วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ, ปีที่ 2 ฉบับที่ 81


สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ

ปีที่ 2 ฉบับที่ 81; อาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2019 (2562): http.//dondaniele.blogspot.com

107 หมู่ 6 บ้านดอนม่วย ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 47130È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
พิธีปลงศพมัทธิว ณรงค์ ผิวชัย เสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2019
พี่น้องที่รัก เราเข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า (Advent) ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีพิธีกรรมของพระศาสนจักร (ปี A) ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกนั้น ยังเป็นช่วงเวลาของการไตร่ตรองถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า ด้วยการเชิญพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา และตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในตัวเราและเพื่อนพี่น้อง
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่พระศาสนจักรให้เรามีเวลาสี่สัปดาห์เพื่อเตรียมรับเสด็จการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า ในพระศาสนจักรออร์ทอด๊อก เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ยาวนานถึงสี่สิบวันเหมือนเทศกาลมหาพรต เพื่อช่วยเราได้เดินในแสงสว่างของพระเยซูเจ้า ให้เราเริ่มต้นด้วยการขออภัยโทษจากพระเจ้า
 พิธีภาวนาอุทิศแก่มัทธิว ณรงค์ ผิวชัย พฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2019
บทอ่านแรก ประกาศกอิสยาห์มองเห็นสันติภาพนิรันดรซึ่งประชากรของพระเจ้าจะพบในอาณาจักรของพระเจ้า โดยพูดถึงการกลับใจของชนในชาติ ในความเชื่อเราทุกคนกำลังเดินทางสู่บ้านของพระเจ้า และพระเจ้าจะทรงทำให้ความหวังในสันติภาพของเราสมบูรณ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราต่างเป็นพี่น้องในความรักและความยุติธรรม
บทอ่านที่สอง เปาโลพูดถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า เวลาได้มาถึงแล้วเราต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอ ด้วยการละทิ้งนิสัยไม่ดีที่เคยปฏิบัติ เลิกเดินในความมืดและความชั่วร้าย (การกินดื่ม กามารมณ์ ความโลภ ทะเลาะเบาะแว้งและการอิจฉาริษยา) หันมาเปลี่ยนแปลงตนเองเสียใหม่ด้วยการเดินในแสงสว่างของพระเยซูเจ้า
พระวรสาร พระวรสารวันนี้เตือนเราให้ตื่นเฝ้าเพราะเราไม่ทราบว่าพระเยซูเจ้าจะเสด็จมาเมื่อไร ดังนั้น การเริ่มต้นเทศกาลรับเสด็จพระคริสตเจ้า ไม่ได้เป็นช่วงเวลาของการเตรียมรับเสด็จการบังเกิดมาเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาของการเตรียมต้อนรับการเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง เราต้องไม่ปล่อยตัวไปตามกระแสของโลกและกิจวัตรประจำวัน
 พิธีบูชาขอบพระคุณหน้าศพมัทธิว ณรงค์ ผิวชัย โดยคุณพ่อสมยศ พาพรหมฤทธิ์
ศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2019
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.          สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสก่อนเสด็จจากประเทศไทยไปญี่ปุ่น ได้ทรงเสกน้ำสำหรับคริสตชนไทย น้ำเสกที่ทรงเสกมาถึงวัดของเราแล้ว รับได้คนละหนึ่งขวดหลังพิธีบูชาขอบพระคุณ และขอคำภาวนาเพื่อองค์สมเด็จพระสันตะปาปาด้วย
2.          สำหรับผู้ต้องการเสื้อที่ระลึกการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปา สามารถสั่งจองได้ที่ครูศศิธร สังกฤษ และลงชื่อไปแสวงบุญที่สองคอน ทราบว่าตอนนี้ดอนม่วยมีจำนวน 36 คน และวัดโนนค้อ 14 คน
3.          อาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2019 เชิญชวนพี่น้องได้ทำดาวและประดับตกแต่งบ้านเรือน และเวลา 19.00 น. ขอเชิญสภาภิบาลวัด ผู้นำหมู่บ้าน และผู้นำชุมชน ร่วมประชุมเตรียมงานคริสต์มาสและฉลองวัด ณ บ้านพักพระสงฆ์ดอนม่วย สำหรับไฟประดับพ่อสั่งมาจำหน่ายให้พี่น้องแล้ว ในราคาชุดละ 50 บาท มีจำนวนจำกัด
4.          พฤหัสบดี 5 ธันวาคม 2019 ฉลองวัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์ พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
5.          ศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2019 ฉลองวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ โชคอำนวย พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
6.          เสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2019 ฉลองวัดนักบุญเปโตร ธาตุพนม พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
7.          เงินทาน อาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2019: วัดดอนม่วย 1,529.- บาท; วัดโนนค้อ 1,253.- บาท, และเงินบริจาคเพื่อโครงการสร้างวัด 1) ธนาคารกรุงไทย สาขาพังโคน  1,000.- บาท และ 2) ครอบครัวนางพิสมัย ผิวชัย อุทิศให้มัทธิว ณรงค์ ผิวชัย 10,000.- บาท รวมเงินในบัญชีวัด 468,016.32 บาท
8.          ขอบคุณ กลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 3-4 ที่มาทำความสะอาดวัด สัปดาห์หน้ากลุ่มที่ 5-6 (โนนค้อ: กลุ่มที่ 3)
 พิธีบูชาขอบพระคุณปลงศพมัทธิว ณรงค์ ผิวชัย โดยคุณพ่อปฏิญญาณ สิริธารารัตน์ (C.Ss.R.)
ณ วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ เสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2019
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
                                   ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
01
07.00 น.
08.30 น.
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
สุขสำราญพี่น้องชาวโนนค้อ
สุขสำราญพี่น้องชาวดอนม่วย
จันทร์
02
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

