เข้าใจถึงความเป็นคริสตชน เราได้พยายามที่จะอธิบายให้คนอื่นได้เข้าใจถึงความเป็นคริสตชนของเราบ้างไหม หลายคนเข้าใจว่าคริสต์ศาสนาเป็นศาสนาที่เน้นเรื่องบาป การพิพากษา นรกและสวรรค์ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าพระเจ้าในแบบตำรวจที่คอยจับผิดและลงโทษมนุษย์ ซึ่งลูกาได้แสดงให้เห็นถึงความรักและพระเมตตาของพระเจ้ามากกว่าการลงโทษ

นั่นคือเหตุผลที่ลูกาบอกเทโอฟีลัสถึงความเชื่อคริสตชน โดยมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศาลาธรรมแห่งเมืองนาซาเร็ธอย่างมีคุณค่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบแต่เฉพาะในพระวรสารโดยนักบุญลูกาเท่านั้น พระเยซูเจ้าได้ประกาศอย่างเปิดเผยถึงพันธกิจของพระองค์ในโลก นั่นคือการเสด็จมาเพื่อเริ่มการปฏิวัติความรักและความเมตตากรุณาในโลก “พระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า” (ลก 4:18-19)

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวรสารวันนี้ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราคริสตชน ในการดำเนินชีวิตประจำวันหลายประการ

ประการแรก เราต้องอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจความเป็นคริสตชน ยังมีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้จักนามเยซูและมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา เป็นหน้าที่ของเราคริสตชนแต่ละคนที่จะต้องอธิบายให้พวกเขาได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับความเชื่อและข้อคำสอนของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

ประการที่สอง เราต้องฟังพระวาจาของพระเจ้าด้วยหัวใจ พยายามทำให้พระวาจาของพระองค์เป็นจริงในชีวิตของเรา ในทุกสถานการณ์ของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในความรัก ความเมตตากรุณาและเอาใจใส่ที่เราพึงมีต่อกัน ตามแบบอย่างของพระคริสตเจ้าที่นักบุญลูกาพยายามนำเสนอ

ประการที่สาม เราต้องประกาศข่าวดีของพระเจ้า พระเยซูเจ้าได้เริ่มต้นพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีแก่คนยากจน คนถูกกดขี่และประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้าที่นาซาเรธ บ้านเกิดของพระองค์ เราจึงต้องเริ่มประกาศข่าวดีจากครอบครัวและหมู่บ้านของเรา ตามคำประกาศของพระเยซูเจ้า โดยเฉพาะกับคนยากจน คนถูกกดขี่และคนที่ต้องการความช่วยเหลือ

บทสรุป

พี่น้องที่รัก นักบุญลูกาได้แสดงให้เห็นถึงความรักและพระทัยเมตตากรุณาของพระเยซูเจ้า ที่มีต่อทุกคน โดยเฉพาะคนยากจน คนเดือนร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เราต้องดำเนินชีวิตให้สมกับการเป็นคริสตชนที่เชื่อในพระคริสตเจ้า และกล้าที่จะประกาศให้ทุกคนได้เข้าใจถึงความเป็นคริสตชนของเรา นี่คือพันธกิจของเราแต่ละคนและหมู่คณะในการนำข่าวดีของพระองค์ไปสู่ทุกคน

วันนี้พระวรสารได้ท้าทายเราให้ฟังข่าวดีของพระองค์ ยอมรับข่าวดีเข้ามาสู่ใจของเรา และยื่นมืออกในการปฏิบัติความรักกับคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบรอบตัวเรา เพื่อช่วยพวกเขาได้ตระหนักถึงความรัก พระทัยเมตตากรุณาและความโปรดปราณของพระเจ้า ที่เสด็จมาเพื่อช่วยเหลือเราทุกคน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
25 มกราคม 2013

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

สารวัดนาบัว, ปีที่ 3 ฉบับที่ 141




สารวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว

ปีที่ 3  ฉบับที่ 141  วันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556): http.//dondaniele.blogspot.com
เลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร 47120. 086-231-3231
พี่น้องชาวนาบัวกำลังช่วยกันเตรียมฉลองความเชื่อประจำปี
รา

สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก การอัศจรรย์ที่เมืองคานา ถือเป็นเครื่องหมายแรกในเจ็ดอย่างในพระวรสารโดยนักบุญยอห์น ซึ่งพระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ พระเยซูเจ้า พระมารดาและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญให้ไปในงานสมรส เมื่อเหล้าองุ่นหมดลงแม่พระได้บอกพระเยซูเจ้า และพระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นเหล้าองุ่นอย่างดี

ทุกวันอาทิตย์พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนปังและเหล้าองุ่น ให้กลายเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตเรา ให้เราได้ทำให้ทุกวันอาทิตย์กลายเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ที่เรามาร่วมแบ่งปันชีวิตกับเพื่อนพี่น้องรอบพระแท่น เพื่อให้พระองค์เติมเต็มจิตใจที่ว่างเปล่าของเรา ด้วยเหล้าองุ่นใหม่แห่งความรัก ความใส่ใจและความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
 การปรับดินและเทพื้นศาลาร่วมใจที่สร้างใหม่
 ช่วยการคนละไม้ละมือเพื่อให้งานแล้วเสร็จ (15 มกราคม)

บทอ่านที่ 1 ประกาศกอิสยาห์ได้ให้ความมั่นใจว่า พระแมสิยาห์จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์อีกครั้ง พระองค์จะทำให้พวกเขาศักดิ์สิทธิ์และชื่นชมยินดีเหมือนเจ้าบ่าวที่ยินดีในตัวเจ้าสาว อีกทั้งเตือนเราว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้โดยลำพัง มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงรักและช่วยเหลือเรา

