วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่


การเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี B
ศฟย 3:14-18
ฟป 4:4-7
ลก 3:10-18
บทนำ

ชายคนหนึ่งได้ไปเยี่ยมชมวัดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งปฏิมากรกำลังแกะสลักรูปพระเยซูเจ้า เขาสังเกตเห็นรูปแกะสลักแบบเดียวกันวางนอนอยู่ใกล้ๆ เขารู้สึกแปลกใจจึงถามช่างแกะสลักว่า “จำเป็นต้องใช้รูปแกะสลักที่เหมือนกันถึงสองรูปเลยหรือ” ช่างแกะสลักตอบว่า “ไม่, ใช้เพียงรูปเดียว เพียงแต่รูปแรกเกิดความเสียหาย จึงต้องสลักรูปใหม่” เขาพิจารณาดูรูปที่วางอยู่สวยงามมากไม่เห็นมีตำหนิอะไร จึงถามว่าเสียหายตรงไหน ช่างแกะสลักตอบว่า “มีรอยแตกร้าวตรงปลายจมูกพระเยซูเจ้านิดหน่อย”

ชายคนนั้นถามต่อไปว่า “แล้วจะวางรูปที่กำลังแกะสลักไว้ที่ไหน” ช่างแกะสลักตอบว่าจะตั้งบนเสาสูง  25 ฟุต เขาจึงพูดกับช่างแกะสลักว่า “ถ้ารูปนี้วางบนเสาสูงขนาดนั้น คงไม่มีใครมองเห็นรอยตำหนินั้นหรอก” ช่างแกะสลักหยุดจากงานที่กำลังทำอยู่ ยิ้มและพูดกับชายคนนั้นว่า “แต่ผมรู้ว่ามันแตกร้าวมีตำหนิตรงไหน ผมต้องการให้รูปนี้ออกมาดีที่สุด แม้จะไม่มีใครสังเกตเห็นก็ตาม”

เมื่อไม่นานมานี้กัลลัปโพล (Gallup poll) ได้เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชาวอเมริกัน พบว่าคนที่ไปวัดกับคนที่ไม่ไปวัดไม่มีความแตกต่างใดๆ เกี่ยวกับความประพฤติทางศีลธรรม ในหมู่คนที่ไปวัดยังคงมีการเอารัดเอาเปรียบและไม่ซื่อสัตย์เช่นเดียวกับคนอื่นทั้งหลาย โดยเฉพาะค่านิยมที่ว่า “ถ้าคนส่วนใหญ่เขาทำกัน เราก็สามารถทำได้ไม่บาป” หรือ “แม้จะทำผิดศีลธรรมแต่ถ้าไม่มีใครเห็น เราก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่” เช่นนี้เอง การต้อนรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าจึงกลายเป็นเพียงพิธีกรรมหรือธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำเป็นประจำทุกปี แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นในชีวิต

1.           การเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่

ยอห์น บัปติสต์ ได้นำสารการเป็นทุกข์กลับใจที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ยอห์นได้เทศน์สอนอย่างร้อนรน เรียกร้องให้ประชาชนเตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ นี่คือข่าวดีที่นักบุญลูกาเน้นในพระวรสารวันนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าการเสด็จมาของพระผู้ไถ่จะสถาปนาการปกครองใหม่แห่งการให้อภัย การแบ่งปันและการไถ่ให้รอด การเป็นทุกข์กลับใจที่ยอห์นประกาศ เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงความประพฤติ มิใช่การเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำในอดีต

ยอห์นต้องการให้ผู้คนแบ่งปันสิ่งที่มีซึ่งกันและกัน บนหลักของความยุติธรรมทางสังคม ที่พระเจ้าไม่พึงประสงค์ให้ใครพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี ขณะที่มีคนเป็นจำนวนมากอยู่ในสภาพที่ขัดสน ยอห์นจึงบอกผู้คนให้แบ่งปันสิ่งที่ตนเองมี เช่น เสื้อผ้า อาหารแก่คนที่จำเป็นและกำลังหิว หากพวกเขาเสียใจในบาปและต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างแท้จริง พวกเขาต้องเป็นพี่น้องกับทุกคนและตระหนักว่า มีสิ่งไหนบ้างที่จะแบ่งปันกับคนอื่นในโอกาสคริสต์มาสนี้

