วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

ความเกลียดชังและการเบียดเบียน

ความเกลียดชังและการเบียดเบียน
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
กจ 16:1-10
ยน 15:18-21
พระเยซูเจ้าตรัสกับเราในพระวรสารวันนี้ “ถ้าโลกเกลียดชังท่านทั้งหลาย ก็จงรู้ไว้เถิดว่าโลกเกลียดชังเราก่อนแล้ว... ถ้าเขาเบียดเบียนข่มเหงเรา เขาก็จะเบียดเบียนข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย”  (ยน 15: 18, 20) คำว่า “โลก” ในพระคัมภีร์หมายถึงสังคมของคนต่างศาสนาที่ดำเนินชีวิตตรงข้ามกับพระประสงค์ของพระเจ้า และเมื่อพระเยซูเจ้าพูดถึงการเบียดเบียนข่มเหง พระองค์หมายถึงความยากลำบากและการเบียดเบียน ที่บรรดาศิษย์ได้รับจากเงื้อมมือของชาวยิวและชาวโรมันในการประกาศคำสอนของพระองค์
เมื่อศิษย์ของพระคริสตเจ้าเชื่อและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า ชีวิตของเขาจึงตรงข้ามวิธีปฏิบัติของคนทั่วไป เพราะพวกเขาตระหนักว่ามีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขา ทำให้ชีวิตและวิธีปฏิบัติของพวกเขากลายเป็นความเกลียดชังที่นำไปสู่การเบียดเบียนข่มเหง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงยาวนานตลอดสามร้อยปี ในระยะเริ่มแรกของการก่อตั้งพระศาสนจักร
พระเจ้าทรงรักโลกแต่โลกเกลียดพระองค์ ถึงกระนั้นพระองค์ยังส่งพระบุตรแต่องค์เดียวมาบังเกิดในโลกเพื่อไถ่โลกให้รอดพ้น ดังนั้นศิษย์ของพระคริสตเจ้าแม้จะอยู่ในโลกแต่ต้องไม่เป็นของโลก ชีวิตและวิธีปฏิบัติของเราจะต้องเดินตามแนวทางและวิธีปฏิบัติของพระเยซูเจ้า ด้วยการเลียนแบบและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงท้าทายเรามิให้พึงพอใจกับความสุขฝ่ายโลกที่นำไปสู่ความชั่ว ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า แต่ให้เราได้ดำเนินชีวิตตามคำสอนและพระประสงค์ของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในความรัก การรับใช้และการให้อภัยซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะยอมรับความทุกข์ยากลำบากเพื่อเห็นแก่ความรักของพระเจ้า มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่นำไปสู่ความสุขแท้ ซึ่งเริ่มแล้วตั้งแต่ในโลกนี้และบรรลุถึงความสมบูรณ์ในสวรรค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