บทอ่านที่ 2 นักบุญเปาโลได้พูดถึงพระพรต่างๆ มากมายที่พระเจ้าทรงค้ำจุนท่าน พระพรเหล่านี้จะต้องใช้เพื่อจุดประสงค์ที่สร้างสรรค์ สำหรับการสร้างเสริมหมู่คณะให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นส่วนหนึ่งแห่งพระกายของพระคริสตเจ้าในพระศาสนจักร โดยย้ำว่าเราจะต้องรักษาความเป็นหนึ่งเดียว เนื่องจากเราต่างเป็นหนึ่งเดียวในองค์พระจิตเจ้าองค์เดียว

บทพระวรสาร การอัศจรรย์ที่หมู่บ้านคานาเชื้อเชิญเราให้เลียนแบบอย่างของแม่พระ ในการไวต่อความเดือดร้อนและความต้องการของผู้อื่น คิดถึงผู้อื่นก่อนและเป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซูเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้ง เปิดเผยให้เราทราบถึงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า ที่ทรงรับเอาบทบาทของเจ้าบ่าวในการประทานเหล้าองุ่นเลี้ยงแขกที่มาในงานสมรส
 บรรดาช่างกำลังเร่งมุงหลังคา (15 มกราคม)
 การเทพื้นเสาต้นกะบกใหญ่ในวันเดียวกัน

°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1)       ขอบคุณกลุ่มวิถีชุมชนวัดกลุ่มที่ 11 ที่ช่วยกันทำความสะอาดวัด กลุ่มที่รับผิดชอบอาทิตย์ต่อไปคือ กลุ่มที่ 12

2)       ขอบคุณพี่น้องที่มาช่วยปาดหน้าปูนพื้นศาลาและพื้นเสาต้นกะบก และทำความสะอาดเตรียมสถานที่ในอาทิตย์ที่ผ่านมา วันนี้เช่นเดียวกันขอแรงพี่น้องได้มาช่วยกันพัฒนาและเตรียมฉลองวัด

3)       ขอบคุณพี่น้องที่ได้ช่วยกันบริจาคข้าวสำหรับบ้านเณรฟาติมาท่าแร่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.) ได้ข้าวเปลือก 116 ถุงปุ๋ย ข้าวสารครึ่งถุงปุ๋ย และเงิน 230.- บาท

4)       ขอเชิญพี่น้องได้เตรียมจิตใจคืนดีกับพระโอกาสฉลองวัด วันศุกร์ที่ 25 มกราคม เวลา 14.30-17.00 น. และร่วมในมิสซาเตรียมจิตใจโดยคุณพ่อสมรชัย กระแสสิงห์ เวลา 19.00 น.

5)       ประกาศศีลสมรส ระหว่างนายสุรเชษฐ์ พงษ์พิศ บุตรของนายสุทิศ-นางบังอร พงษ์พิศ จากอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ กับ เทเรซา ใดพร ปู่ภิรมย์ บุตรีของ เปโตร บุญไทย-เทเรซา ปีตา ปู่ภิรมย์ จากนาบัว ประกาศครั้งที่ 2

6)       เงินทานวันเสาร์ 943.- บาท, วันอาทิตย์ 2,122.- บาท, รับเงินต้นในมิสซา (1) พ่อน้องมินท์ 1,000.- บาท, (2) พ่อตู้ซี มะวงศ์งอย 3,110.- บาท, (3) น.ส.กิรตรา ยอดคำอ่อน 400.- บาท และเงินบริจาคจาก นายสุรศักดิ์ ทองอ่อน 1,000.- บาท

7)       วัดโพนสวาง เงินทานวันอาทิตย์ 600.- บาท และเงินต้นวันขึ้นปีใหม่ 2,052.- บาท
 ช่วยกันแกะเปลือกเสาไม้เต็ง ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความเพียรมาก
 อีกทั้งช่วยกันปรับพื้นให้สวยงาม (17 มกราคม)

พิธีมิสซาและวันฉลองในรอบสัปดาห

วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
20
07.00 น.
 
1)   นางวรกัญญา จัตุรัสอุดม
2)   ครอบครัว นายประสงค์-นางเหรียญ ทาสุวรรณ์
 
3)   นางบุญศรี หลวงจันทร์ และญาติพี่น้อง
อุทิศ ยวงเมือง-อากาทา บัวสอน เกียววงศ์
สุขสำราญ สำหรับนายชัชวาล ทาสุวรรณ์ และอุทิศให้ ยอแซฟ หนัน-อักแนส เสงี่ยม, พ่อตู้บุญทัน-แม่ตู้ทอง ทาสุวรรณ์, นางประนอน-นางพิมพา มีคุณ
เปาโล อ่อนศรี ปู่ภิรมย์, เปาโล คำผุ-อันนา สาลี-เปาโล ทองมี-ยอแซฟ สมจิต ดินจำปี และนางเสมือน มะวงศ์งอย
จันทร์-พฤหัส
21-24
06.30 น.
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา
 
ศุกร์
25
06.30 น.
ฉลอง น.เปาโลกลับใจ
 
เสาร์
26
10.00 น.
สมโภชปิด 125 ปีแห่งความเชื่อ
(งดมิสซาเย็น)

 ช่างเขียน (จำเป็น) และช่างแกะสลักไม้ (ช่างเซียง) ที่มาช่วยด้วยใจ
 ลูกมือคนสำคัญในการช่วยทาสีป้ายให้สำเร็จ
 เก้าอี้ประธาน (สำหรับชมการแสดง) ที่ทำจากไม้ทั้งต้น
 พลังหนุ่มที่มาช่วยกันเคลื่อนย้ายประเภทหนักๆ