ไม่ดีแต่พูด
แต่ลงมือทำ
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 26
เทศกาลธรรมดา ปี A |
อสค 18:25-28 ฟป 2:1-11 มธ 21:28-32 |
บทนำ
ณ วัดแห่งหนึ่งหลังพิธีบูชาขอบพระคุณ พระสงฆ์หนุ่มซึ่งเพิ่งย้ายมาใหม่ได้ถามสัตบุรุษว่า
“เราจัดให้มีการศึกษาพระคัมภีร์เพื่อเรียนรู้พระวาจาของพระเจ้าดีไหม” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เป็นความคิดที่เยี่ยมมาก” เขารู้สึกดีใจที่ทุกคนเห็นดีด้วยและได้นำเสนอเจ้าอาวาส
คุณพ่อเจ้าอาวาสได้บอกให้ถามสัตบุรุษอีกครั้งว่า
“มีใครมาเรียนบ้าง” สัปดาห์ต่อมาเขาประกาศว่า “ใครสนใจร่วมโครงการศึกษาพระคัมภีร์ให้มาลงชื่อ”
ปรากฏว่ามีมาแค่สองคน
ทำให้พระสงฆ์หนุ่มตระหนักว่า การตอบรับข้อเสนอกับการปฏิบัติจริงเป็นคนละเรื่อง
ทุกสังคมมีคนดีแต่พูดแต่ไม่ทำอะไร สอดรับกับอุปมาเรื่องบุตรสองคนในพระวรสารวันนี้ ชายเจ้าของสวนองุ่นมีบุตรสองคน
เขาได้ไปหาบุตรคนแรกร้องขอให้ไปทำงานที่สวนองุ่น แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดีในตอนแรก
ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนใจไปทำงาน ขณะที่บุตรคนที่สองสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไป
แต่สุดท้ายไม่ได้ไป
อุปมานี้เกิดขึ้นในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มสามวันก่อนพระเยซูเจ้าถูกจับ ทรงโต้แย้งกับหัวหน้าสมณะและพวกผู้อาวุโสของชาวยิว
(มธ 21:23) บุตรคนแรกเป็นตัวแทนของคนเก็บภาษี หญิงโสเภณี และคนบาปซึ่งเจริญชีวิตในบาปในสายตาของชาวยิว
แต่ได้เชื่อและเปลี่ยนแปลงชีวิต บุตรคนที่สองเป็นตัวแทนของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี
ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นคนชอบธรรม แต่เมื่อบุตรพระเจ้าเสด็จมากลับปฏิเสธและจับพระองค์ไปตรึงกางเขน
1.
ไม่ดีแต่พูด
แต่ลงมือทำ
อุปมาเรื่องบุตรสองคนสอนเราว่า คำพูดไม่อาจทดแทนการกระทำได้
บุตรทั้งสองตอบรับคำร้องขอของบิดาแตกต่างกัน คนแรกตอบปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ขณะที่คนที่สองตอบอย่างสุภาพ
แต่ไม่ไป คำตอบรับอย่างสุภาพของเขาไม่อาจทดแทนการกระทำได้ การกระทำเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความรักแท้
เวลาเป็นเด็กเราคงเคยบอกรักแม่ และแม่มักพูดว่า “แม่หวังว่าลูกจะทำให้แม่เห็นมากกว่านี้”
อุปมานี้สะท้อนคนสองประเภท
ซึ่งเป็นคนไม่สมบูรณ์ทั้งคู่และไม่มีค่าควรแก่การยกย่อง คนแรกดีกว่าคนที่สองในแง่ที่เขายอมปฏิบัติตามในภายหลัง
การกระทำของเขาดีกว่าคำพูด มีคนเป็นจำนวนมากจัดอยู่ในประเภทนี้
แม้ไม่ได้อ้างตัวเป็นคริสตชนหรือไม่รู้จักชื่อของพระเยซูเจ้าด้วยซ้ำ
แต่ชีวิตของเขาเป็นตัวอย่างดี มีคุณธรรมยิ่งกว่าคนเป็นคริสตชนเสียอีก
เป็นชีวิตที่เสียสละ คิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง
ขณะที่อีกคนให้คำมั่นสัญญาหนักแน่น
แต่ทำในสิ่งตรงข้าม ทำนอง “พูดอย่าง ทำอย่าง” “มือถือสาก ปากถือศีล” หรือ
“ดีแต่พูด” ชีวิตจริงหรือความประพฤติไม่สอดคล้องกับคำพูดหรือสิ่งที่สอน คนประเภทนี้มักอ้างตัวอย่างหนึ่ง
แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม คำพูดของเขาไม่มีน้ำหนักและไม่น่าเชื่อถือ คนประเภทนี้เป็นที่รังเกียจของสังคมและหมู่คณะ
ในความเป็นจริง “ไม่มีใครต้องการฟังว่าเราจะพูดอะไร แต่ต้องการดูว่าชีวิตของเราเป็นอย่างไรต่างหาก”
2.
