วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563

วิธีปฏิบัติต่อพี่น้องที่ทำผิด

 

วิธีปฏิบัติต่อพี่น้องที่ทำผิด

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

ปี A

อสค 33:7-9

รม 13:8-10

มธ 18:15-20

บทนำ

ที่โบสถ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของหมู่บ้าน เด็กช่วยมิสซาคนหนึ่งได้ทำเหล้าองุ่นหกโดยไม่ตั้งใจ พระสงฆ์ผู้ถวายมิสซาได้ตบหน้าเขาเต็มแรงและไล่ให้ออกไปจากบริเวณพระแท่น  “ออกไปเดี๋ยวนี้และอย่ากลับมาอีก” ต่อมาภายหลังเด็กชายคนนี้ได้กลายเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ที่รู้จักกันในชื่อ โจซิป บรอซ ตีโต (Josip Broz Tito) ประธานาธิบดีของประเทศยูโกสลาเวียในช่วงปี 1944-1980

ณ อาสนวิหารของเมืองใหญ่แห่งนึ่ง เด็กช่วยมิสซาอีกคนทำหน้าที่ช่วยมิสซาพระสังฆราช ได้ทำเหล้าองุ่นหกโดยไม่ตั้งใจเช่นกัน พระสังฆราชผู้ประกอบพิธีมองเขาดูเขาอย่างเอ็นดูและกระซิบบอกเขาว่า “วันหนึ่งหนูจะเป็นพระสงฆ์” เด็กช่วยมิสซาคนนี้ต่อมาคือ “พระอัครสังฆราชฟูลตัน ชีน” (Fulton J. Sheen) ผู้มีชื่อเสียงชาวอเมริกันในการเทศน์สอนทางโทรทัศน์และวิทยุ

เราได้ปฏิบัติต่อผู้ทำผิดและสร้างปัญหาความยุ่งยากให้เราอย่างไร พระเยซูเจ้าได้ให้คำตอบกับเราในพระวรสารวันนี้ วิธีปฏิบัติต่อพี่น้องที่ทำผิด ในการตักเตือนกันฉันพี่น้องด้วยจริงใจ บนพื้นฐานแห่งความรักแบบคริสตชน ปัจจุบัน มีเด็กจำนวนมากถูกลงโทษและปฏิบัติด้วยความรุนแรง หรือถูกตามใจจนเคยตัว ทำให้ชีวิตของพวกเขาหลงเดินทางผิดจนยากแก่การแก้ไข

 

1.        วิธีปฏิบัติต่อพี่น้องที่ทำผิด

พระวรสารวันนี้พูดถึงหน้าที่คริสตชนพึงปฏิบัติต่อกัน คริสตชนไม่เพียงมีหน้าที่ต้องทำสิ่งถูกต้อง แต่ต้องช่วยคนอื่นให้ทำในสิ่งถูกต้องด้วย เราต้องเป็นเกลือและแสงสว่างส่องโลก ที่ฉายแสงให้คนอื่นได้เห็นความรักของพระเจ้า (ดู มธ 5:13-16) พระเยซูเจ้าทรงวางหลักพื้นฐานที่เราพึงมีต่อเพื่อนพี่น้อง “เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34) ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญในการปฏิบัติต่อกัน

หนังสือเลวีนิติ ได้วางระเบียบให้ชาวฮีบรูได้ตักเตือนกันและกันระหว่างเร่ร่อนในถิ่นทุรกันดาร โดยให้แนวทางเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อย่าเกลียดชังพี่น้องของเจ้าอยู่ในใจ แต่เจ้าจงตักเตือนเพื่อนบ้านของเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องรับโทษเพราะเขา” (ลนต 19:18) พระเยซูเจ้าทรงนำคำสอนนี้มาปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา (มธ 18:15)