อังคาร
03
06.00 น.
ฉลอง น.ฟรังซิสเซเวียร์ พระสงฆ์ องค์อุปถัมภ์ของมิสซัง

พุธ-ศุกร์
04-06
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

เสาร์
07
06.00 น.
ระลึกถึง น.อัมโบรส พระสังฆราชและนักปราชญ์

 พิธีบูชาขอบพระคุณปลงศพมัทธิว ณรงค์ ผิวชัย
ที่วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ และที่สุสานศักดิ์สิทธิ์











การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์ สัปดาห์ที่
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี A
อสย 2:1-5
รม 13:11-14
มธ 24:37-44
บทนำ
 จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy) ได้เล่าเรื่องหนึ่งซึ่งมีความหมายมาก ในการปราศรัยรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีปี 1960 เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้พันดาเวนพอร์ท (Colonel Davenport) โฆษกสมาชิกสภารัฐคอนเนกติกัทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการประชุมสภาปี 1789 ขณะกำลังประชุมกันอยู่นั้น ได้เกิดท้องฟ้ามืดมัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน สมาชิกสภาบางคนมองผ่านหน้าต่างและคิดว่านี่คือเครื่องหมายแห่งวาระสุดท้ายของโลก
เหตุการณ์วันนั้น ทำให้บรรดาสมาชิกสภาร้องเอ็ดอึงลั่นห้องประชุมขอให้เลื่อนการประชุมออกไป แต่ผู้พันดาเวนพอร์ทยืนขึ้นและกล่าวว่า “ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ วันพิพากษากำลังจะมาถึงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ หากยังมาไม่ถึงก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะเลื่อนการประชุมออกไป แต่ถ้ามาถึงแล้ว ข้าพเจ้าขอเลือกตายในหน้าที่ ดังนั้น ข้าพเจ้าขอให้จุดเทียนเพื่อประชุมต่อ” ได้มีการนำเทียนมาจุดและเริ่มการประชุมต่อไป
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นการเตรียมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า และเป็นการเตรียมต้อนรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ เราอยู่ระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกที่เบธเลแฮม กับการเสด็จมาครั้งที่สองในวาระสุดท้ายเพื่อพิพากษาทุกคน เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จึงเป็นช่วงเวลาของการไตร่ตรองถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า ด้วยการเชิญพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา และตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในตัวเราและเพื่อนพี่น้อง
1.        การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
พระวรสารวันนี้พูดถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในวาระสุดท้ายของโลก เราเตรียมตัวรับสถานการณ์นี้อย่างไร ปัจจุบันมีคนสองกลุ่มมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า กลุ่มหนึ่งเตรียมตัวด้วยความวิตกทุกข์ร้อนหวาดระแวง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระวรสารบอกอะไรเราเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของโลก และเราต้องเตรียมตัวเผชิญเหตุการณ์นี้อย่างไร
พระเยซูเจ้าทรงใช้ภาพพจน์สองอย่างเพื่ออธิบายการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ ซึ่งไม่มีใครทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เวลาใด (มธ 24:42) อย่างแรกคือน้ำวินาศที่กวาดผู้คนซึ่งกำลังกินดื่มสนุกสนานในสมัยโนอาห์จนหมดสิ้น อีกภาพพจน์หนึ่งคือขโมยที่มาในเวลากลางคืนซึ่งเจ้าของบ้านไม่ได้เฝ้าระวัง การเสด็จมาครั้งที่สองและวาระสุดท้ายของโลกอย่างที่พระเยซูเจ้าบอกเรา จะเกิดขึ้นโดยทันทีแบบไม่มีใครคาดฝัน ไม่มีการบอกให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้น เราต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