29 เมษายน 2016

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

ท่านทั้งหลายจงรักกัน

ท่านทั้งหลายจงรักกัน
วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
กจ 15:22-31
ยน 15:12-17
นักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวารสาร เป็นผู้ที่พูดถึงความรักของพระเจ้าต่อเรามนุษย์และหน้าที่ของเราในการตอบรับความรักพระเจ้ามากกว่าผู้นิพนธ์พระวรสารคนอื่น ความรักจึงเป็นหัวใจของพระวรสารของท่าน โดยเน้นให้เห็นว่าความรักเกิดจากพระบิดาเจ้า แสดงออกในพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์ และความรักนี้ต้องได้รับการแบ่งกันในการรักเพื่อนพี่น้อง
ความรัก ออกมาจากพระเจ้าและเป็นธรรมชาติของพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นองค์ความรัก และความรักนี้ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และผู้อื่น ถือเป็นของประทานที่เราต้องรับด้วยความกตัญญู เมื่อเรารักพระเจ้า เราต้องรักเพื่อนพี่น้องของเราด้วย การรักเพื่อนพี่น้องจึงเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพระเจ้า ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน (ยน 15:17)
พระเยซูเจ้าทรงสั่งบรรดาศิษย์ของพระองค์ ให้รักซึ่งกันและกันเหมือนที่พระองค์ทรงรักพวกเขา เพื่อจะเข้าใจความหมายที่ครบถ้วนของคำสั่งนี้ เราต้องมองดูชีวิตของพระเยซูเจ้าในการล้างเท้าอัครสาวก พระองค์ได้ล้างเท้าพวกเขามิใช่อย่างผู้ใหญ่รับใช้ผู้น้อย แต่ในฐานะที่เท่าเสมอกัน ความเท่าเทียมกันจึงเป็นแก่นสำคัญของมิตรภาพ พระองค์และบรรดาศิษย์ต่างเป็นมิตรสหายกัน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้... เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย (ยน 15:15)
ดังนั้น ศิษย์ของพระเยซูเจ้าทุกคนจะต้องรักซึ่งกันและกันเหมือนมิตรสหาย ในความรักของพระเจ้าไม่มีใครอยู่ในฐานะเหนือกว่าคนอื่น ที่สุด พระองค์ได้มอบแบบอย่างแห่งความรักที่สูงสุด ในการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน นี่คือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่มิตรสหายพึงมีต่อกัน เราถูกเรียกร้องให้รักกันและมอบชีวิตเพื่อกันและกัน อันเป็นเครื่องหมายแห่งการบังเกิดผลอุดมตามคุณค่าพระวรสาร
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

28 เมษายน 2016

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559

จงดำรงอยู่ในความรักของเรา

จงดำรงอยู่ในความรักของเรา
วันพฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
กจ 15:7-21
ยน 15:9-11
พ่อคนหนึ่งกำลังล้างรถยนต์คันใหม่ สักพักเขาได้ยินเสียงลูกชายวัย 4 ขวบใช้แท่งโลหะขูดขีดไปมาที่ด้านข้างของตัวรถ เขาโกรธมากจึงกระชากมือลูกมาตีนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความโมโหเลยไม่ได้ดูว่าสิ่งที่เขาใช้ตีคือประแจ ทำให้มือน้อยๆ ของลูกชายแตกต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอได้ตัดนิ้วทิ้งเพราะกระดูกแตกเกินกว่าที่จะเชื่อมต่อได้ เขารู้สึกผิดมากและเมื่อกลับมาบ้านเขาพบข้อความบนประตูรถยนต์ว่า “หนูรักพ่อ” เขายิ่งละอายใจกับสิ่งที่กระทำลงไป
ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าบอกให้เรารักซึ่งกันและกัน “พระบิดาของเรารักเราอย่างไร เราก็รักท่านหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด” (ยน 15:9) พระเยซูเจ้าได้บอกกับเราว่าพระองค์ทรงรักเราเพราะพระบิดาเจ้าทรงรักพระองค์ก่อน ความรักของพระบิดาเจ้าที่มีต่อพระองค์เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่เห็นแก่ตัวและไม่มีวันตาย ความรักที่พระองค์มีต่อเราจึงเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่เห็นแก่ตัวและไม่มีวันตายเช่นเดียวกัน พระองค์ทรงรักเราตามมาตรฐานเดียวกับที่พระบิดาเจ้าทรงรักพระองค์
เราต้องตระหนักว่าความรักที่พระเจ้ามีต่อเรานั้น เป็นความรักที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง บางครั้งพระองค์ทรงทำให้ใจเราแตกสลายเพราะการสูญเสีย เพื่อให้เราได้เข้มแข็งและเติบโตในความเชื่อ บางครั้งพระองค์ส่งความล้มเหลวมาให้เพื่อให้เรามีใจสุภาพ บางครั้งพระองค์ส่งความเจ็บป่วยมาให้เพื่อให้เรารู้จักดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้น บางครั้งพระองค์ทรงเอาทุกอย่างไปจากเราเพื่อให้เราได้เรียนรู้คุณค่าของสิ่งที่เรามี
นอกนั้น เราต้องดำรงในความรักของพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นความรักที่ซื่อสัตย์และไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการถือปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญญัติแห่งความรักในการรักซึ่งกัน คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ พร้อมที่จะให้และแบ่งปันสิ่งที่เรามีสำหรับคนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ยิ่งเราเลียนแบบความรักของพระเยซูเจ้ามากเท่าใด เราก็จะดำรงอยู่ในความรักของพระองค์มากเท่านั้น
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