บทเรียนสำหรับเรา
อุปมาเรื่องบุตรสองคนได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องไม่ดีแต่พูด เป็นการง่ายที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็น
แต่สิ่งที่ทำให้ความคิดนั้นมีคุณค่าและเกิดผลคือ การลงมือปฏิบัติ “การกระทำย่อมดังกว่าคำพูดเสมอ”
บ่อยครั้งเราเตือนบุตรหลานให้มาวัดวันอาทิตย์ ให้ถอยห่างจากการพนันและยาเสพติด
แต่เรากลับเป็นตัวอย่างไม่ดีสำหรับพวกเขา นักบุญยอห์นบอกเราว่า “อย่ารักกันแต่ปากเพียงด้วยคำพูดเท่านั้น
แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง” (1 ยน 3:18)
ประการที่สอง เราต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้ บิดาพูดกับบุตรทั้งสองว่า
“ลูกเอ๋ย วันนี้ จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด” (มธ 21:28)
เรามีชีวิตอยู่ใน “วันนี้” เท่านั้น ยังไม่รู้ว่า “พรุ่งนี้”
จะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ดังนั้น เวลาสำคัญที่สุดคือ ขณะนี้ วันนี้
ไม่ใช่การผัดวันประกันพรุ่ง เอาไว้ให้รวยกว่านี้ถึงทำบุญ หรือรอให้แก่ชราก่อนถึงเข้าวัด
แต่จงลงมือทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะ “อาจไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเรา”
ประการที่สาม เราต้องตอบรับพระเจ้า ทรงเรียกและเชื้อเชิญเราให้เปลี่ยนแปลงตนเองและตอบรับพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงตอบรับพระบิดาเจ้าและนอบน้อมเชื่อฟังจนถึงที่สุดคือความตายบนไม้กางเขน
การตอบรับหมายถึงการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า “ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา...นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้”
(มธ 7:21)
และหมายถึงการรับใช้ “บุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้
แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น” (มธ 20:28) ความสุขและความรอดพ้นของเราขึ้นอยู่กับการตอบรับพระเจ้าในชีวิต
บทสรุป
พี่น้องที่รัก อุปมาเรื่องบุตรสองคนสะท้อนความจริงว่าไม่มีใครดีพร้อม
แม้คนแรกดีกว่าคนที่สอง แต่ทั้งคู่ได้ทำให้บิดาผิดหวังและเจ็บปวด
ลักษณะของบุตรที่ทำให้บิดาปลื้มปีติคือ คนพร้อมรับคำสั่ง เชื่อฟัง และปฏิบัติตามด้วยใจยินดี
พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้มีอิสระที่จะตอบรับพระองค์ในการกระทำ ด้วยการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ในความรักต่อพี่น้อง
เห็นอกเห็นใจและให้อภัยกันด้วยใจกว้าง
อุปมาจบลงด้วยการเน้นคนบาปมาหาพระเยซูเจ้า บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีคิดว่าตนเองเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องพึ่งพระเจ้า
ตรงข้ามกับคนเก็บภาษี หญิงโสเภณี และคนบาปที่ กลับใจและรับใช้พระองค์ด้วยความกระตือรือร้น
ศิษย์พระคริสต์ต้องตอบรับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้าในการกระทำ ไม่ดีแต่พูด
ความเชื่อของเราต้องแสดงออกในภาคปฏิบัติ เพื่อได้ชื่อว่าเป็นคริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่
และเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย
26 กันยายน 2020
ภาพ: พิธีบูชาขอบพระคุณปลงศพเยราร์ด วิษณุ นาพรม, วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร; 2020-6-18
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น