การดำเนินชีวิตคริสตชนเป็นชีวิตที่ต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอ ด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเหมือนอย่างผู้พันดาเวนพอร์ทที่พร้อมตายในหน้าที่ ไม่ตื่นตระหนกไปกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น การตื่นเฝ้ายังหมายถึงการเรียนรู้เครื่องหมายแห่งกาลเวลา เพื่อเข้าใจความหมายที่พระเจ้าทรงต้องการบอกเราให้ทราบ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ประจำวันจนถึงที่สุด ดังนั้น การตื่นเฝ้าจึงเป็นการเจริญชีวิตแห่งการรับใช้พระเจ้าด้วยความวางใจ ปฏิบัติตามบทบัญญัติและดำรงตนในฐานะแห่งพระหรรษทานเหมือนผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอ การตื่นเฝ้าแสดงให้เห็นลักษณะของผู้เป็นศิษย์ ซึ่งมุ่งหวังและรอคอยพระเยซูเจ้าเสด็จกลับมา ด้วยการดำเนินชีวิตรับใช้พระเจ้าด้วยความวางใจ และในการอธิษฐานภาวนาอย่างจริงจังตามคำสั่งของพระเยซูเจ้า “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่เข้าสู่การทดลอง” (มก 14:38) หรือปฏิบัติตามแบบอย่างของพระองค์ที่เสด็จขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา และทรงอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าตลอดทั้งคืน (ลก 6:12)
ประการที่สอง เราต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทราบวาระสุดท้ายของโลกและการเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งของพระเยซูเจ้า ดังนั้น ชีวิตของเราต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระองค์ นี่คือหน้าที่ที่เราต้องกระทำ เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ท้าทายเราด้วยคำถามสำคัญสามข้อ: 1) เราจะทำอะไรขณะนี้, 2) เราควรจะทำอะไรเวลานี้ และ 3) เราจะเริ่มทำอะไรบ้างตอนนี้ คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตากล่าวว่า “สิ่งที่ท่านทำในครอบครัวของท่าน เพื่อลูก เพื่อสามี เพื่อภรรยา จงทำเพื่อพระเยซูเจ้า”
ประการที่สาม เราต้องเตรียมต้อนรับพระเยซูเจ้าอยู่เสมอ พระองค์เสด็จมาหาเราทุกวันในพิธีบูชาขอบพระคุณและในเพื่อนพี่น้องที่เราพบแต่ละวัน เป็นต้นคนยากจนและคนต้องการความช่วยเหลือ คริสตชนต้องเตรียมรับเสด็จด้วยการเปิดใจต้อนรับพระองค์ กลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนพี่น้อง เวลาที่เราทำหน้าที่เพื่อพระองค์ พระองค์จะเสด็จมาหาเรา และเวลาที่เราอธิษฐานภาวนาร่วมกันในนามของพระองค์ พระองค์จะประทับอยู่กับเรา
บทสรุป
พี่น้องที่รัก บ่อยครั้งเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายซื้อของขวัญเพื่อมอบแก่กัน ของขวัญคริสต์มาสแท้จริงมีเพียงอย่างเดียวคือ องค์พระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นของประทานจากพระบิดาเจ้าสำหรับเรา เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ เป็นช่วงเวลารื้อฟื้นและสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระเจ้า เป็นช่วงเวลาแห่งความเพียรทนในการอธิษฐานภาวนาด้วยความวางใจ และเปิดใจเราต้อนรับพระองค์ในเพื่อนพี่น้อง เป็นต้นคนยากจนและต้องการความช่วยเหลือ
        พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างของโลก ดังนั้น เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ เป็นช่วงเวลาของการเดินออกจากความมืดเพื่อเดินในแสวงสว่างของพระองค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องเปลี่ยนแปลงตนเองและคิดถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของตน มุ่งไปหาพระเจ้าด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด และถอดแบบความรักของพระเยซูเจ้าต่อเพื่อนพี่น้อง เพื่อทำให้พระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิตประจำวัน

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิดสกลนคร: สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, หน้า 3-6.
ภาพ: ถ้ำพระกุมาร, วัดดอนม่วย, สกลนคร; 2018-12-8

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ฟ้าดินสูญสิ้น แต่พระวาจาคงอยู่


ฟ้าดินสูญสิ้น แต่พระวาจาคงอยู่
ศุกร์
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 20:1-4, 11-21:2
ลก 21:29-33
สัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม พระเยซูเจ้าตรัสถึง “วาระสุดท้ายของโลก” “การเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์” และ “วาระสุดท้ายของแต่ละคน” พระศาสนจักรเจริญเติบโตขึ้นท่ามกลางการทดลองและการเบียดเบียน ในสถานการณ์แห่งความยากลำบาก พระองค์ทรงขอร้องบรรดาศิษย์ให้ยืนตรงและเงยหน้าขึ้น เพื่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสายตาของผู้มีความเชื่อและตระหนักว่า การช่วยให้รอดใกล้เข้ามาแล้ว (ดู ลก 21:28)
อุปมาเรื่องต้นมะเดื่อและต้นไม้แตกใบอ่อน ให้ภาพพจน์งดงามของความหวังและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สำหรับพระเยซูเจ้าวาระสุดท้ายของพระองค์กำลังใกล้เข้ามา พระมหาทรมานของพระองค์กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทรงบอกล่วงหน้าถึงการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม วาระสุดท้ายของโลก และวาระสุดท้ายของแต่ละคน “เช่นเดียวกันเมื่อท่านเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็จงรู้เถิดว่าพระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” (ลก 21;30)
เครื่องหมายในธรรมชาติช่วยเราให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา แต่ยังมีเครื่องหมายภายในจิตใจและหัวใจซึ่งเราต้องเฝ้าสังเกต เพราะเป็นเครื่องชี้ถึงเงื่อนไขของชีวิตฝ่ายจิตและความพร้อมของเราในการพบพระเยซูเจ้า เรารู้สึกลังเลในการไปรับศีลอภัยบาปไหม เรารับศีลอภัยบาปครั้งสุดท้ายเมื่อไร บางทีอาจเป็นเพราะความเกียจคร้าน หรือความเคยชินในบาปที่เราทำ เรารู้สึกเบื่อหน่ายในการอธิษฐานภาวนาบ้างไหม
พระเยซูเจ้าทรงทำนายถึงความพินาศของกรุงเยรูซาเล็ม จากการทำลายล้างของกองทัพโรมันซึ่งเกิดขึ้นปี 70 “คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น” (ลก 21:31) พระองค์ยังตรัสถึงวาระสุดท้ายของสรรพสิ่ง “ฟ้าดินจะสูญสิ้นไป แต่วาจาของเราจะไม่สูญสิ้นไปเลย” (ลก 21:33) ทุกสิ่งสร้างของพระเจ้ามีวันจบสิ้นและปรากฏเป็นจริง แต่พระวาจาของพระองค์ยังคงอยู่ เป็นจริงโดยปราศจากข้อสงสัยและไม่เคยล้าสมัย
วันของพระเจ้า หรือการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใด รวมถึงวาระสุดท้ายของแต่ละคน ซึ่งเราต้องตระหนักถึงพระพรแห่งชีวิตที่พระเจ้าประทาน ศิษย์พระคริสต์ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ทำวันนี้และขณะนี้ให้ดีที่สุด มั่นใจในพระวาจาของพระเจ้า และเจริญชีวิตตามพระวาจาซึ่งเป็นจริงเสมอและไม่เคยล้าสมัย
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
28 พฤศจิกายน 2019
ภาพ : งานศพมัทธิว ณรงค์ ผิวชัย, โนนค้อ, พรรณานิคม, สกลนคร; 2019-11-28