27 เมษายน 2016

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

คุณพ่อมาระโก ทรงฤทธิ์ นาแว่น

คุณพ่อมาระโก ทรงฤทธิ์  นาแว่น

1.            กำเนิด
คุณพ่อมาระโก ทรงฤทธิ์  นาแว่น  เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520)  ที่บ้านนาบัว ตำบลหนองแวงใต้ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร  เป็นสัตบุรุษวัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว 
คุณพ่อเป็นบุตรคนที่ 2 ของ ฟรังซิสซาเวียร์ ชาญชัย กับ มารีอา อานนท์  นาแว่น มีพี่ชาย 1 คนและน้องชาย 2 คน ดังรายนามต่อไปนี้
1)  นายพิมนต์                     นาแว่น                  เสียชีวิต
2)   คุณพ่อทรงฤทธิ์            นาแว่น
3)   นายศักดิ์สิทธิ์                นาแว่น
4)  นายกฤษฎา                    นาแว่น
2.            การศึกษา
2.1      ประถมศึกษา                       โรงเรียนบ้านนาบัว
2.2      มัธยมศึกษา                         โรงเรียนเซนต์ยอแซฟ ท่าแร่
2.3      อุดมศึกษา           
2.3.1                   ศิลปะศาสตร์บัณฑิต (ปรัชญา)     วิทยาลัยแสงธรรม สามพราน นครปฐม
2.3.2                   ศาสนศาสตร์บัณฑิต (เทววิทยา)   วิทยาลัยแสงธรรม สามพราน นครปฐม
3.            กระแสเรียก
3.1      บ้านเณรเล็ก        สามเณราลัยฟาติมา ท่าแร่  สกลนคร              ค.ศ. 1989-1996 (ค.ศ. 2532-2539)
3.2      บ้านเณรกลาง     สามเณราลัยพระวิสุทธิวงศ์ นครราชสีมา      ค.ศ. 1997-1998 (ค.ศ. 2540-2541)
3.3      บ้านเณรใหญ่      สามเณราลัยแสงธรรม สามพราน                   ค.ศ. 1998-2006 (ค.ศ. 2541-2549)
3.3.1                   ปีฝึกงานอภิบาล (Pastoral Year)                  ค.ศ. 2002 (ค.ศ. 2545)
3.3.2                   รับแต่งตั้งเป็นผู้อ่านพระคัมภีร์                     16 สิงหาคม ค.. 2003 (ค.ศ. 2546)
3.3.3                   รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยพิธีกรรม                        14 สิงหาคม ค.. 2004 (ค.ศ. 2547)
3.3.4                   รับศีลบวชเป็นสังฆานุกร                               13 สิงหาคม ค.. 2005 (ค.ศ. 2548)
3.4      บวชเป็นพระสงฆ์              วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ณ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่  โดยพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร  สันติสุขนิรันดร์
3.5      คติพจน์                                จงอย่ากลัวเลย (Don’t be afraid) มก 6:50
3.6      ผู้ส่งเข้าบ้านเณร                 คุณพ่ออันตน เสงี่ยม  ดีศรีวรกุล
4                หน้าที่การงาน
ค.ศ. 2006-2007 (พ.ศ. 2549-2550)       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่
ค.ศ. 2007-2008 (พ.ศ. 2550-2551)       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก
ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552)       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง, หัวหน้าแผนกยุวธรรมทูตและพลศีล, ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเยาวชนและเลขานุการอัครสังฆมณฑลฯ
ค.ศ. 2009-2010 (พ.ศ. 2552-2553)       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระคริสตราชา นาจาร ดูแลวัดนักบุญยอแซฟ ดอนดู่
ค.ศ. 2010-2013 (พ.ศ. 2553-2556)       เจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟ ดอนดู่
ค.ศ. 2013-2016 (พ.ศ. 2556-2559)       เจ้าอาวาสวัดนักบุญอันนา บ้านแพง, วัดแม่พระเหรียญอัศจรรย์ พรสวรรค์ และวัดแม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบ็ธ โนนสวาท
5                วาระสุดท้าย
คุณพ่อทรงฤทธิ์ นาแว่น เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง แจ่มใส พูดคุยสนุกสนาน เป็นกันเองและเข้าได้กับทุกคน อีกทั้งเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ทุกครั้งที่มีโอกาสเป็นต้องยื่นมือช่วยเหลือเสมอ เช่นในโอกาสฉลองวัดต่างๆ  จะเห็นคุณพ่อช่วยประชาสัมพันธ์และกล่าวต้อนรับผู้มาร่วมฉลองเสมอ รวมถึงการฉลองวัดนักบุญเปโตร มุกดาหาร ครั้งล่าสุดเมื่อวันอังคาร 26 เมษายน 2016 (พ.ศ. 2559) หลังงานฉลองได้พักค้างคืนที่วัดมุกดาหารกับเพื่อนพระสงฆ์ เพื่อเตรียมตัวไปฉลองวัดแม่พระเหรียญอัศจรรย์ แก่งกระเบาในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันพุธที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) หลังตื่นนอนคุณพ่อบอกเพื่อนพระสงฆ์ว่าหายใจไม่ค่อยออก เมื่อเห็นอาการไม่ดีเพื่อนพระสงฆ์ได้ติดต่อรถฉุกเฉินเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลมุกดาหาร แพทย์พยาบาลได้ปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่อาการไม่ดีขึ้นเพื่อนพระสงฆ์ที่ไปด้วยจึงได้โปรดศีลเจิมคนไข้แก่คุณพ่อเพื่อเป็นพระพรในนาทีวิกฤตของชีวิต ที่สุด คุณพ่อได้มอบคืนดวงวิญญาณแด่พระเจ้า เมื่อเวลา 09.15 น. สิริอายุ 39 ปี 1 เดือน 7 วัน

