วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

จงกลับใจและเชื่อข่าวดี

 

จงกลับใจและเชื่อข่าวดี

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต

ปี B

ปฐก 9: 8-15

1 ปต 3: 18-22

มก 1: 12-15

บทนำ

แอนโทนี เยทส์ อาศัยในอาพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งของมหานครนิวยอร์ก วันหนึ่งเขาได้นำลูกเสืออายุสองเดือนมาเลี้ยงในห้องพักของตน สองปีผ่านไปลูกเสือตัวนั้นกลายเป็นเสือเบงกอลขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวกว่า 200 กิโลกรัม เช้าวันหนึ่งตำรวจได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเยทส์ว่า เขาถูกหมากัด เมื่อตำรวจไปถึงห้องพักชั้นสิบเก้า ก็ต้องตกใจเมื่อพบเยทส์ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลเหวอะวะตามตัว ที่แขนและขานอนจมกองเลือดอยู่หน้าห้องพัก

เพื่อนบ้านได้ให้ข้อมูลแก่ตำรวจว่า เขาไม่ได้ถูกหมากัดหรอก คงถูกเสือที่เลี้ยงไว้กัด หลายคนเคยห้ามปรามทักท้วงมิให้เอาสัตว์ป่าดุร้ายมาเลี้ยงในห้องพัก แต่เขาไม่เชื่อ คิดเพียงว่าสามารถเลี้ยงให้มันเชื่องได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแอนโทนี่ เยทส์ สะท้อนความจริงเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ หากเราพึงพอใจในการทดลอง หรือการผจญในชีวิต ซึ่งมักเริ่มจากสิ่งเล็กน้อย เช่น ขโมยเงิน 10-20 บาท ที่สุดก็ตกในบาปชั่วร้ายยิ่งใหญ่กว่านั้นหลายเท่า

เหมือนเรื่องราวของนักร้องร็อกเกอร์หนุ่มผู้โด่งดังคับฟ้าเมืองไทย ที่เปิดเผยในรายการวาไรตี้หนึ่งเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2012 เขาสารภาพว่า หลงเดินทางผิด เข้าไปพัวพันกับ ยาเสพติด” ตามอย่างนักร้องนักดนตรีต่างประเทศ ซึ่งเขาคิดว่า ตนเอง “เอาอยู่” สามารถควบคุม “ยานรก” ได้ แต่ความจริงทำไม่ได้ เพราะยาเสพติดมีแต่ให้โทษ นับวันมีแต่ถลำลึกมากขึ้นกว่าเดิม จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตที่ทุกคนกล่าวถึง

1.        จงกลับใจและเชื่อข่าวดี

ไม่มีใครในโลกมีชีวิตสมบูรณ์ โดยไม่เคยถูกผจญ หรือถูกทดลองเลย พระเยซูเจ้า บุตรพระเจ้าทรงรับเอากายเป็นมนุษย์มีประสบการเกี่ยวกับการทดลองเช่นเดียวกัน เพื่อเข้าใจชีวิตมนุษย์ในแบบครบถ้วน ปิตาจารย์ของพระศาสนจักรอธิบายว่า พระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองในถิ่นทุรกันดารภายหลังรับพิธีล้างจากยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ศีลล้างบาปและศีลอภัยบาปจึงเป็นอาวุธสำคัญและจำเป็นในการเอาชนะปีศาจ

เหตุผลที่เราแต่ละคนถูกทดลอง ปิตาจารย์ของพระศาสนจักรอธิบายว่า

1)               เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ว่า เราเข้มแข็งกว่าการทดลอง

2)               เพื่อได้ไม่หยิ่งทะนงตนจนเกินไปในพระพรที่เราได้รับจากพระเจ้า

3)               เพื่อปีศาจได้รับรู้ว่าเราปฏิเสธมัน

4)               เพื่อทำให้เราเข้มแข็ง

5)               เพื่อตระหนักถึงคุณค่าแห่งพระหรรษทานที่เราได้รับ

นักบุญมาระโกไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองของพระเยซูเจ้า เหมือนนักบุญมัทธิวและลูกา แต่เน้นพระดำรัสของพระองค์ในการเริ่มพันธกิจในฐานะพระเมสสิยาห์ ซึ่งถือเป็นการสรุปภารกิจของพระองค์ในการเสด็จมาในโลก

1)            “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว” ข่าวดีที่พระเยซูเจ้าประกาศช่วยให้เราได้เข้าใจว่า  พระเจ้าทรงทำงานอยู่ท่ามกลางเรา ซึ่งเราสามารถสัมผัสและมีความสัมพันธ์กับพระองค์ได้ในพระบุคคลของพระเยซูเจ้า