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

การเสด็จมาอีกครั้งของพระเยซูเจ้า


การเสด็จมาอีกครั้งของพระเยซูเจ้า
พฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 6:11-27
ลก 21:20-28
พระวรสารวันนี้ นักบุญลูกาได้เล่าถึงสองเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์: 1) นครเยรูซาเล็มถูกทำลายปี 70 และ 2) การทำนายล่วงหน้าถึงการเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ในโลก นักบุญลูกาเขียนพระวรสารประมาณปี 75 หลังจากนครเยรูซาเล็มถูกกองทัพโรมันทำลายราบเป็นหน้ากลอง แต่อวสานตกาล การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้ายังมาไม่ถึง คริสตชนต้องรอคอยและเพียรทนต่อการเบียดเบียน
หลังจากพวกโรมันปกครองปาเลสไตน์ได้ 100 ปี ชาวยิวรักชาติได้ก่อกบฏต่อจักรพรรดิเวสปาเซียน ซึ่งได้มอบหมายให้พระโอรสหนุ่มชื่อตีโตปราบปรามกบฏให้ราบคาบ โดยล้อมกรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลา 1 ปี ทำให้ชาวยิวถูกฆ่าตาย 1.1 ล้านคน และถูกจับเป็นเชลย 8 แสนคน พระเยซูเจ้าทรงทำนายถึงภัยพิบัติน่าสยดสยองที่จะเกิดขึ้น แสดงให้เห็นทุกขเวทนาใหญ่หลวง เป็นเหตุให้หญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนผู้น่าสงสารส่งเสียงร้องไห้ระงม
ความเชื่อในการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าอย่างผู้มีชัยชนะในวาระสุดท้าย ทำให้บรรดาคริสตชนในระยะเริ่มแรกมีความหวังและมั่นคงเข็มแข็งในความเชื่อ ความเชื่อเดียวกันนี้ต้องส่งเสริมชีวิตคริสตชนของเราให้เติบโต ดำเนินชีวิตอย่างมีความหวังจนถึงวันที่พระองค์เสด็จมา เราต้องยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อจนถึงวาระสุดท้าย “ท่านทั้งหลายจงยืนตรง เงยหน้าขึ้นเถิด” (ลก 21:28) เพราะเวลาแห่งการพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว
การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ในพระสิริรุ่งโรจน์และทรงอำนาจ เป็นภาพแห่งความหวังสำหรับคริสตชนในระยะเริ่มแรกและเราในปัจจุบัน องค์พระเจ้าทรงสัญญากับเราว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาและให้รางวัลผู้มีความเชื่อและความรัก ช่วยให้เรามีความเพียรทนในการเอาชนะการเบียดเบียนและทุกขเวทนาใหญ่หลวงในวาระสุดท้าย เมื่อกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจเสด็จมา เราได้ดำเนินชีวิตแห่งความหวังอย่างไร
พระเยซูเจ้าทรงทำนายล่วงหน้าถึงการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยเราให้รอดพ้นและนำเรากลับไปหาพระบิดาเจ้า เราต้องยืนตรง เงยหน้าขึ้นให้สมกับเป็นประชากรที่ทรงไถ่กู้และมั่นคงเข้มแข็งในความเชื่อ ศิษย์พระคริสต์ต้องฟังเสียงเตือนขององค์พระเจ้า ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ เป็นต้นในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง และเตรียมพร้อมรับเสด็จมาอีกครั้งของพระองค์ซึ่งไม่มีใครทราบล่วงหน้า
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
27 พฤศจิกายน 2019

