วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

พระวาจาไม่เคยล้าสมัย

พระวาจาไม่เคยล้าสมัย
วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 7:2-14
ลก 21:29-33
ในสัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม พระเยซูเจ้ามักตรัสถึง “วาระสุดท้ายของโลก” “การเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์” และ “วาระสุดท้ายของแต่ละคน” พระศาสนจักรเจริญเติบโตขึ้นท่ามกลางการทดลองและการเบียดเบียน ในสถานการณ์แห่งความยากลำบาก พระองค์ทรงขอร้องบรรดาศิษย์ให้ยืนตรงและเงยหน้าขึ้น เพื่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสายตาของผู้มีความเชื่อ และตระหนักว่าการช่วยให้รอดใกล้เข้ามาแล้ว (ดู ลก 21:28)
คำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อและต้นไม้แตกใบอ่อน ให้ภาพพจน์ที่งดงามของความหวังและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สำหรับพระเยซูเจ้าวาระสุดท้ายของพระองค์กำลังใกล้เข้ามา พระมหาทรมานของพระองค์กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทรงบอกล่วงหน้าถึงการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม วาระสุดท้ายของโลก และวาระสุดท้ายของแต่ละคน “เช่นเดียวกันเมื่อท่านเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็จงรู้เถิดว่าพระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” (ลก 21;30)
เครื่องหมายในธรรมชาติช่วยเราให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา แต่ยังมีเครื่องหมายภายในจิตใจและหัวใจที่เราต้องเฝ้าสังเกต เพราะเป็นเครื่องชี้ถึงเงื่อนไขของชีวิตฝ่ายจิตและความพร้อมของเราในการพบพระเยซูเจ้า เรารู้สึกลังเลไหมเมื่อไปรับศีลอภัยบาป นานแค่ไหนแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะความเกียจคร้านไม่กล้าพิจารณาบาป หรือเพราะความเคยชินในบาปและความผิดที่เรากระทำ เรารู้สึกเบื่อหน่ายในการอธิษฐานภาวนาบ้างไหม
พระเยซูเจ้าทรงทำนายถึงความพินาศของกรุงเยรูซาเล็ม จากการทำลายล้างของกองทัพโรมันซึ่งเกิดขึ้นปี 70 “คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น” (ลก 21:31) พระองค์ยังตรัสถึงวาระสุดท้ายของสรรพสิ่ง “ฟ้าดินจะสูญสิ้นไป แต่วาจาของเราจะไม่สูญสิ้นไปเลย” (ลก 21:33) ทุกสิ่งสร้างของพระเจ้ามีวันจบสิ้นและปรากฏเป็นจริง แต่พระวาจาของพระองค์ยังคงอยู่ เป็นจริงโดยปราศจากข้อสงสัย และไม่เคยล้าสมัย
วันของพระเจ้าหรือการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใด ศิษย์พระคริสต์ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ มั่นใจในพระวาจาของพระเจ้า และเจริญชีวิตตามพระวาจาที่เป็นจริงเสมอและไม่เคยล้าสมัย อีกทั้ง ตระหนักถึงพระพรแห่งชีวิตของเราที่จะถึงวาระสุดท้ายสักวันหนึ่ง ทำวันนี้และขณะนี้ให้ดีที่สุด
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Amari Don Muang Airport, Bangkok
30 พฤศจิกายน 2017
ทึ่มาภาพ: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10208368038238062&set

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

นักบุญอันดรูว์ อัครสาวก

นักบุญอันดรูว์ อัครสาวก
30 พฤศจิกายน
ฉลอง น.อันดรูว์ อัครสาวก
รม 10: 9-18
ลก 21: 12-19
วันนี้พระศาสนจักรให้เราทำการฉลองนักบุญอันดรูว์ อัครสาวก องค์อุปถัมภ์ของชาวประมงและของประเทศสก๊อตแลนด์ โรมาเนีย และรัสเซีย คำว่า “อันดรูว์” (Andreas) ในภาษากรีกหมายถึง “ชายชาติบุรุษ” (น่าจะตรงกับชื่อ “สมชาย” ในภาษาไทย) หรือ “กล้าหาญ” รวมความแล้วหมายถึง ผู้มีความกล้าหาญอย่างชายชาติบุรุษ มีวันฉลองตรงกับวันที่ 30 พฤศจิกายนของทุกปี
อันดรูว์เป็นบุตรของโยนาห์ และเป็นน้องชายของนักบุญเปโตร ชาวประมงจากเบธไซดาเช่นเดียวกับยากอบและยอห์น บุตรเศเบดี ก่อนมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาเปอรนาอุม จากพระวรสารของนักบุญยอห์นทำให้เราทราบว่า อันดรูว์เคยเป็นศิษย์ของยอห์น บัปติสต์ เช่นเดียวกับยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร ก่อนได้พบกับพระเยซูเจ้า และเป็นผู้ชักนำเปโตรผู้พี่ชายให้มารู้จักพระเยซูเจ้า “เราพบพระเมสิยาห์แล้ว” (ยน 1:41)
เชื่อกันว่านักบุญอันดรูว์ได้ไปประกาศข่าวดีในแถบเอเชียน้อย และเป็นสักขีพยานถึงองค์พระคริสตเจ้าด้วยการตรึงกางเขนเป็นรูปกากบาท (X) ที่เมืองปาทราส (Patras) ทางตอนใต้ของประเทศกรีก ต่อมาภายหลังได้เรียกกางเขนแบบอันดรูว์ตรึงว่า “กางเขนของนักบุญอันดรูว์” ซึ่งกางเขนนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในธงชาติของประเทศสก๊อตแลนด์ รวมถึงธง Union Jack” ของสหราชอาณาจักรด้วย
ข่าวดีแห่งพระวรสารได้รับการประกาศแก่เราทุกวัน เราต้องพยายามดำเนินชีวิตแต่ละวันตามข่าวดีเช่นเดียวกับนักบุญอันดรูว์ ผู้เป็นพยานถึงข่าวดีด้วยชีวิต ความซื่อสัตย์ต่อพระวรสารของท่าน แม้ในห้วงเวลาแห่งความตายได้ให้บทเรียนล้ำค่าแก่เราว่า ท่านได้ประกาศพระวรสารจนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ท่านได้น้อมรับไม้กางเขนเป็นเหมือนบันไดนำไปสู่พระเยซูเจ้า
คริสตชนต้องร่วมมือกับพระหรรษทานของพระเจ้า ให้พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงตัวเราเป็นเหมือนนักบุญอันดรูว์ ชายชาติบุรุษผู้มีความกล้าหาญในการดำเนินชีวิตตามพระวรสาร ศิษย์พระคริสต์ได้รับการเรียกให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า ดำเนินชีวิตตามพระวรสารอย่างกล้าหาญ และมีความร้อนรนในการนำผู้อื่นมารู้จักพระเยซูเจ้า ตามบทบาทและฐานะของเราแต่ละคน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Holly Hotel Myanmar, Yangon, Myanmar
28 พฤศจิกายน 2017
ภาพ : นักบุญอันดรูว์, มหาวิหารนักบุญยอห์นลาเตรัน, โรม อิตาลี;  2007-09-17

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การเป็นสักขีพยาน

การเป็นสักขีพยาน
วันพุธ
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 5: 1-6, 13-14,16-17, 23-28
ลก 21: 12-19
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกล่วงหน้าถึงความยากลำบากและการเบียดเบียน ที่ผู้ติดตามพระองค์จะได้รับ “ถ้าเขาเบียดเบียนข่มเหงเรา เขาก็จะเบียดเบียนข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย” (ยน 15:20) คำทำนายนี้เป็นจริงหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร แต่พระเยซูเจ้าทรงให้ความมั่นใจกับบรรดาศิษย์ว่าจะไม่ทรงทอดทิ้งพวกเขา “แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28:20)
การเบียดเบียนเป็นโอกาสให้เราได้เป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซูเจ้า ถือเป็นการประกาศข่าวดีและแพร่ธรรมอย่างหนึ่ง นักบุญเปาโลได้ใช้โอกาสที่ถูกจำคุกประกาศข่าวดีกับกษัตริย์อากริปปาที่ 2 ผู้ว่าราชการ บรรดาผู้พิพากษาและผู้คุมเรือนจำ ทุกคนทราบว่าท่านถูกจำคุกเพราะเหตุรับใช้พระคริสต์ “ข้าพเจ้าผู้ถูกจองจำเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า” (อฟ 4:1)
พระนามเยซู ได้กลายเป็นเครื่องหมายของการต่อต้านและการเบียดเบียนเสมอมา ปัจจุบันมีคริสตชนเป็นจำนวนมากในหลายประเทศ ยังคงได้รับความทุกข์ยากลำบากและการเบียดเบียนเพราะการเป็นคริสตชน เช่นในประเทศมุสลิมที่ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติศาสนา คริสตชนถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนจากพวกมุสลิมหัวรุนแรงไอซิส
พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีการเบียดเบียนเพื่อชำระพระศาสนจักรให้บริสุทธิ์ เป็นเหมือนกับพายุที่พัดผ่านต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นและปลิวกระจาย เหลือแต่ลำต้นที่ไร้ใบ ดูคล้ายกับว่าต้นไม้กำลังตาย แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง ต้นไม้เริ่มแตกใบและออกดอกบานสะพรั่งอีกครั้ง การเบียดเบียนที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรเป็นเช่นใบไม้ที่ร่วงหล่น แต่ชีวิตของพระศาสนจักรยังคงดำเนินต่อไป และเกิดดอกออกผลสมบูรณ์
ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงองค์พระคริสตเจ้า เราต้องอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ที่ถูกเบียดเบียนเป็นพิเศษ ให้มั่นคงเข็มแข็งในความเชื่อ มีความเพียรทนและพากเพียรยินดีแม้ในยามยากลำบาก การยืนหยัดมั่นคงเป็นผลมาจากความรักและความเชื่อที่เป็นผู้ใหญ่  ทำให้เราไม่หวั่นเกรงต่อภยันตรายใดๆ “ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้” (ลก 21:19)
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Holly Hotel Myanmar, Yangon, Myanmar
28 พฤศจิกายน 2017
ที่มาภาพ: https://static.pulse.ng/img/incoming/origs3619470/5000484320-w980-h640/ISIS.jpg

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วันสิ้นโลก

วันสิ้นโลก
วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 2: 31-45
ลก 21: 5-11
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนถึงวาระสุดท้ายของโลกและของมนุษย์แต่ละคน โดยโยงไปถึงการล่มสลายของพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม ทรงเห็นภาพล่วงหน้าถึงจุดจบที่น่าสะพรึงกลัว “สักวันหนึ่ง ทุกสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะไม่มีหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย” (ลก 21:6) พระองค์ไม่ทรงต้องการให้มนุษย์กังวลถึงวันสิ้นโลก แต่ทรงสอนให้เตรียมตัวไปถึงวันนั้นด้วยความเชื่อและความซื่อสัตย์ ทรงให้ความมั่นใจกับเราว่าจะอยู่กับเราตลอดไป (มธ 28:20)
ไม่มีใครทราบว่าวันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อีกทั้งไม่รู้วันตายของตน แต่เราแน่ใจว่าวันสิ้นโลกจะมาถึงอย่างแน่นอน ในการเผชิญหน้ากับวาระสุดท้ายของโลกและความตาย เราต้องดำเนินชีวิตในความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัยที่ไม่มีเงื่อนไข ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางเรา โดยเฉพาะในตัวเพื่อนพี่น้อง พิจารณามโนธรรมก่อนนอนทุกวัน เพื่อขอสมาโทษและการให้อภัยจากพระเจ้า
เราต้องทำหน้าที่ประจำวันของเราให้ดีที่สุด ชาวอเมริกันมีสุภาษิตบทหนึ่งว่า “เขาตายในสภาพสวมรองเท้าบูท” หมายความว่าบุคคลนั้นตายขณะกำลังทำหน้าที่ เขาได้ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าจนถึงวาระสุดท้ายในโลก เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน ให้อภัยกันด้วยใจกว้าง และรับใช้กันเยี่ยงพระเยซูเจ้า นี่คือ การวางแผนตายพร้อมกับรองเท้าบูทด้วยการเดินตามแบบอย่างของพระคริสตเจ้า
เราต้องไม่กลัวการสิ้นโลกหรือการจบชีวิตจากโลกนี้ไป หากเราได้ดำเนินชีวิตอย่างชื่อสัตย์และทำหน้าที่ของเราอย่างดีและรับผิดชอบ เป็นพยานถึงความเชื่อคริสตชนด้วยการรักษาบทบัญญัติของพระเจ้าด้วยความเพียรทน เป็นความจริงว่าวาระสุดท้ายต้องมาถึง โลกจะถึงกาลอวสานในวันหนึ่ง ซึ่งมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้วันเวลาที่ชัดเจน สิ่งที่เราควรกระทำคือ ใช้วันเวลาที่เรามีให้เกิดประโยชน์สำหรับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
ศิษย์พระคริสต์ต้องทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ รับผิดชอบต่อผู้อื่น ไม่อยู่เฉยโดยไม่ทำงานหรือชอบไปยุ่งเรื่องของคนอื่น สำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้า เวลาปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราคือการเตรียมตัวเผชิญกับวันสิ้นโลกและวันสิ้นชีวิตของเรา ด้วยการรักและรับใช้พระเจ้าในผู้อื่นในแต่ละวัน เชื่อมั่นคงและวางใจพระเจ้าด้วยความเพียรทนจนถึงวาระสุดท้าย
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Amari, Don Muang Airport, Bangkok
27 พฤศจิกายน 2017
ที่มาภาพ: http://www.sismacentroitalia.itwp-contentuploads201611Decreto-legge-n205-terremoto-centro-Italia-800x533.jpg