2)            “อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว” มิใช่สถานที่ แต่เป็นพลังแห่งความรักและการปกครองของพระเจ้าที่ปรากฏในพระบุคคลของพระเยซูเจ้า พลังแห่งความรัก ความเมตตากรุณา และการให้อภัยของพระเจ้า ปรากฏในคำสอนและการกระทำของพระองค์ ที่ปลดปล่อยและนำคนบาปให้มาเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า

3)            “จงกลับใจ” สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องคือการเปลี่ยนแปลงจิตใจตนเองจากภายใน แบบถอนรากถอนโคน หันหลังให้บาป หรือความประพฤติไม่ดีไม่งามต่าง ๆ ในชีวิต กลับมาหาพระเจ้าและเดินในหนทางถูกต้อง

4)            “เชื่อข่าวดีเถิด” ความเชื่อแท้เรียกร้องให้เราดำเนินชีวิตประจำวันตามคุณค่าพระวรสาร วางใจ และแสวงหาพระเยซูเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางศีลแห่งการคืนดี เพื่อได้รับการเยียวยารักษาและการอภัยบาปจากพระองค์

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องใช้เวลาในเทศกาลมหาพรตในการฟื้นฟูชีวิตของเรา ตลอดหกสัปดาห์ในเทศกาลมหาพรต ต้องเป็นช่วงเวลาที่เราเอาจริงเอาจังในการใช้โทษบาปและอธิษฐานภาวนา ชำระจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์จากความโน้มเอียงในบาป เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองธรรมล้ำลึกปัสกาพร้อมกับพระเยซูเจ้า ดังนั้น เทศกาลมหาพรตควรเป็นช่วงเวลาของการนำสิ่งที่พระวรสารท้าทายไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เพื่อนร่วมงานและบุคคลต่าง ๆ ที่เราพบ

ประการที่สอง เราต้องทำให้ชีวิตฝ่ายจิตเจริญเติบโต ด้วยการมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณประจำวัน การอธิษฐานภาวนาให้มากขึ้น การอ่านและรำพึงพระวาจาของพระเจ้า การลด ละ เลิกเหล้า บุหรี่ การพนัน และยาเสพติดทุกชนิด การมารับศีลอภัยบาปและร่วมพิธีเดินรูปสิบสี่ภาคทุกวันศุกร์ การอดสิ่งฟุ่มเฟือยเพื่อออมเงินสำหรับช่วยเหลือสังคมและงานสาธารณะกุศล หรือการเยี่ยมเยียนคนป่วยและงานเมตตาจิตต่าง ๆ เป็นพิเศษ

ประการที่สาม เราต้องต่อสู้กับความโน้มเอียงไม่ดี เราไม่อาจหลีกเลี่ยงการทดลองและความชั่วได้ พระเยซูเจ้าไม่ได้ชนะปีศาจในถิ่นทุรกันดาร แต่ทรงชนะมันในการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มหาพรตเตือนใจเราให้พยายามเอาชนะความโน้มเอียงไม่ดีและความชั่วอยู่รอบตัวเรา โดยไม่สิ้นหวัง หรือเลิกล้มความตั้งใจ พระเยซูเจ้าทรงให้ความมั่นใจว่า พระจิตเจ้าจะประทานพลังให้เราสามารถเอาชนะมันในที่สุด

บทสรุป

พี่น้องที่รัก เราได้เข้าสู่เทศกาลมหาพรตแล้ว เราควรใช้เวลาในการอธิษฐานภาวนา การอดอาหาร และการให้ทาน เพื่อการชำระจิตใจและฟื้นฟูชีวิตของเราในการติดตามพระเยซูจ้า นำเราให้มีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ เราถูกเรียกให้ก้าวไปข้างหน้าและฉายแสงแห่งความรัก การรับใช้ และแสดงเมตตาจิตต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและการพลีกรรมใช้โทษบาป

พระวรสารวันนี้บอกเราว่า นี่เป็นเวลาที่เราต้องหันมาหาพระเจ้า เพราะอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว  ศิษย์พระคริสต์ต้องสำนักผิด กลับตัวกลับใจ เปลี่ยนแปลงตนเองจากวิถีชีวิตไม่ดีต่าง ๆ  มีความเชื่อในพระเจ้าและเจริญชีวิตตามคุณค่าพระวรสารในชีวิตประจำวัน ในความรักเมตตาต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ด้วยหัวใจเปิดกว้าง เป็นต้น ในครอบครัว สังคม หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา

ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561), หน้า 18-21.

 ภาพ : การโปรยเถ้า, สำนักมิสซังฯ สกลนคร; 2021-02-17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น