การสัมผัสรักษาด้วยความรัก
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา ปี B |
ลนต 13:1-2, 45-46 1
คร 10:23-11:1 มก 1:40-45 |
บทนำ
มาร์ตินเป็นนายทหารหนุ่มในกองทัพโรมัน
วันหนึ่งขณะขี่ม้าไปตามถนน คนโรคเรื้อนคนหนึ่งได้เรียกเขาเพื่อขอเศษเงิน
กลิ่นเน่าเหม็นจากบาดแผลของโรคเรื้อน ทำให้มาร์ตินรู้สึกสะอิดสะเอียนและกำลังจะขวบม้าหนีไป
แต่มีบางสิ่งจากภายในทำให้มาร์ตินหยุดและเดินตรงไปที่ชายขอทานนั้น มาร์ตินได้ตัดชุดคลุมทหารเป็นสองส่วน
ให้ส่วนหนึ่งแก่คนโรคเรื้อนและคลุมตัวด้วยส่วนที่เหลือ
วันนั้นอากาศหนาวมาก
คนเห็นเหตุการณ์ต่างคิดว่าเป็นความโง่เขลา
แต่บางคนได้เห็นแบบอย่างการเป็นคริสตชนที่ดีของนายทหารหนุ่มโรมัน
คืนนั้นมาร์ตินฝันว่า เขาเห็นพระเยซูเจ้าใส่ชุดคลุมครึ่งส่วนนั้น
และตรัสกับบรรดาทูตสวรรค์รายล้อมบัลลังก์ของพระองค์ว่า “มาร์ตินได้คลุมตัวเราด้วยชุดคลุมของเขา”
เหตุการณ์วันนั้นได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของนายทหารหนุ่ม ผู้กลายมาเป็น นักบุญมาร์ตินแห่งตูร์
ท่าทีของมาร์ตินในตอนแรกสะท้อนท่าทีของคนทั่วไป
เนื่องจากโรคเรื้อนเป็นโรคติดต่อร้ายแรง สามารถติดต่อและทำลายบุคคลทั้งทางด้านร่างกาย
จิตใจ สังคมและศาสนา:
ด้านร่างกาย โรคเรื้อนสามารถกัดกินส่วนต่าง
ๆ ของร่างกายที่ละเล็กละน้อย จนทำให้เป็นเหมือนกับท่อนเนื้อเคลื่อนที่ได้
ด้านสังคม
คนโรคเรื้อนถูกตัดขาดจากสังคม
ถูกกักบริเวณให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะ ไม่สามรถติดต่อกับญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงได้
ด้านศาสนา
คนโรคเรื้อนเป็นคนบาปที่พระเจ้าทรงลงโทษและไม่บริสุทธิ์
ทำให้ไม่สามารถร่วมพิธีทางศาสนาในที่สาธารณะได้ ต้องคลุมตัวปิดหน้าและร้องว่า “มีมลทิน
มีมลทิน”
1. การสัมผัสรักษาด้วยความรัก
พระวรสารวันนี้ตรงข้ามกับสิ่งที่ชาวยิวเชื่อและปฏิบัติต่อคนโรคเรื้อนว่า
“โรคเรื้อนเป็นการลงโทษของพระเจ้าไหม” หากการปฏิบัติต่อคนโรคเรื้อนตามหนังสือเลวีนิติบรรยายเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมและส่งมา คงไม่รักษาชายโรคเรื้อนคนนั้น
ในอีกด้านหนึ่ง โรคเรื้อนเป็นโรคชนิดหนึ่งเหมือนโรคอื่นทั้งหลายที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาให้หายได้
คนโรคเรื้อนต้องการพิสูจน์ความจริงนี้ เขาได้ละเมิดกฎของโมเสสที่บอกให้อยู่ห่างจากผู้คน
เขามาเฝ้าพระเยซูเจ้าและคุกเข่าลงอ้อนวอนว่า “ถ้าพระองค์พอพระทัย
พระองค์ย่อมสามารถรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” (มก 1:40) พระเยซูเจ้าทรงสงสารตื้นตันพระทัย ยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขาและตรัสว่า “เราพอใจ
จงหายเถิด” (มก 1:41) เป็นสัมผัสแห่งรักซึ่งพิสูจน์ว่า โรคเรื้อนมิใช่การลงโทษของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ไม่มีโรคชนิดไหนทำให้มนุษย์เป็นมลทิน
ที่ต้องถูกตัดขาดไม่ให้ร่วมพิธีทางศาสนา ทรงปลอบใจคนโรคเรื้อนด้วยการสัมผัสเขา
ตามกฎของโมเสส ใครสัมผัสคนโรคเรื้อนต้องเป็นมลทินจนถึงเย็น ทรงแสดงให้เห็นว่า ความรักและพระเมตตาของพระเจ้ายิ่งใหญ่เหนือกฎเกณฑ์ใด