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ความใจกว้างของหญิงม่าย

ความใจกว้างของหญิงม่าย
วันจันทร์
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ดนล 1: 1-6, 6-8
ลก 21: 1-4
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องทานของหญิงม่าย มิใช่เพราะจำนวนเงินสองเหรียญทองแดงที่เธอหย่อนลงในตู้ทาน แต่เพราะความใจกว้างของเธอที่ให้ทั้งหมดที่เธอมีอยู่ และจำเป็นสำหรับการเลี้ยงชีวิตเพื่อเห็นแก่พระเจ้า โดยไม่เก็บสิ่งใดไว้สำหรับตนเองเลย ขณะที่คนร่ำรวยและคนอื่นๆ แม้จะให้ทานด้วยเงินจำนวนมาก แต่เป็นส่วนที่เหลือกินเหลือใช้ พวกเขายังมีอีกอย่างเหลือเฟือ
เราได้เห็นความใจกว้างและความวางใจพระเจ้าของหญิงม่าย ที่ให้ทั้งหมดที่เธอมีแด่พระเจ้า เพราะเธอรู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นแหล่งที่มาของสิ่งดีทุกอย่าง เธอเข้าใจว่าไม่ใช่เงินทองที่ช่วยเธอให้รอดได้ แต่เป็นองค์พระเจ้าเท่านั้น สิ่งที่เธอครอบครองคือพระเจ้าและสมบัติแห่งเมืองสวรรค์ มิใช่สมบัติในโลกนี้ เธอจึงมอบตัวเองไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ และพระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งคนที่ใจกว้างและวางใจพระองค์
พระเยซูเจ้าทำให้ทุกคนประหลาดใจเมื่อตรัสว่า “หญิงม่ายยากจนคนนี้ทำทานมากกว่าทุกคน” (ลก 21:3) พระองค์ได้แสดงให้ทุกคนได้เข้าใจว่าพระเจ้าไม่ได้มองดูที่ปริมาณหรือความยิ่งใหญ่ของงานที่เรากระทำ แต่มองดูที่จิตใจและความตั้งใจจริงของเราในการกระทำสิ่งต่างๆ สิ่งเล็กน้อยที่เราทำในสายตาของใครต่อใคร อาจเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระเจ้า หากเรากระทำด้วยความรักยิ่งใหญ่อย่างหญิงม่ายยากจนในพระวรสาร
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องทานของหญิงม่ายยากจน เพราะความใจกว้างและความวางใจอย่างเต็มเปี่ยมของเธอที่มีต่อพระเจ้า “เราอาจทำสิ่งใหญ่โตไม่ได้ แต่เราสามารถทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา) เราต้องมีความใจกว้างและวางใจพระเจ้าเช่นเดียวกัน “ทุกสิ่งที่เรากระทำขอให้ทำด้วยความรักและเพื่อความรัก” (นักบุญฟรังซิส เดอ ซาล) ความเชื่อและความรักทำให้กิจการทุกอย่างมีคุณค่า
ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความใจกว้างและความวางใจพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ ให้กำลังใจ และอธิษฐานภาวนาเพื่อคนต่ำต้อยในสังคม เป็นต้น หญิงม่าย เด็กกำพร้า และคนยากจน เพื่อกิจการที่เรากระทำจะได้ยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระเจ้า และเป็นการสะสมสมบัติแห่งเมืองสวรรค์ ที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงไปจากเราได้
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
26 พฤศจิกายน 2017
ภาพ: หญิงม่ายที่บริจาคไม้ในที่ดินของตนให้วัดเพื่อทำศาลาที่สุสาน, วัดป่าพนาวัลย์, ท่าแร่ สกลนคร; 2017-11-26

วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สารวัดป่าพนาวัลย์, ปีที่ 3 ฉบับที่ 133

กล่องข้อความ:  สารวัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์ และวัดนักบุญเทเรซา วนาสามัคคี

ปีที่ 3  ฉบับที่ 133  อาทิตย์ที่ 26  พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560):  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 187 หมู่ที่ 5 บ้านป่าพนาวัลย์ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47230È086-231-3231

รา
สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์ วันฉลองวัด เสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2017
พี่น้องที่รัก สัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม พระศาสนจักรให้เราทำการสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล การเฉลิมฉลองนี้ช่วยเราให้มองไปยังอนาคตและเป้าหมายสุดท้ายของเรา พระเยซูเจ้าจะเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย ประทานรางวัลและการลงโทษตามการกระทำของแต่ละคน
พระวรสารได้แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกคนที่สมควรได้รับรางวัลกับคนที่สมควรได้รับโทษ เหมือนการแยกแกะออกจากแพะ “ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40) ให้เราได้กราบขอสมาโทษพระเจ้าหากเราได้ละเลยในการปฏิบัติความรักและช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
 ประชมพลมารีย์เปรซิเดียมแม่พระแห่งการ์แมล อาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2017
บทอ่านที่ 1: อสค 34,11-12,15-17 ประกาศกเอเสเคียลใช้ภาพพจน์ผู้เลี้ยงแกะ เพื่ออธิบายถึงความเอาใจใส่ของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ “เราจะตามหาแกะที่สูญหายไป เราจะนำแกะที่หลงทางกลับมา เราจะพันแผลของแกะที่บาดเจ็บ เราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย... เราจะเลี้ยงเขาอย่างยุติธรรม” ภาพพจน์นี้บรรลุความสมบูรณ์ในพระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
บทอ่านที่ 2: 1 คร 15, 20-26 นักบุญเปาโลได้เตือนคริสตชนเมืองโครินทร์เรื่องการกลับคืนชีพจากความตาย เหมือนดังพระคริสตเจ้าที่สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ เป็นดังผลแรกของบรรดาผู้ตาย ผู้ที่ดำเนินชีวิตในความเชื่อจะกลับคืนชีพได้รับความรอดและเกียรติรุ่งโรจน์ในพระคริสตเจ้า และเป็นส่วนหนึ่งแห่งพระอาณาจักรที่มีพระคริสตเจ้าทรงเป็นกษัตริย์
พระวรสาร: มธ 25:14-30 ในวันพิพากษาเราจะถูกตัดสินให้อยู่กับพระเจ้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าในโลกนี้เราได้ต้อนรับพระองค์หรือไม่ ได้แก่การต้อนรับพี่น้องที่ต่ำต้อยและลำบากทุกข์ร้อนทุกคนโดยไม่มียกเว้น เพราะในการรับสภาพเป็นมนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ทุกคน เราจะต้องมองเห็นพระองค์ในเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนเหล่านั้น
 พัฒนาวัดเตรียมฉลองความเชื่อประจำปี อาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2017
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.       ขอคำภาวนาเพื่อพระสังฆราชใหม่ที่จะมาทำหน้าที่ปกครองและนำอัครสังฆมณฑลของเรา ขอให้มีปรีชาญาณและเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพรของพระเจ้า
2.       ขอคำภาวนาเพื่อการเสด็จเยือนประเทศพม่าและบังคลาเทศของสมเด็จพระสันตะปาปา คุณพ่อจะเดินทางไปรับเสด็จที่พม่าด้วย ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2017
3.       วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2017 วันศุกร์ต้นเดือน เลื่อนการส่งศีลมหาสนิทไปเป็นวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2017
4.       การเตรียมฉลองวัด เสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2017: 1) ขอบคุณพี่น้องที่มาพัฒนาวัด วันอาทิตย์ที่ 19, เสาร์ที่ 25 อาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน และวันที่ 2 ธันวาคม เป็นต้นไป, 2) แห่แม่พระและเทศน์เอกวาร วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2017, 3) เชิญชวนพี่น้องได้ขอมิสซาโอกาสฉลองวัด, 4) เงินทำบุญฉลองวัดปีนี้เพื่อโครงการทำสุสานศักดิ์สิทธิ์และศาลาพักญาติ
5.       ขอบคุณยายวิพรรณ ยังสุข และครอบครัวลุงหวินที่ได้มอบต้นไม้สำหรับทำศาลาสันติสุข ณ สุสานศักดิ์สิทธิ์
6.       เงินทำรั้วสุสาน 39,700.- บาท และเงินสวดเดือนแม่พระ 41,000.- บาท รวมรายรับ 80,700.- บาท: 1) จ่ายค่าเสา ลวดหนาม และอุปกรณ์ 46,300.- บาท, 2) จ่ายค่าแรงทำรั้ว 16,560 รวมรายจ่าย 62,860.- บาท คงเหลือเงิน 17,840.- บาท
7.       เงินทานวันอาทิตย์ (19 พ.ย.) มิสซาเช้า 1,040.- บาท มิสซาเย็น 275.- บาท และเงินทานวัดวนาสามัคคี 105.- บาท
 พัฒนาวัดเตรียมฉลองความเชื่อประจำปี เสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
26
07.30 น.
10.00 น.
19.30 น.

สมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
†สุขสำราญ พี่น้องชาววนาสามัคคี
†สุขสำราญ พี่น้องชาวป่าพนาวัลย์
จันทร์
27
18.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

อังคาร
28
18.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

พุธ
29
18.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

พฤหัสบดี
30
18.00 น.
ฉลอง นักบุญอันดรูว์ อัครสาวก

ศุกร์
1
18.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

เสาร์
2
18.00 น.
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา

 ดูรั้วสุสานศักดิ์สิทธิ์และไม้เต็งที่จะนำมาทำเสาศาลาสันติสุขในสุสาน
พุธที่ 22 พฤศจิกายน 2017



การพิพากษาครั้งสุดท้าย

การพิพากษาครั้งสุดท้าย
วันอาทิตย์
สมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ปี A
อสค 34, 11-12, 15-17
1 คร 15, 20-26
มธ 25:31-46
บทนำ
ในอียิปต์ยุคโบราณเมื่อกษัตริย์ฟาโรห์สิ้นพระชนม์ พิธีฝังพระศพกระทำอย่างยิ่งใหญ่มาก ที่สำคัญข้าราชบริพารที่รับใช้ต้องตายไปพร้อมกับพระองค์ด้วย เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี นัยว่าต้องตามไปรับใช้พระองค์ในดินแดนของผู้ตายด้วย ฟาโรห์จึงเป็นเจ้าของชีวิตและความตายของข้าราชบริพาร นั่นคือความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ในโลกที่มีอำนาจมาก อยู่เหนือทุกคนแม้ในเวลาที่จากโลกนี้ไปแล้ว
ในสัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรมพระศาสนจักรให้เรา สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ความเป็นกษัตริย์ของพระองค์แตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ไม่มีข้าราชบริพาร ไม่มีวังที่ประทับ ไม่มีคทาที่แสดงถึงการเป็นกษัตริย์ ในทางตรงข้าม พระองค์มีมงกุฎหนามสวมพระเศียร ร่างกายเปลือยเปล่า พระพักตร์ชุ่มไปด้วยเลือด พระองค์ถูกทิ้งให้อยู่โดยลำพัง ขณะที่คนที่เคยติดตามพระองค์ต่างหนีเอาตัวรอด
1.        การพิพากษาครั้งสุดท้าย
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งการรับใช้ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเรา ทรงอยู่กับเราจนสิ้นพิภพ อำนาจและการปกครองของพระองค์อยู่ที่การรับใช้โดยไม่คิดถึงตนเอง อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความยุติธรรม ความรัก และการให้อภัย วันนี้เราฉลองความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ มิใช่ในฐานะผู้ปกครองที่กดขี่และอยู่เหนือคนอื่น แต่ในฐานะผู้รับใช้ ที่รักและให้อภัยโดยยอมตายเพื่อทุกคนบนไม้กางเขน
อำนาจกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแสดงออกอย่างเด่นชัดในการพิพากษาครั้งสุดท้าย ที่เราได้ยินในพระวรสารวันนี้ ในวันนั้นพระองค์จะเสด็จมาประทานรางวัลและลงโทษแก่ทุกคนอย่างรุ่งโรจน์ พระองค์ทรงสัญญาจะประทานรางวัลแก่เราอย่างแน่นอน ในทุกสิ่งที่เรากระทำต่อคนจนและคนต้องการความช่วยเหลือ ดังหนึ่งกระทำกับพระองค์เอง ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40)
วันสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล สอนเราให้รับใช้พระองค์ในเพื่อนพี่น้องของเราขณะนี้และเดี๋ยวนี้ ด้วยความรักและการอุทิศตน ไม่ต้องรอจนถึงวันสุดท้าย เพราะการพิพากษาของพระองค์เริ่มตั้งแต่เวลานี้ขณะที่เรามียังชีวิตอยู่ในโลก ทรงพิพากษาตามมาตรฐานแห่งความรักที่เราแสดงออกต่อเพื่อนพี่น้อง ดังนั้น ให้เราได้ยอมรับพระองค์อย่างกษัตริย์ของเรา และรับใช้พระองค์ในเพื่อนพี่น้องอย่างที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
2.        บทเรียนสำหรับเรา
การสมโภชและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องรับใช้พระเยซูเจ้าในเพื่อนพี่น้อง พระองค์ไม่ได้สอนด้วยคำพูดแต่สอนด้วยการกระทำ  “เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น” (มก 10:45) ทรงมอบแบบอย่างแห่งการรับใช้แก่เราในการล้างเท้าบรรดาอัครสาวก เราจึงมีหน้าที่รับใช้กันและกันบนพื้นฐานของความรักและการอุทิศตน เป็นต้นกับคนจน คนเดือดร้อน และคนต้องการความช่วยเหลือ จงปฏิบัติต่อกันโดยสำนึกว่าเรากำลังปฏิบัติต่อพระคริสตเจ้า
ประการที่สอง เราต้องรักและช่วยเหลือเพื่อนพี่น้อง ในวาระสุดท้ายแห่งการพิพากษา พระเจ้าจะไม่ถามว่าเราได้สวดภาวนามากน้อยแค่ไหน ได้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างไร แต่พระองค์จะถามว่า “เราได้รักและช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องของเราอย่างไร” เราจะถูกพิพากษาบนพื้นฐานของความรักที่เราปฏิบัติต่อพี่น้อง นี่คือมาตรฐานเดียวที่จะทรงพิพากษาเรา ไม่ว่าเราจะรู้จักพระองค์หรือไม่ก็ตาม
ประการที่สาม เราต้องต้อนรับและเคารพพระเยซูเจ้าในฐานะกษัตริย์ ในวันพิพากษาเราจะถูกตัดสินให้อยู่กับพระองค์หรือปีศาจ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราได้ต้อนรับพระองค์ในโลกนี้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องที่ต่ำต้อยและลำบากทุกข์ร้อนทุกคนโดยไม่ยกเว้น เพราะในการรับสภาพเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ทุกคน เราต้องจำและมองเห็นพระองค์ในเพื่อนพี่น้องที่ต่ำต้อยและเดือดร้อนเหล่านั้น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักแม้กระทั่งศัตรู ทรงเป็นกษัตริย์ที่รับใช้และมอบชีวิตเพื่อคนอื่น มิใช่ให้คนอื่นรับใช้ และทรงเป็นกษัตริย์ที่ให้อภัยเสมอ ให้อภัยแม้คนที่ประหารพระองค์ อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้ และการให้อภัย
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ของเราทุกคน ที่จะเสด็จมาพิพากษาเราในวาระสุดท้าย ทุกครั้งที่เราทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในความรัก การรับใช้ และการให้อภัย พระอาณาจักรของพระองค์อยู่ที่นั่น และที่ไหนที่พระองค์ทรงปกครอง ที่นั่นจะมีแต่ความยุติธรรม ความรัก และสันติสุข เราต้องดำเนินชีวิตเป็นพลเมืองดีในพระอาณาจักรของพระองค์ ในความรัก การรับใช้ และการให้อภัย เป็นต้นกับคนต่ำต้อยและต้องการความช่วยเหลือ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
25 พฤศจิกายน 2017
ภาพ: การพิพากษาครั้งสุดท้าย, วัดน้อยซิสติน, นครรัฐวาติกัน, อิตาลี; 2007-12-29