ขอให้ดวงวิญญาณของคุณพ่อมาระโก ทรงฤทธิ์ นาแว่น ได้รับการพักผ่อนนิรันดรในอ้อมหัตถ์พระเจ้าเทอญ

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

เถาองุ่นและแขนง

เถาองุ่นและแขนง
วันพุธ
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
กจ 15:1-6
ยน 15:1-8
ในบทอ่านแรก หนังสือกิจการอัครสาวกได้บอกให้เราทราบถึงความเจริญเติบโตของพระศาสนจักรในระยะเริ่มแรก มีจำนวนผู้เชื่อในพระเยซูเจ้าเพิ่มมากขึ้นทั้งชาวยิวและคนต่างศาสนา สำหรับชาวยิวได้ปฏิบัติตามกฎของโมเสสเรื่องการเข้าพิธีสุหนัต นั่นคือเด็กผู้ชายชาวยิวทุกคนต้องเข้าสุหนัต ปัญหาที่เกิดขึ้นคือสำหรับคนต่างศาสนาที่กลับใจมาเชื่อในพระเยซูเจ้า  จำเป็นต้องเข้าพิธีสุหนัตของชาวยิวด้วยไหม
ต่อปัญหานี้บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสได้เรียกประชุมกัน และนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าสำหรับคนต่างศาสนาที่กลับใจเป็นคริสตชนไม่จำเป็นต้องเข้าพิธีสุหนัต ทั้งนี้เพราะการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้ามิได้อยู่ที่พิธีเข้าสุหนัต แต่อยู่ที่ความเชื่อในองค์พระคริสตเจ้า อีกทั้ง ยังสะท้อนความจริงที่ว่า ความรักและความเข้าใจระหว่างกันสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคทุกอย่างได้  ขอเพียงเราเปิดใจพูดคุยและเรียนรู้จากความแตกต่างของกันและกัน
ในพระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสกับเราว่า “เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ถ้าผู้ใดคงอยู่ในเรา และเราคงอยู่ในเขาผู้นั้นจะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราพวกท่านไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย” (ยน 15:5) ชาวยิวเข้าใจภาพพจน์เรื่องเถาองุ่นเป็นอย่างดีว่าจำเป็นมากสำหรับแขนงในการเกิดผล หากแขนงใดไม่ติดอยู่กับเถาย่อมขาดน้ำเลี้ยงและเหี่ยวแห้งไปในที่สุด
เมื่อพระเยซูเจ้าบอกว่าพระองค์เป็น “เถาองุ่นแท้” พระองค์ต้องการบอกเราว่าการเติบโตของชีวิตฝ่ายจิตนั้นมาจากพระองค์ เราได้รับพระหรรษทานที่จะทำให้เราเติบโตและเกิดผลจากการมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางการภาวนา พระเยซูเจ้าได้ให้แบบอย่างแก่เราด้วยการหาเวลาติดต่อกับพระบิดาเจ้าเสมอหลังภารกิจในแต่ละวัน การภาวนาจึงจำเป็นสำหรับเรา เพื่อเราจะเติบโตยิ่งขึ้นและเกิดผลอย่างอุดม
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