ๆ และมีต่อมนุษย์ทุกคนโดยไม่ยกเว้น พระองค์เสด็จมาตามหาแกะผลัดฝูง ทรงกางพระกรต้อนรับทุกคนด้วยความรักหาที่สุดมิได้
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องเห็นคุณค่าของมนุษย์ทุกคน
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราและผู้ติดตามพระองค์
ให้สวมกอดและเห็นคุณค่าของมนุษย์ด้วยกันซึ่งเท่าเสมอกัน โดยเฉพาะคนต่ำต้อยด้อยค่าในสายตาของเรา
คนถูกทอดทิ้ง หรือสังคมรังเกียจ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยโรคเอดส์ ทุกคนเป็นลูกของพระเจ้า ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่
เยียวยารักษา และช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม
ประการที่สอง
เราต้องมีใจเมตตาและพร้อมช่วยเหลือทุกคน พระเยซูเจ้าทรงสงสารตื้นตันพระทัย
ด้วยการยื่นมือสัมผัสและรักษาคนโรคเรื้อน พระองค์ไม่ได้รักษาด้วยคำพูด
แต่ด้วยการกระทำ เราต้องทำบางสิ่งบางอย่างในการช่วยคนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
ไม่มีใครถูกแบ่งแยก
หรือตัดขาดจากหมู่คณะ ทรงต้องการเราเป็นเครื่องมือในการสัมผัสแห่งรัก และนำทุกคนมาหาพระเจ้า
ประการที่สาม เราต้องอธิษฐานภาวนาด้วยใจสุภาพ คนโรคเรื้อนมีท่าทีสุภาพ
เข้ามาเฝ้าและคุกเข่าลงอ้อนวอนพระเยซูเจ้า เราต้องมีท่าทีเช่นเดียวกัน
เพื่อขอให้พระองค์รักษาโรคเรื้อนฝ่ายวิญญาณที่เปื้อนบาปให้สะอาด เลียนแบบนักบุญเปาโลด้วยการยึดเอาพระคริสตเจ้าเป็นแบบอย่าง
และทำทุกอย่างเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า “เมื่อท่านจะกินจะดื่มหรือทำอะไรก็ตาม
จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด” (1
คร 10:31)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนโรคเรื้อนและนำเขากลับมาสู่หมู่คณะอีกครั้ง ด้วยการยื่นมือสัมผัสและรักษาเขา เป็นสัมผัสแห่งรักโดยไม่รู้สึกรังเกียจ ทำให้เราตระหนักว่า
พระเมตตาและความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่และอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใด ๆ โดยเฉพาะคนถูกทอดทิ้งและถูกตัดขาดจากสังคม
เราต้องพร้อมยื่นมือสัมผัสด้วยความรัก ช่วยเหลือด้วยเต็มใจ และเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคนโดยไม่แบ่งแยก
โรคที่แพร่ระบาดในปัจจุบันไม่ใช่โรคเรื้อน แต่เป็นโรคขาดความรัก จิตใจเต็มด้วยความเกลียดชังและการแบ่งแยกแตกต่าง
ศิษย์พระคริสต์ได้รับการเรียกให้เจริญชีวิตเป็นเครื่องหมายแห่งพระทัยเมตตาและความรักของพระเจ้า
ทรงประสงค์ให้แต่ละคนสานต่อพันธกิจของพระองค์ในการสัมผัสรักษาด้วยความรัก และนำทุกคนให้มาเป็นหนึ่งเดียวกันในพระองค์
โดยไม่มีใครถูกตัดขาด หรือถูกทอดทิ้ง
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
13 กุมภาพันธ์ 2021
ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี เยี่ยมยายหนู, วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด น้ำบุ้น, สกลนคร; 2021-01-23
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น