นี่คือหน้าที่แห่งความรักที่พึงปฏิบัติต่อพี่น้อง ไม่รู้สึกสะดุดใจเมื่อใครทำผิด เพราะพระศาสนจักรมิใช่หมู่คณะของนักบุญที่มีความสมบูรณ์พร้อม  แต่เป็นหมู่คณะของคนบาปที่มุ่งไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ เราต้องก้าวเดินไปด้วยกันด้วยความรัก ไม่ทิ้งคนหนึ่งไว้ข้างหลัง แต่พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยคนทำผิดได้สำนึกตัว กลับใจและเดินในหนทางถูกต้อง เพราะ “พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์... ไม่ทรงปรารถนาให้คนธรรมดา ๆ เหล่านี้แม้เพียงผู้เดียวต้องพินาศไป” (มธ 18:14)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเรา ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันหลายประการ

ประการแรก  จงตักเตือนคนทำผิดด้วยความรักแบบพี่น้อง ไม่ตำหนิ กล่าวโทษหรือด่วนตัดสินจากความผิดที่เขาได้ทำ พระเยซูเจ้าทรงให้สามขั้นตอนในการตักเตือนกัน เริ่มจากไปพูดกับเขาเป็นการส่วนตัวโน้มนำเขาด้วยความรักและห่วงใย เพื่อนำมิตรภาพที่เสียไปกลับคืนมา หากความพยายามนี้ไร้ผล ให้พาอีกคนหรือสองคนไปด้วยเพื่อเป็นพยาน สุดท้ายจึงแจ้งให้หมู่คณะทราบ เพื่อให้เขาได้ตระหนักว่าหมู่คณะใส่ใจและต้องการให้เขากลับคืนมา

ประการที่สอง จงอธิษฐานภาวนาให้คนทำผิด พระเยซูเจ้าทรงเน้นความสำคัญของการอธิษฐานภาวนาแบบหมู่คณะ “ถ้าท่านสองคนบนแผ่นดินพร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ เพราะว่าที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา” (มธ 18:19-20) คำอธิษฐานภาวนาของหมู่คณะสามารถทำให้ความบาดหมางยุติลง และนำความเป็นหนึ่งเดียวกลับคืนมาอีกครั้ง

ประการที่สาม จงรักและให้อภัยคนทำผิด พระเจ้าทรงเป็นองค์ความรัก ที่ใดมีความรักที่นั่นมีพระเจ้า ความรักต่อพระเจ้าต้องแสดงออกต่อเพื่อนพี่น้อง และถือเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่ความสุข สันติภาพและความชื่นชมยินดี เพราะเหตุนี้เองนักบุญเปโลได้กล่าวว่า “อย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน” (รม 13:8) ความรักแท้จริงคือการให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง ไม่ถือโทษโกรธเคืองหรือจดจำความผิด

บทสรุป

พี่น้องที่รัก การตักเตือนกันเป็นเรื่องลำบากใจ แต่ในฐานะศิษย์พระคริสต์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะ เรามีความรับผิดชอบต่อพระศาสนจักรและหมู่คณะของเรา พระเจ้าทรงมอบบางคนให้อยู่ในความรับผิดชอบของเรา เช่น บุตรหลาน ลูกศิษย์ ลูกน้อง เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน คู่ชีวิตหรือสมาชิกในคณะ ฯลฯ บุคคลเหล่านี้ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเรา ซึ่งเราต้องช่วยเขาให้เดินในหนทางถูกต้อง

คริสตชนมีหน้าที่รับผิดชอบในการตักเตือนกันด้วยความรักแบบพี่น้อง ซึ่งต้องอาศัยความกล้าหาญ ความอดทน ความสุภาพอ่อนโยน ความจริงใจและความปรีชาฉลาด เพื่อรักษาชื่อเสียงและช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ทำสิ่งถูกต้อง ศิษย์พระคริสต์ต้องกล้าตักเตือนกันด้วยความรัก เริ่มจากในครอบครัว พ่อแม่ตักเตือนบุตรหลาน พี่ตักเตือนน้อง ผู้อาวุโสตักเตือนผู้น้อยกว่า และผู้น้อยต้องเชื่อฟังคำตักเตือน นี่คือหน้าที่แห่งความรักที่เราไม่อาจปฏิเสธได้

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร

5 กันยายน 2020

ภาพ: เด็กคำสอนวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร; 2020-08-07

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น