26 เมษายน 2016

เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน

เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน
วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
กจ 14:19-28
ยน 14:27-31
“สันติสุข” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและเป็นสิ่งที่ทุกสังคมแสวงหา โดยเฉพาะในดินแดนที่มีสงครามและความขัดแย้งรุนแรง  พระสงฆ์อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า “เราต้องพยายามรักษาสันติสุขเอาไว้มิให้ใครหรือสิ่งใดมาทำลายได้ เพราะหากเราโกรธ เราก็สูญเสียสันติสุขนี้ไป หากเราวิตกทุกข์ร้อน เราก็สูญเสียสันติสุขนี้เช่นกัน”
ในพระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน” สันติสุขที่พระเยซูเจ้าเน้นแตกต่างจากสันติสุขอื่น เมื่อเราพูดถึงสันติสุขเรามักจะคิดถึงการไม่มีสงคราม หรือการไม่มีปัญหาและไม่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่สันติสุขที่พระเยซูเจ้ากล่าวถึงเป็นสันติสุขในจิตใจ เป็นสันติสุขที่เกิดจากภายในและเป็นพระพรที่พระเจ้าทรงมอบให้กับเราเมื่อเราคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
พระเยซูเจ้าทรงเป็นสันติสุขสำหรับเรา พระองค์ทรงเป็นองค์สันติราชาที่ทำให้เราพบกับสันติสุขที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางการคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องทางศีลอภัยบาป เมื่อจิตใจของเราปราศจากบาปและความกลัว ตั้งอยู่บนความชอบธรรม ความนอบน้อมเชื่อฟังและความยุติธรรม เราก็จะพบสันติสุขที่แท้จริง
 ดังนั้น สันติสุขจึงมิได้อยู่ที่การไม่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้ง แต่เป็นการการไม่มีพระเยซูเจ้าในชีวิตของเราต่างหาก ที่จะทำให้เราขาดสันติสุขเพราะพระองค์ทรงเป็นสันติสุขสำหรับเรา การเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ทำให้จิตใจของเราเป็นอิสระจากความกลัว ความวิตกทุกข์ร้อนและความกรวนกระวาย ดังเช่นนักบุญเปาโลกับบานาบัสในบทอ่านแรก แม้จะเผชิญกับความยากลำบากนานาประการในการประกาศข่าวดี แต่จิตใจยังมีสันติสุข
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

25 เมษายน 2016

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

นักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร

นักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร

นักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสาร เป็นศิษย์ติดตามนักบุญเปโตร ได้เขียนพระวรสารเป็นเล่มแรกที่กรุงโรมในปี ค.ศ. 64  นับเป็นพระวรสารที่สั้นที่สุดโดยบันทึกเรื่องราวของพระเยซูเจ้าตามที่ท่านได้ยินจากเปโตรโดยตรง นักบุญอีเรเนอุส กล่าวว่า มาระโกเป็นศิษย์และผู้แปลคำคำสอนของเปโตร และทำให้คำสอนของเปโตรตกทอดมาถึงเราในรูปของงานเขียน ซึ่งท่านมักอธิบายธรรมเนียมยิว ทำให้เรารู้ว่าท่านจงใจเขียนพระวรสารสำหรับคนที่มิใช่ยิวอ่าน
เราพบชื่อยอห์นมาระโกหลายครั้งในหนังสือกิจการอัครสาวกและจดหมาย มารดาของท่านมีบ้านที่เยรูซาเล็มซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มคริสตชนยุคแรก (กจ 12:12) และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบานาบัสเพื่อนร่วมงานของเปาโล แต่เปาโลไม่ให้มาระโกร่วมเดินทางไปแพร่ธรรมในการเดินทางครั้งที่สอง เพราะท่านกลับบ้านกลางทางในการเดินทางครั้งแรก บาราบัสเปิดโอกาสให้ท่านอีก ที่สุดได้เป็นที่ไว้ใจของเปาโลและเปโตร และเป็นศิษย์รักของเปโตร
มาระโกเขียนพระวรสารที่โรม โดยตั้งใจเรียบเรียงให้ชาวโรมันอ่าน ซึ่งในขณะนั้นเป็นทาสกันมาก โดยชี้ให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าคือ พระคริสตเจ้า และเป็น พระบุตรของพระเจ้า แต่ผู้คนไม่ยอมรับกลับประหารพระองค์ด้วยการตรึงกางเขน พระเยซูเจ้าทรงยอมรับทนทรมานและความตายเพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากอำนาจของบาป ซึ่งถูกใจชาวโรมันมาก ทำให้ทาสกลับใจและอโหสิทุกคนด้วยความบริสุทธิ์ใจ นายกลับใจปล่อยทาสให้เป็นไทและเลี้ยงดูอย่างพี่น้อง
มาระโกเรียบเรียบเรื่องราวตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ค่อยละเอียดนัก  โดยบันทึกแบบคร่าวๆ ตั้งแต่เหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างถึงเหตุการณ์ที่ไม้กางเขนและการกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย และไม่ได้เน้นเสนอคำสอนของพระเยซูเจ้าเท่าใดนัก แต่เน้นการอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าและภารกิจที่ทรงกระทำในสถานที่ต่างๆ อันทำให้เราแน่ใจว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้า
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

