วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

เวลาแห่งชีวิตและพระยุติธรรมของพระเจ้า

เวลาแห่งชีวิตและพระยุติธรรมของพระเจ้า
อารัมภบท
เราเพิ่งผ่านปีใหม่มา เมื่อเริ่มปีใหม่เราต่างอายุเพิ่มขึ้น คนเราเมื่อเวลาผ่านไป อายุเริ่มมากขึ้น
สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นคือ “วุฒิภาวะ”                ที่ต้องลดลงคือ “อารมณ์”
สิ่งที่ต้องคิดให้มากขึ้นคือ “ส่วนรวม”       ที่ต้องคิดให้น้อยลงคือ “ส่วนตัว”
สิ่งที่ต้องพูดให้มากขึ้นคือ “ไม่เป็นไร”      ที่ต้องพูดให้น้อยลงคือ “จะเอาอย่างไง”
สิ่งที่ต้องทำให้มากขึ้นคือ “การให้”           และที่ต้องทำให้น้อยลงคือ “การรับ”
 มีคนเขาบอกว่า “เวลาอาจไม่มีปาก แต่มันสามารถบอกอะไรได้ดีกว่าคำพูด”
1.     เวลาแห่งชีวิต
ผมได้รับ “บัญชีสำรวจเวลาแห่งชีวิต” ที่ส่งต่อกันมาทางไลน์ (Line) ซึ่งผมได้พิมพ์ให้พี่น้องสงฆ์วันนี้ด้วยในตารางที่ 1 ตารางบอกว่ามาตรฐานอายุเฉลี่ยของคนคือ 75 ปี หรือ 27,375 วัน แต่ละปีของอายุขัยจะมีช่องแสดงวันที่ “ใช้ไปแล้ว” และวันที่ “เหลืออยู่” ดูเหมือนจะเน้นวันที่เหลืออยู่เป็นพิเศษ เช่น อายุ 75 ปี วันที่เหลืออยู่เท่ากับ 0, อายุ 70 ปี เหลืออยู่ 1,825 วัน, อายุ 50 ปี เหลืออยู่ 9,125 วัน  ยิ่งอายุน้อย วันเวลายิ่งเหลือมาก ยิ่งอายุมาก วันเวลายิ่งเหลือน้อย
หากดูตามตารางนี้ คนที่อายุเกิน 75 ปีถือเป็นกำไรชีวิต เป็นพระพรของพระเจ้า แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคนจะมีอายุถึง 75 ปีตามเกณฑ์ หรือยืนยาวถึง 80-90 ปี  ผมได้พิมพ์ตารางรายชื่อมิชชันนารีและพระสงฆ์ที่มรณภาพในสังฆมณฑลของเรา ให้พวกเราได้ดูด้วยในตารางที่ 2 ผมได้ลองคำนวณอายุเฉลี่ยของพระสงฆ์คือ 63.97 ปี หรือ 64 ปี
ในตารางที่ 2 เมื่อดูอายุเฉลี่ยเฉพาะพระสงฆ์ไทย อายุเฉลี่ยคือ 64.87 ปี หรือ 65 ปี จากค่าเฉลี่ยนี้จะเห็นว่าพระสงฆ์เรามีเวลาแห่งชีวิตสั้นมาก ต่ำกว่าเกณฑ์ถึง 10 ปี นั่นคือ 65 ปีเท่านั้น หากถือตามค่าเฉลี่ยนี้คนที่อายุเกิน 65 ปีต้องถือว่าเป็นกำไรชีวิต ต้องถือว่าบุญหลาย ดังสุภาษิตอีสานที่บอกว่า “บุญบ่หลาย บ่ฮอดห้าสิบ” ซึ่งเป็นความจริง
เราดูในตารางที่ 2 มีพระสงฆ์เราหลายองค์ที่เสียชีวิตขณะอายุยังน้อย เริ่มจาก คุณพ่อประสาน ทองอันตัง 31 ปี, คุณพ่อคำเขียน อุดมเดช 33 ปี เมื่อดูรายชื่อในลำดับถัดมามี คุณพ่อถวิล แสวงนาม 34 ปี, คุณพ่อสุดสาคร ศรีวรกุล  39 ปี และรายล่าสุด คุณพ่อทรงฤทธิ์ นาแว่น 39 ปี ซึ่งพระเจ้าได้เรียกไปเมื่อ 27 เมษายน 2016 ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันอย่างที่เราทราบ
ชีวิตสงฆ์ของเราเป็นชีวิตที่คิดถึงแต่ผู้อื่น ไม่ได้คิดถึงตัวเอง เลยไม่ได้ดูแลตัวเองเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ บางองค์ไม่เคยไปตรวจสุขภาพเลย เพราะกลัวหมอกับเกรงว่าสังฆมณฑลจะสิ้นเปลือง บางทีป่วยหนักยังต้องนั่งรถโดยสารคนเดียวไปหาหมอ น่าจะถือเป็นนโยบายให้ทุกคนตรวจสุขภาพทุกปี ทุกคนต้องสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมและหมอที่เก่ง
2.     พระยุติธรรมของพระเจ้า
ความยุติธรรมเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เพราะเห็นคนเท่าเสมอกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง พระเจ้าทรงเป็นองค์ความยุติธรรม ทรงรักทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข “พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม” (มธ 5:45) อีกทั้งยังเป็นประเด็นสำคัญที่พระเยซูเจ้าทรงตำนิพวกฟาริสีและธรรมาจารย์ “วิบัติจงเกิดแก่ท่าน ธรรมาจารย์และฟาริสีหน้าซื่อใจคด ท่านถวายหนึ่งในสิบของสะระแหน่ ผักชี ยี่หร่า แต่ได้ละเลยธรรมบัญญัติในเรื่องที่สำคัญ เช่น ความยุติธรรม ความเมตตากรุณา และความซื่อสัตย์” (มธ 23:23) จะเห็นว่าพระเยซูเจ้าให้น้ำหนักความยุติธรรมมาลำดับแรก
คำสอนพระศาสนจักรถือว่า “ความผิดที่เกี่ยวกับความยุติธรรม ต้องคืน ต้องชดเชย มิฉะนั้นบาปจะไม่หลุด” นี่คือสิ่งที่เราสอนเด็กเวลาเตรียมรับศีลมหาสนิทครั้งแรก เช่น หากไปขโมยหรือคดโกงอะไรเขามา ต้องคืน หากคืนไม่ได้ต้องชดเชย รวมถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดหรือขาดความรอบคอบเพียงพอ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สวนรวม ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะนี่คือความยุติธรรมที่เราไม่ค่อยพูดถึง
ในสังฆมณฑลของเราในอดีตที่ผ่านมา มีความเสียหายเกิดขึ้นมากมายจากการบริหารงานที่ผิดพลาด และการขาดความรอบคอบเพียงพอ เราจะเห็นชัดมากเวลาเปลี่ยนยุคสมัยและโยกย้ายแต่ละครั้ง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น แต่บ่อยครั้งการเปลี่ยนแปลงนั้นไปทำลายสิ่งเดิมที่ดีอยู่แล้ว ทำให้เกิดความเสียหายและการสูญเปล่าของเม็ดเงินมหาศาล จะว่าไปแล้วความยุติธรรมในโลกนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยาก โดยเฉพาะในสังคมไทยปัจจุบัน แต่สำหรับพระเจ้าไม่ใช่ พระองค์ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเสมอ
บทส่งท้าย
พี่น้องสงฆ์ที่รัก เวลาแห่งชีวิตของเราพระสงฆ์นั้นสั้นกว่าคนทั่วไป สั้นเกินกว่าที่จะเห็นแก่ตัว สิ่งที่เราต้องทำนอกเหนือจากการขอบคุณพระเจ้าและทำหน้าที่สงฆ์ของเราให้ดีที่สุดแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพของตนเอง  เพราะหากเราสุขภาพไม่ดี ร่างกายอ่อนแอ คงทำหน้าที่สงฆ์ได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะ หลักสุขภาพ 5 : อาหาร, อากาศ, อารมณ์, อุจจาระ และออกกำลังกาย
ชีวิตสงฆ์ของเรา มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ยั่งยืนและยิ่งใหญ่ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นความหวัง เป็นเป้าหมาย และเป็นหลักชัยของเรา ทุกอย่างที่เราทำ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อพระเจ้า ฉะนั้น ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องสงฆ์ทุกท่าน เป็นต้นคนที่เจ็บป่วย แม้ในโลกนี้เราจะมีความยากลำบากหรือไม่ได้รับความยุติธรรม แต่พระเจ้าทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเสมอ พระองค์จะประทานรางวัลและให้ความยุติธรรมแก่เราอย่างแน่นอน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
สำนักอัครสังฆมณฑล, สกลนคร
10 มกราคม 2017

1 ความคิดเห็น: