วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สารวัดป่าพนาวัลย์, ปีที่ 2 ฉบับที่ 59

กล่องข้อความ:   สารวัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์

ปีที่ 2  ฉบับที่ 59  วันที่ 26  มิถุนายน  ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559):  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 187 หมู่ที่ 5 บ้านป่าพนาวัลย์ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47230È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
ต้อนรับนายอำเภอเมืองสกลนครและคณะ 21 มิถุนายน 2016
พี่น้องที่รัก บทอ่านวันนี้พูดถึงการเรียกของพระเจ้าและการอุทิศตนในการตอบสนองต่อการเรียกของพระเจ้า  เราถูกเรียกร้องให้อุทิศตนทั้งครบอย่างมีอิสรภาพในการตอบรับต่อพระเยซูเจ้า เพื่อจะเป็นคริสตชนและเป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์ ไม่ใช่เพียงในวัด แต่ที่บ้าน ในที่ทำงาน และในความสัมพันธ์ทางสังคม ที่เราจะต้องเป็นพยานถึงความเชื่อคริสตชนในทุกที่ที่เราอยู่
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกเราให้มาเป็นคริสตชน “พระองค์ทรงเรียกเราให้มาตาย” นั่นคือตายต่อตนเอง ต่อความเห็นแก่ตัว และต่อความชั่วร้ายทั้งสิ้น และกลับเป็นคนใหม่ในพระคริสตเจ้า ไม่มีทางสายง่ายสำหรับการเป็นคริสตชน การตายต่อตัวเองคือการออกจากตัวเองและเปิดไปสู่คนอื่นเสมอ ในความรัก การรับใช้ และการให้อภัยซึ่งกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข
 นายอำเภอเมืองสกลนครและปลัดอำเภอให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย
บทอ่านที่หนึ่ง เอลีชาได้รับการเรียกให้เป็นประกาศกเพื่อนำประชากรอิสราแอล หลังจากรับรู้ถึงการเรียกของพระเจ้าผ่านทางประกาศกเอลิยาห์ เอลีชาได้ละทิ้งทุกสิ่งโดยไม่ลังเลเพื่ออุทิศตนรับใช้พระเจ้า เราได้รับการเรียกจากพระเจ้าเช่นเดียวกับเอลีชา เราต้องอุทิศตนทั้งครบเพื่อรับใช้พระเจ้า
บทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลเตือนชาวกาลาเทียถึงกระแสเรียกคริสตชนซึ่งเป็นการเรียกสู่ความเป็นอิสระ พระเยซูเจ้าทรงปลดปล่อยเราจากบาป ความกลัว ความกายและความชั่วร้าย เราจึงต้องมั่นคงในความเป็นอิสระ ไม่ใช้อิสรภาพเป็นข้อแก้ตัวเพื่อทำตามใจตนเอง แต่ติดตามพระคริสตเจ้าในการถือปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรัก ในการรักพระเจ้าและพี่น้อง
พระวรสาร นักบุญลูกาได้ย้ำถึงคำสอนเรื่องความรุนแรงของพระเยซูเจ้า หลังจากยากอบและยอห์นรู้สึกโกรธชาวสะมาเรียที่ไม่ต้อนรับพระองค์ จึงขอให้พระองค์ส่งไฟจากฟ้ามาเผาผลาญพวกเขา แต่พระองค์ปฏิเสธความรุนแรงและความชั่วร้ายทุกอย่าง อีกทั้งเรียกร้องความเด็ดเดี่ยวจากผู้ที่ต้องการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ จับคันไถแล้วต้องไม่หันหลังกลับ
 เยี่ยมบ้านลุงประวิทย์ จันทร์สุขและส่งน้องเค้กไปศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์
20 มิถุนายน 2016
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1)       เสื้อที่ระลึก 30 ปีชุมชนวัดป่าพนาวัลย์เสร็จแล้ว ขอพี่น้องได้สนับสนุน รายได้สมทบทุนสร้างอนุสรณ์สถานพระอัครสังฆราชมีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ และเฉลิมฉลองชุมชนวัดของเรา วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2016
2)       วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2016 วันศุกร์ต้นเดือน ส่งศีลมหาสนิทคนป่วยและผู้สูงอายุ
3)       วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2016 ประชุมกลุ่มคริสตชนพื้นฐานที่บ้านของยายวิพรรณ ยังสุข
4)       วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2016 สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล และแผ่เงินชุมชนท่าแร่เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง
5)       ประกาศการบวชเป็นพระสงฆ์ ของสังฆานุกรยอแซฟ เจริญโชค สันดี สัตบุรุษวัดนักบุญฟรังซิส เดอ ซาล เชียงยืน วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2016 ณ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ ใครที่เห็นว่าเขาไม่เหมาะสมและมีข้อขัดขวาง ได้แก่ (1) สอนผิดความเชื่อ, (2) เคยฆ่าผู้อื่นหรือมีส่วนในการทำลายชีวิตคน (ทำแท้ง) และ (3) มีเรื่องชู้สาวหรือภรรยาลับ ขอให้แจ้งให้พระสังฆราชทราบ ประกาศครั้งที่ 2
6)       เงินทานวันอาทิตย์มิสซาเช้า จำนวน  1,206.- บาท, มิสซาเย็น จำนวน 965.- บาท รวม 2,171.- บาท
7)       ขอขอบคุณผู้บริจาคสมทบทุนสร้างศาลามีคาแอลเกี้ยน เสมอพิทักษ์: คุณจันทร์เพ็ญ ศรีโสภณ ผ่านคุณลุงประวิทย์ จันทร์สุข จำนวน 700.- บาท
 คุณพ่อภัคพล มหัตกุลร่วมเสกบ้านป้ามุกดา มรดก 22 มิถุนายน 2016
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
วันอาทิตย์
26
10.00 น.
19.30 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
สุขสำราญพี่น้องชาวป่าพนาวัลย์
จันทร์
27
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

วันอังคาร
28
19.00 น.
ระลึกถึง น.อีเรเนโอ พระสังฆราช

วันพุธ
29
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

วันพฤหัส
30
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

วันศุกร์
01
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
วันศุกร์ต้นเดือน ส่งศีลมหาสนิทคนป่วย
วันเสาร์
02
19.00 น.
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา


เสื้อที่ระลึกครบรอบ 30 ปีเสร็จเรียบร้อยพร้อมส่งสำหรับผู้สั่งซื้อ

ศิษย์ที่แท้จริงของพระคริสตเจ้า

ศิษย์ที่แท้จริงของพระคริสตเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
ปี C
1 พกษ 19:16, 19-21
กท 5:1, 13-18
ลก 9:51-62
บทนำ
 เรื่องราวชีวิตของอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา นอกจากเป็นผู้นำคนสำคัญของโลกที่ทุกคนรู้จักแล้ว ลินคอล์นยังเป็นผู้นำชีวิตฝ่ายจิตที่มีความศรัทธาลึกซึ้งมากกว่าประธานาธิบดีคนใด มีเรื่องเล่าว่าช่วงสงครามกลางเมืองเหนือ-ใต้ ลินคอล์นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ไม่กระทำการรุนแรงต่อทหารฝ่ายใต้
หลังการต่อสู้สงบลงผู้บัญชาการทหารได้ถามลินคอล์นว่า “ทำไมท่านไม่ทำลายศัตรูเมื่อมีโอกาส” ประธานาธิบดีลินคอล์นได้ตอบด้วยถ้อยคำที่นำมาจากพระวรสารวันนี้ว่า “ข้าพเจ้าได้ทำลายศัตรูของข้าพเจ้าแล้ว ด้วยการทำให้เขากลายเป็นเพื่อน”  ซึ่งไม่เพียงกำจัดศัตรูให้หมดสิ้นไป แต่ยังได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
นี่คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเราในพระวรสารวันนี้ ความโกรธแค้นชิงชังในใจของเราหลายคนไม่ได้หมดไปด้วยการทำลายล้างศัตรูคู่อาฆาต หรือเห็นคู่อริถูกลงโทษและได้รับความทุกข์ทรมาน แต่เราจะพบความสุขสงบในใจจากการให้อภัยและไม่จดจำความผิด  นี่คือเครื่องหมายของการเป็นศิษย์ที่แท้จริงของผู้ติดตามพระคริสตเจ้าทุกคน

1.         ศิษย์ที่แท้จริงของพระคริสตเจ้า
ในตอนต้นของพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้ากำลังเดินทางจากแคว้นกาลิลีมุ่งหน้าสู่กรุงเยรูซาเล็มผ่านดินแดนของชาวสะมาเรีย ชาวยิวกับชาวสะมาเรียเป็นศัตรูที่เกลียดชังกันทั้งที่เดิมเป็นชาติเดียว เนื่องจากชาวสะมาเรียได้แต่งงานกับคนต่างชาติและหันไปนับถือรูปเคารพในช่วงเวลาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่อัสซีเรีย (722 ก่อน ค.ศ.) ชาวยิวทางใต้จึงถือว่าพวกนี้ไม่มีเลือดยิวบริสุทธิ์ ขณะที่พวกเขายังคงรักษาความเป็นชาติและศาสนาของตนอยู่  แม้จะประสบชะตากรรมเดียวกันถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน (587 ก่อน ค.ศ.)
อคติและความเกลียดชังทำให้ชาวสะมาเรียไม่ต้อนรับพระเยซูเจ้าและศิษย์ ทำให้ยากอบและยอห์นโกรธและร้องขอไฟจากฟ้ามาเผาผลาญพวกเขา เหมือนอลิยาห์ร้องขอไฟจากฟ้าในสมัยของท่าน (2 พกษ 1:9-12) พระเยซูเจ้าทรงห้ามปราม เพราะพระองค์มิใช่ผู้ทำลายล้างแต่เป็นผู้ช่วยให้รอด ที่สอนข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตากรุณา และการให้อภัย
ในตอนที่สอง พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องผู้ที่ต้องการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์จะต้องละทิ้งทุกสิ่ง พระเยซูเจ้าและข่าวดีของพระองค์จะต้องสำคัญที่สุด และต้องเป็นอิสระจากสิ่งของหรือข้อผูกมัดใดๆในโลก โดยมุ่งมั่น เพียรทน และอุทิศตนทั้งครบในการเลียนแบบอย่างพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงเรียกร้องการติดตามแบบไม่มีเงื่อนไข ออกจากตัวเองเพื่อเป็นพยานถึงข่าวดีในโลก

2.         บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ได้ให้บทเรียนสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องอดทนด้วยความรัก คนในสังคมปัจจุบันมีความอดทนต่ำ มักใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหามากกว่าเหตุผล เราต้องรักอย่างอดทนในการปฏิบัติต่อกัน เป็นต้นในครอบครัว สามี-ภรรยาต้องอดทนต่อความบกพร่องของกันและกัน รวมถึงในที่ทำงานระหว่างเพื่อนร่วมงาน และในหมู่คณะระหว่างเพื่อนบ้านและคนที่เราพบเห็น
ประการที่สอง เราต้องพร้อมที่จะให้อภัยและให้โอกาสคนที่ผิดพลาด พระเยซูเจ้าทรงรัก ให้อภัยและให้โอกาสเราโดยไม่มีเงื่อนไข เมื่อเราผิดพลาดเราต้องการการให้อภัยและโอกาสเพื่อเริ่มต้นใหม่ เราจึงไม่ควรเหยียบย่ำซ้ำเติมใครเมื่อผิดพลาด แต่พร้อมจะให้อภัยและให้โอกาส มีเพียงการให้อภัยเท่านั้นที่จะทำให้สันติสุขกลับคืนมา มิใช่การแก้แค้น
ประการสุดท้าย เราต้องละทิ้งทุกสิ่งและอุทิศตนทั้งครบ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมาก ที่ได้ยินข่าวดีที่พระเยซูเจ้าทรงท้าทายแต่ทิ้งพระองค์ไป และมีเป็นจำนวนมากที่ละทิ้งทุกสิ่งโดยปราศจากเงื่อนไขเพื่อเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ อย่างนักบุญฟรังซิส อัสซีซีที่ละทั้งความร่ำรวยและเกียรติยศชื่อเสียง เลียนแบบอย่างพระเยซูเจ้าด้วยหัวใจทั้งครบ เพื่อเป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์

บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงเรียกเราแต่ละคนให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์  เราถูกเรียกร้องให้อุทิศตนทั้งครบอย่างมีอิสรภาพในการตอบรับต่อพระเยซูเจ้า เพื่อจะเป็นคริสตชนและเป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์ ไม่ใช่เพียงในวัด แต่ที่บ้าน ในที่ทำงาน และในความสัมพันธ์ทางสังคม ที่เราจะต้องเป็นพยานถึงความเชื่อคริสตชนในทุกที่ที่เราอยู่
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกเราให้มาเป็นคริสตชน พระองค์ทรงเรียกเราให้มาตาย นั่นคือตายต่อตนเอง ต่อความเห็นแก่ตัว และต่อความชั่วร้ายทั้งสิ้น และกลับเป็นคนใหม่ในพระคริสตเจ้า ไม่มีทางสายง่ายสำหรับการเป็นคริสตชน การตายต่อตัวเองคือการออกจากตัวเองและเปิดไปสู่คนอื่นเสมอ ในความรัก การรับใช้ และการให้อภัยซึ่งกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

26 มิถุนายน 2016

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

25 ปีคณะออกัสติเนียนในอัครสังฆมณฑล

คณะภคินีออกัสติเนียนแห่งแม่พระแห่งความบรรเทา:
25 ปีของการทำงานในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
สมาชิกของคณะ 3 ท่านแรกที่เดินทางมาทำงาน กับพระคุณเจ้าคายน์ แสนพลอ่อน ผู้เชื้อเชิญ
โอกาสที่คณะภคินีออกัสติเนียนแห่งแม่พระแห่งความบรรเทา (Augustinian Sister of our Lady of Consolation) จากประเทศฟิลิปปินส์ ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทยและอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงครบ 25 ปี ซึ่งกำหนดฉลองวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ณ อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีและขอบคุณคณะนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องราวของคณะนี้ในโอกาสพิเศษนี้
1.    ประวัติความเป็นมา
คณะภคินีออกัสติเนียนแห่งแม่พระแห่งความบรรเทาของประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อ ค.. 1883 (.. 2426) โดย คุณแม่ริตา บาร์เชโล (Rita Barcelo) เพื่อดูแลเด็กๆ ที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะอหิวาตกโรคระบาดเมื่อ ค.. 1882 (.. 2425) ในฐานะที่คณะอุทิศตนเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะจึงถูกรวมเข้าไปในคณะนักบุญออกัสตินเมื่อ 31 พฤษภาคม ค.. 1902 (.. 2445) และ ค.. 1975 (.. 2518) ได้รับการยกฐานะเป็นคณะนักบวชจากสมณกระทรวงว่าด้วยคณะนักพรตและนักบวช
จิตตารมณ์
คณะได้ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของคนจนด้วยงานด้านการศึกษา ด้านสังคม และด้านศาสนบริการอื่นๆ หลายรูปแบบ ภายใต้จิตตารมณ์ “การประกาศข่าวดีกับคนจน” ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อที่มีชีวิต ในความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสตเจ้าในหมู่คณะแห่งความเป็นพี่น้องและในการรับใช้ที่ต่ำต้อยอดทน ซึ่งเป็นความจำเป็นและต้องการของพระศาสนจักร
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
คณะมีวิสัยทัศน์และพันธกิจในการปาวารนาตนเองว่า จะเป็นพยานที่เป็นประกาศกด้วยชีวิตการทำงาน การบำเพ็ญพรตด้วยความเป็นปึกแผ่นกับประชาชน เป็นต้นคนจน   อุทิศตนต่อพระเยซูคริสตเจ้าและพันธกิจของพระองค์  ด้วยการประกาศพระวรสารที่ได้รับการฟื้นฟูทั้งครบ ซึ่งมีผลต่อการกลับใจทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ในการเปลี่ยนแปลงโลกและความบริสุทธิ์ของสิ่งสร้างให้เป็นจริงขึ้นมาได้ในพระอาณาจักรของพระเจ้า
 ในระยะเริ่มแรกซิสเตอร์ทั้ง 3 พักอยู่ที่อารามรักกางเขนแห่งท่าแร่
2.    การเข้ามาทำงานในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ให้แบ่งปันความเชื่อกับพี่น้องที่ไม่เป็นคริสตชนของทวีปเอเชีย  และตอบสนองภาคผนวกของสมัชชาใหญ่ของคณะให้แบ่งปันพระพรแห่งความเชื่อของตน คณะได้ส่งธรรมทูตกลุ่มแรก 3 คนมาทำงานในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.. 1991 (.. 2534) ตามคำเชิญของพระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน ประมุขแห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงขณะนั้น   เพื่อทำงานด้านสังคม การศึกษาและด้านสุขภาพอนามัยในอัครสังฆมณฑล 
ภคินี 3 รูปที่เดินทางมาและทำงานในอัครสังฆมณฑลในระยะเริ่มแรก ประกอบด้วย ภคินีมา ริตา ยูโล (Sr. Ma. Rita Yulo), ภคินีโซสิมา ดาเลนา (Sr. Zosima Dalena) และภคินีลูร์ด บานาเรส (Sr. Lourdes Banares) เพื่อทำหน้าที่สอนภาษาอังกฤษที่สามเณราลัยฟาติมาท่าแร่และโรงเรียนเซนต์ยอแซฟท่าแร่, ช่วยงานพยาบาลที่คลินิกเซนต์ยอแซฟท่าแร่ และสหกรณ์ร้านค้าท่าแร่ โดยพักอยู่ที่พักที่อารามภคินีรักกางเขนแห่งท่าแร่ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นเวลา 2 ปี ก่อนย้ายไปอยู่ที่ศูนย์คาทอลิกท่าแร่เมื่อ ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
คุณแม่มาลุซ อธิการเจ้าคณะเมื่อครั้งเดินทางมาร่วมงานเปิดบ้านของคณะ