ยอห์นไม่ต้องการให้ผู้คนละทิ้งงานหน้าที่เพื่อความรอดสำหรับตนเอง แต่ต้องทำงานหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ยอห์นเรียกร้องประชาชนให้มีความซื่อสัตย์ต่องานหน้าที่ของตน ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด อาทิ คนเก็บภาษีต้องเก็บภาษีด้วยความเที่ยงธรรม ทหารต้องมีวินัย ไม่ขู่กรรโชกหรือเรียกเก็บเงิน ทั้งนี้เพราะงานหน้าที่แต่ละอย่างคือการรับใช้พระเจ้า ดังคำกล่าวของนักบุญฟรังซิส เดอ ซาล ที่ว่า “จงผลิบานในที่ที่เขาเพาะปลูก” เราได้รับการคาดหวังให้เกิดผลหรือเป็นเชื้อแป้งในที่ที่เราอยู่

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนสำหรับเราคริสตชน ในการเตรียมฉลองการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในหนทางที่ถูกต้องหลายประการ

ประการแรก จงเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ยอห์นได้ท้าทายความพยายามของเราในการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ลด ละ เลิกความประพฤติและค่านิยมที่ไม่ดีต่างๆ อาทิ การพนัน ยาเสพติด ความอิจฉาริษยาและการทะเลาะเบาะแว้ง ถือปฏิบัติตามธรรมบัญญัติในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ทำงานหน้าที่แต่ละวันให้ดีที่สุด ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด

ประการที่สอง จงแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้ที่ต้องการ ยอห์นได้ชี้ให้เห็นว่าเครื่องหมายของการเป็นทุกข์เสียใจในบาป และการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ที่แท้จริงคือ การแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้ที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เพราะทุกคนคือพี่น้องของเรา ที่สุด เราต้องแบ่งปันความรักของเรากับผู้อื่นด้วยการรับใช้ที่สุภาพถ่อมตน โดยปราศจาความเห็นแก่ตัว “จงทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่”  (บุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา)

ประการที่สาม จงเลียนแบบยอห์น บัปติสต์ ผู้เตรียมทางของพระคริสตเจ้า เราแต่ละคนต่างเป็นผู้เตรียมทางของพระคริสตเจ้า ในการนำพระคริสตเจ้าไปสู่ผู้อื่นที่อยู่ในความดูแลของเรา บิดามารดาต้องปลูกฝังค่านิยมพระวรสาร และจิตตารมย์ของการเป็นคริสตชนที่แท้จริงให้กับบุตรหลาน เราแต่ละคนจะต้องเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า ในการนำผู้คนให้รู้และตระหนักว่าพระคริสตเจ้าเป็นพระเจ้า พระผู้ไถ่และพี่ชายของเขา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ความโน้มเอียงในหมู่คริสตชนปัจจุบันมักจะเน้นแง่มุมด้านความเชื่อ มากกว่าผลเสียของความประพฤติด้านศีลธรรม ยอห์น บัปติสต์ได้เรียกร้องให้เราเปลี่ยนแปลงความประพฤติของเราเป็นลำดับแรก ด้วยการเป็นทุกข์กลับใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่จากค่านิยมและความประพฤติที่ไม่ดีต่างๆ ละทิ้งความเห็นแก่ตัวและแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับเพื่อนพี่น้องด้วยความยินดี เพื่อรับเสด็จพระคริสตเจ้าให้มาประทับในชีวิตของเรา

ในปีแห่งความเชื่อนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาได้เชิญชวนเราให้ประกาศความเชื่อของเราและกลายเป็นผู้ประกาศข่าวดีใหม่ในโลก ให้เราวอนขอพระพรจากพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงตัวเรา และช่วยเราให้ฟังสารของพระองค์ที่ยอห์น บัปติสต์นำมา เพื่อเราจะได้เป็นเครื่องมือที่ดีของพระองค์ ในการทำงานหน้าที่ของเราในแต่ละวันให้ดีที่สุด ตามบทบาทและฐานะของเราแต่ละคนโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ถูกต้อง

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
14 ธันวาคม 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น