24 เมษายน 2016

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

สารวัดป่าพนาวัลย์, ปีที่ 1 ฉบับที่ 50

กล่องข้อความ:   สารวัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์

ปีที่ 1  ฉบับที่ 50  วันที่ 24  เมษายน  ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559):  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 187 หมู่ที่ 5 บ้านป่าพนาวัลย์ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47230È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าแร่พร้อมกับ อสม. ชุมชนป่าพนาวัลย์บริการตรวจสุภาพ
พี่น้องที่รัก บัญญัติใหม่แห่งความรักคือพินัยกรรมสุดท้าย ที่พระคริสตเจ้าทรงมอบแก่เราคริสตชน พระองค์ทรงเน้นพระวาจานี้ถึงสามครั้ง “ให้รักกันและกัน” นี่คือคำสั่งของพระองค์และได้ทรงประทานแบบอย่างแก่เรา “เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” ด้วยเหตุนี้เอง นักบุญเอากุสตินได้กล่าวว่า “ใครที่มีความรักแท้ สามารถทำทุกสิ่งได้” พระความรักที่แท้จริงจะไม่นำไปสู่บาปและความผิด
พระเยซูเจ้าได้มอบบัญญัติใหม่และแบบอย่างในการปฏิบัติสำหรับเรา ปัญหาก็อยู่ตรงที่ว่า เราจะนำมาปฏิบัติให้เป็นจริงในชีวิตประจำวันของเรา มากน้อยแค่ไหน หากเราดำเนินชีวิตและปฏิบัติตามแบบอย่างความรักเช่นว่านี้ เราจะเป็นพยานชีวิตที่ดีเยี่ยมของพระคริสตเจ้าในครอบครัว หมู่คณะและสังคมของเรา
 ชุมชนวัดป่าพนาวัลย์ตรวจสุขภาพ วันที่ 20 เมษายน 2016
บทอ่านที่หนึ่ง นักบุญเปาโลประสบผลสำเร็จอย่างมากในการประกาศพระวรสารครั้งแรก ท่านได้ก่อตั้งกลุ่มคริสตชนใหม่ในที่ต่างๆ ความรักต่อพระเจ้าและพระวรสารของพระองค์ได้เป็นพลังและปลุกเร้าให้ท่านเข้มแข็ง ในการเผชิญกับความยากลำบากต่างๆ ท่านได้แวะเยี่ยมกลุ่มคริสตชนที่ท่านได้ก่อตั้งขึน ปลุกเร้าพวกเขาให้เข้มแข็งในความเชื่อ
บทอ่านที่สอง ยอห์นได้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าได้ทรงทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นสิ่งใหม่ ผ่านทางพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ ยอห์นได้เขียนถึงการเห็นนิมิตนครเยรูซาเล็มใหม่ ที่ซึ่งบรรดาผู้ที่ได้รับการช่วยให้รอดได้พบกับสันติสุขและความชื่นชมยินดี ในการเป็นส่วนหนึ่งแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า
พระวรสาร พระวรสารวันนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ที่พระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าอัครสาวกและยูดาสผู้ทรยศได้ออกจากห้องไปแล้ว พระองค์จึงได้ตรัสกับบรรดาอัครสาวกที่เหลือแบบเปิดอกเกี่ยวกับพระสิริรุ่งโรจน์และบัญญัติใหม่ของพระองค์ นี่คือความปรารถนาสุดท้ายที่พระองค์ตรัสกับบรรดาอัครสาวกและศิษย์ของพระองค์
 ฝนและพายุฤดูแล้งที่ตกบริเวณวัดป่าพนาวัลย์ วันที่ 22 เมษายน 2016
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1)       สำหรับผู้ที่เห็นต่างเรื่องการทำสุสานศักดิ์สิทธิ์ที่ไร่มะยมหอม ขอให้ส่งรายชื่อพร้อมที่อยู่เพื่อจะได้ส่งให้ผู้ใหญ่ทางอัครสังฆมณฑลเพื่อดำเนินการต่อไป
2)       วันอังคารที่ 26 เมษายน 2016 ขอเชิญร่วมฉลองวัดนักบุญเปโตร มุกดาหาร พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 11.00 น.
3)       วันพุธที่ 27 เมษายน 2016 ขอเชิญร่วมฉลองวัดแม่พระเหรียญอัศจรรย์ แก่งกะเบา พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
4)       วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2016 ขอเชิญร่วมพิธีปฏิญาณตนตลอดชีวิตและฉลองการปฏิญาณตนครบ 25 ปี คณะภคินีรักกางเขนแห่งท่าแร่ ณ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ เวลา 10.00 น.
5)       วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2016 ขอเชิญร่วมฉลองอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
6)       เงินทานวันอาทิตย์มิสซาเช้า จำนวน  1,214.- บาท, มิสซาเย็น จำนวน 462.- บาท รวม 1,676.- บาท
7)       สำหรับซองบอกบุญสมทบทุนสร้างศาลามีคาแอลเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ขอให้พี่น้องได้มาแจ้งยอดและรับได้ที่คุณพ่อ
 หลั่งมาเองดั่งฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน ขอบคุณพระเจ้า
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
วันอาทิตย์
24
10.00 น.
19.30 น.
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
สุขสำราญพี่น้องชาวป่าพนาวัลย์
จันทร์
25
19.00 น.
ฉลอง น.มาระโก

วันอังคาร
26
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

วันพุธ
27
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

วันพฤหัส
28
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

วันศุกร์
29
19.00 น.
ระลึกถึง น.กาทารีนาแห่งซีเอนา

วันเสาร์
30
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา



 งานกีฬาต่อต้านยาเสพติดเทศบาลเมืองทองท่าแร่ วันที่ 23 เมษายน 2016 
Cr ภาพ fb นาฎฤดี คำผาเยือง