.. 1997 (.. 2540) อธิการิณีเจ้าคณะได้ส่งสมาชิกมาเพิ่มอีก 1 คนคือ ภคินีเอเดน จิกานา (Sr. Eden Gicana) และ ค.. 1998 (.. 2541) อีก 1 คนคือ ภคินีเวโรนิกา จามิลี (Sr. Veronica Jamili) เพื่อทำหน้าที่สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนครและคลินิกเซนต์ยอแซฟท่าแร่ ต่อมา ค.. 2000 (.. 2543) ทางคณะได้ตอบรับคำเชิญจากพระสังฆราชยอร์ช ยอด พิมพิสาร แห่งสังฆมณฑลอุดรธานี โดยส่งภคินี 3 รูปไปเริ่มงานที่อำเภอพรเจริญ จังหวัดหนองคาย
บ้านหลังแรก
โครงการก่อสร้างบ้านพักของคณะเริ่มด้วยเงินสนับสนุนจากมิสซิโอ (2000 ยูโร) ผ่านคุณแม่มาลุซ มิจาเรส (Sr. Ma. Luz F. Mijares) อธิการิณีเจ้าคณะเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และอัครสังฆมณฑลฯได้มอบที่ดิน 3 ไร่ติดกับอารามกลาริสกาปูชินท่าแร่เป็นที่ก่อสร้าง แต่การก่อสร้างเริ่มกลางปี 2005 (พ.ศ. 2548) กระทั่งเสร็จสมบูรณ์มีพิธีเสกและเปิด 6 เมษายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) โดยพระอัครสังฆราช หลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ พร้อมกับพระอัครสังฆราชกิตติคุณลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน และคณะสงฆ์ โดยมีคุณแม่มาลูส มิจาเรส ภคินี พี่น้องคริสตชนและผู้มีพระคุณมาร่วมพิธี
 ซิสเตอร์พิงกี้และซิสเตอร์แอนเจิล ธรรมทูตรุ่นล่าสุด
3.      รายนามสมาชิกของคณะที่เข้ามาทำงานในอัครสังฆมณฑล
ลำดับ
ชื่อ-สกุล
ปีที่ทำงาน
1.              
Sr. Ma. Rita Yulo,OSA
1991-2002
2.              
Sr. Zosima Dalena, OSA
1991-1999
3.              
Sr. Lourdes Banares, OSA
1991-1998
4.              
Sr. Eden Gicana,OSA
1997-2001
5.              
Sr. Veronica Jamili,OSA
1998-2003, 2004-2012
6.              
Sr. Lorna Nabatar, OSA
2001-2004
7.              
Sr. Ma. Heriberta Catigan, OSA
2003-2008, 2012-2013
8.              
Ms Carolina Sayago – Lay Associate
2003-2004
9.              
Ms Gertrudes Lorenzo Lay Assosciate
2003-2004
10.       
Sr. Angostia Binarao, OSA
2005-2006
11.       
Sr. Marilou Cezar, OSA
2005-2011
12.       
Ms. Fe Pandagani Lay Assosciate
2007-2012
13.       
Sr. Mary Eden Gicana, OSA
2008-2013
14.       
Ms. Pandagani   - Lay Assosciate
2008-2009
15.       
Sr. Lorna Nabatar, OSA
2012-ปัจจุบัน
16.       
Sr. Angelita J. Sagun, OSA
2014-ปัจจุบัน
บทส่งท้าย
เมื่อมองย้อนไปในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้คณะภคินีออกัสติเนียนแห่งแม่พระแห่งความบรรเทา ประเทศฟิลิปปินส์ได้เดินทางมาทำงานในประเทศไทยและอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงคือ พระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน อดีตประมุขของอัครสังฆมณฑล ที่ได้เชื้อเชิญและร้องขออธิการเจ้าคณะให้ส่งสมาชิกมาทำงาน อีกทั้งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อให้ภคินีกลุ่มแรกสามารถทำงานได้
25 ปีที่ผ่านมาจึงเป็นช่วงเวลาแห่งพระพรของพระเจ้า ผ่านทางสมาชิกที่คณะส่งมาทั้งภคินีและฆราวาสแพร่ธรรมรวม 16 คน ซึ่งได้มีส่วนในการวางรากฐานงานด้านสังคม สุขภาพอนามัย และด้านการศึกษาให้เจริญก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสอนภาษาอังกฤษแก่สามเณรและนักเรียนในโรงเรียนของอัครสังฆมณฑล การเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจคนเจ็บป่วย ผู้พิการและคนขัดสนในชุมชน นับเป็นการประกาศข่าวดีแก่คนจนและเป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระเจ้า ที่คริสตชนแห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงสัมผัสได้และควรรำลึกพระคุณ
 งานของคณะในปัจจุบันผ่านทางซิสเตอร์ทั้งสอง


คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

24 มิถุนายน 2016