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

การเป็นพยานถึงข่าวดี


การเป็นพยานถึงข่าวดี
พุธ
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 5: 1-6, 13-14,16-17, 23-28
ลก 21:12-19
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกล่วงหน้าถึงความยากลำบากและการเบียดเบียนซึ่งผู้ติดตามพระองค์จะได้รับ “ถ้าเขาเบียดเบียนข่มเหงเรา เขาก็จะเบียดเบียนข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย” (ยน 15:20) คำทำนายนี้เป็นจริงตลอดประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร แต่พระเยซูเจ้าทรงให้ความมั่นใจกับบรรดาศิษย์ว่าจะไม่ทรงทอดทิ้งพวกเขา “แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28:20)
ชีวิตคริสตชนในโลกมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยขวากหนาม การเบียดเบียน และความยากลำบาก เราต้องเรียนรู้การแบกไม้กางเขนและพบความหมายในความยากลำบากที่กำลังเผชิญ และไม่วิตกทุกร้อนเพราะพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเรา “เราจะให้คำพูดและปรีชาญาณแก่ท่าน ซึ่งศัตรูของท่านจะต้านทานหรือโต้แย้งไม่ได้” (ลก 21:15) ทำให้เราไม่หวั่นเกรงต่อภยันตรายใด ๆ
พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีการเบียดเบียนเพื่อชำระพระศาสนจักรให้บริสุทธิ์ เป็นเหมือนกับพายุพัดผ่านต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นและปลิวกระจาย เหลือแต่ลำต้นไร้ใบ ดูคล้ายกับว่าต้นไม้กำลังตาย แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง ต้นไม้เริ่มแตกใบอ่อนและออกดอกบานสะพรั่งอีกครั้ง การเบียดเบียนที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรเป็นเช่นใบไม้ร่วงหล่น แต่ชีวิตของพระศาสนจักรยังคงดำเนินต่อไปและเกิดดอกออกผลสมบูรณ์
พระนามของพระเยซูเจ้า ได้กลายเป็นเครื่องหมายของการต่อต้านและการเบียดเบียน ปัจจุบันยังคงมีคริสตชนจำนวนมากในหลายประเทศ ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากและการเบียดเบียน เช่น ประเทศมุสลิมซึ่งไม่อนุญาตให้ปฏิบัติศาสนา คริสตชนถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงไอซิส การเบียดเบียนเป็นโอกาสให้เราได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า ถือเป็นการประกาศข่าวดีและแพร่ธรรมอย่างหนึ่ง
พระเยซูเจ้าทรงหลั่งพระโลหิตเพื่อเราและทรงเรียกเราให้เป็นพยาน “เลือดของมรณสักขีคือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีของพระศาสนจักร” (แตร์ตุลเลียน) ดังนั้น เราต้องยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ “ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้” (ลก 21:19) ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงองค์พระเยซูเจ้าและข่าวดีแห่งพระวรสาร อธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ถูกเบียดเบียนให้มั่นคงเข้มแข็งในความเชื่อ และมีความเพียรทนจนวาระสุดท้าย
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
26 พฤศจิกายน 2019